ร่างทรง องค์เจ้า

 
ponglanna
วันที่  27 เม.ย. 2554
หมายเลข  18274
อ่าน  6,416

ขอเรียนถามไขข้อข้องใจเกี่ยวกับร่างทรง องค์เจ้า อย่างที่บ้านของกระผมก็มีอยู่คนหนึ่งที่เป็นร่างทรง แต่เจ้าทรงองค์นั้นสามารถแก้ไสยศาสตร์ แก้อาถรรพ์ได้จริงครับ แต่กระผมมิได้เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่นะครับ แล้วก็มีผู้หญิงที่อายุยังหนุ่มอยู่ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตที่ไม่น่าจะกลับมาเป็นคนปกติได้เลยครับ แต่เขาก็ได้มารักษากับเจ้าทรงองค์นี้ และเขาก็สามารถหายจากเป็นอัมพาตได้ครับ แต่ร่างทรงองค์สามารถทำนายทายได้แม่นด้วยครับ แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าเป็นเพราะอะไร เจ้าทรงเขามีพลังอำนาจหรือเปล่าครับ หรือว่าเขาแกล้งทำ แต่ไม่ได้ลบหลู่นะครับ ช่วยไขข้อข้องใจด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 27 เม.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนให้มั่นคงในเรื่องของกรรม สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ไม่มีใครทำให้ใครเป็นอย่างไรได้ นอกจากกรรมของบุคคลนั้นเอง หากว่าใครจะหายโรค ก็เพราะกรรมที่เป็นอกุศลกรรมที่กำลังให้ผลนั้น ไม่ให้ผลแล้ว หรือกรรมดีมาตัดรอนให้ผลของอกุศลกรรมนั้นเสื่อมไปครับ ไม่มีใครทำอะไรใครได้แม้แต่ผู้ที่คิดว่าเป็นหมอเข้าทรง ก็ไม่พ้นจากอำนาจของกรรม หมอเข้าทรงเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือให้พ้นจากอำนาจของกรรมได้ หากว่ากรรมนั้นจะให้ผล หากหมอเข้าทรงมีอำนาจจริงก็คงทำให้ตัวเองหายจากโรคได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งหมอที่รักษาทั่วไป แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ ไม่มีใครเป็นใหญ่กว่าอำนาจของกรรม แม้แต่พระพุทธเจ้าเองผู้ที่ประเสริฐสูงสุดก็ไม่พ้นจากอำนาจของกรรมครับ หมอเข้าทรงจึงไม่ได้มีอำนาจ แต่กรรมต่างหากมีอำนาจทำให้สัตว์กระเสือกกระสนไปในที่ต่างๆ ในสังสารวัฏฏ์ และพบประสบกับทุกข์ประการต่างๆ การที่เขาเดาเหตุการณ์ถูก หรือรักษาคนป่วยให้หาย จึงไม่น่าอัศจรรย์เลย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เขารักษาหายและไม่ใช่ทุกคนที่เขาเดาเหตุการณ์ถูก แต่เมื่อเราถูกอำนาจของความไม่รู้ของปุถุชนอยู่ ไม่เข้าใจในเรื่องสัจจะที่พระองค์ทรงแสดง ว่าเป็นเรื่องของกรรมของแต่ละบุคคล เราจึงเข้าใจว่าหมอเข้าทรงมีอำนาจวิเศษ ไม่เช่นนั้นหมอที่รักษาคนไข้บางคนที่หายจากอัมพาตก็มีครับ เขาก็ไม่ได้มีความวิเศษหรือเข้าทรงอะไร แต่เพราะอาศัยการรักษาที่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือ กรรมของบุคคลนั้นที่เป็นอกุศลกรรมไม่ให้ผลอีก ก็หายจากโรคนั้นครับ จึงต้องมั่นคงในเรื่องของกรรมและมองตามความเป็นจริงก็จะเข้าใจตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงครับ

ส่วนในเรื่องของอมนุษย์เข้าสิงนั้น ในสมัยพุทธกาล มีตัวอย่างที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎก มีตัวอย่างและก็ได้แสดงว่า คนที่รักษาศีล (อุโบสถศีล) ยักษ์ย่อมไม่เข้าสิง แต่ถ้าในคนที่ประพฤติไม่ดี ยักษ์ย่อมเข้าสิง คนที่ถูกยักษ์เข้าสิงเพราะไม่มีศีลครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ...

ยักษ์ไม่เข้าสิงคนมีศีล [สานุสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 27 เม.ย. 2554

การเข้าทรง จึงเป็นเรื่องของความไม่รู้ และเป็นการเพิ่มความไม่รู้กับผู้เสพคุ้นและเพิ่มความสงสัยให้กับผู้พบเห็น พระพุทธองค์ทรงติเตียนการกระทำเหล่านั้นคือการเป็นหมอทรงเจ้า เพราะไม่ใช่ปัญญา ไม่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส กลับเป็นการเพิ่มกิเลสเพิ่มความไม่รู้กับผู้ทำเองและผู้เสพคุ้นด้วยครับ อันเป็นติรัจฉานวิชา คือวิชาที่ทำให้กั้นสวรรค์ คือไม่สามารถไปสุคติภูมิได้ และกั้นมรรค ผล คือไม่สามารถบรรลุได้เลยเพราะเป็นความไม่รู้ครับ

การกล่าวความจริงที่เป็นสัจจะจึงไม่ใช่การลบหลู่ แต่ประโยชน์คือความเข้าใจพระธรรมที่เป็นความเห็นถูกอันจะนำมาซึ่งประโยชน์ของตนและผู้อื่นครับ

อำนาจที่วิเศษจึงไม่ใช่การเดาใจหรือรักษาคนหาย แต่อำนาจวิเศษที่สูงสุงคือพระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าที่เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ อันมีปาฏิหาริย์สามารถทำให้ผู้ป่วยทางใจที่ไม่รู้ มีปัญญาขึ้น จนสามารถดับกิเลสหมดอันเป็นสิ่งที่ยากแสนยากกว่าโรคทางกายนั่นคือรักษาโรคใจครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 27 เม.ย. 2554

เรื่อง การเป็นหมอเข้าทรง พระพุทธเจ้าติเตียนและเป็นติรัจฉานวิชา

วิชาที่กั้นสวรรค์และการบรรลุธรรม

ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่

ติรัจฉานวิชา [พรหมชาลสูตร]

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 27 เม.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ควรพิจารณา คือ สิ่งที่กำลังกล่าวถึง (การเข้าทรง) นั้น เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ เป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏหรือไม่ หรือว่าเป็นไปเพื่อความไม่รู้ เป็นไปเพื่อความงมงาย เป็นไปเพื่อเพิ่มอกุศลให้มีมากขึ้น สิ่งที่ควรฟัง ควรศึกษา ที่จะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่างๆ เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรม นั่นก็คือ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ไม่ใช่เพื่อความไม่รู้ และไม่มีโทษมีภัยแก่ผู้ที่ศึกษาด้วยจุดประสงค์ที่ถูกต้องเลย มีแต่คุณประโยชน์โดยส่วนเดียวเท่านั้น ยิ่งศึกษามาก เข้าใจมาก ยิ่งมีประโยชน์มากเท่านั้น เพราะศึกษาเท่าใดก็ยังไม่พอจนกว่าจะเป็นผู้ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงสุด คือพระอรหันต์ เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมมากขึ้น ความประพฤติในชีวิตประจำวันก็จะเป็นไปในทางที่เป็นกุศลมากยิ่งขึ้น ตามกำลังแห่งความเข้าใจทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ ควบคู่ไปกับการเป็นผู้มีศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาต่อไป ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณผเดิม, คุณ ponglanna และ ทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ponglanna
วันที่ 27 เม.ย. 2554

ขอบพระคุณครับ และขออนุโมทนาให้แก่สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 28 เม.ย. 2554

พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเน้นเรื่องของปัญญา เน้นเรื่องของกรรมและผลของกรรม

ในพระไตรปิฎกก็มีแสดงไว้ คนไข้มี ๓ ประเภท

๑. คนไข้บางคน เป็นโรค รักษาหรือไม่รักษา ก็ไม่หาย เป็นโรคกรรม

๒. คนไข้บางคน จะรักษาหรือไม่รักษา ก็หาย

๓. คนไข้บางคน ต้องได้ยา ต้องได้อาหาร ได้คนดูแลที่เหมาะสม ถึงจะหาย

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ธรรมะหน้าเดียว
วันที่ 28 เม.ย. 2554

ทุกๆ คนหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม ซึ่งทุกๆ คนทำทั้งกุศลกรรม (ความดี) และอกุศลกรรม (ความไม่ดี) มานับภพนับชาติไม่ถ้วน กรรมดีและกรรมไม่ดีรอจะให้ผลเมื่อมีเหตุและมีปัจจัยถึงพร้อม เราจะพ้นกุศลกรรมและอกุศลกรรมได้ เมื่อเป็นพระอรหันต์และไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 28 เม.ย. 2554

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Thirachat.P
วันที่ 29 เม.ย. 2554
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 29 เม.ย. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Nareopak
วันที่ 30 เม.ย. 2554

ดิฉันเคยพิจารณาข้อธรรมะเรื่องของกรรมและผลของกรรม ในพระไตรปิฎกที่ทรงแสดงไว้ว่า คนไข้มี ๓ ประเภท (ตามความเห็นที่ 6) คือ เกิดอาการปวดท้องกลางดึก รู้ว่ามีทุกขเวทนาเกิดขึ้น (และระดับความรุนแรงของอาการปวด) แต่ไม่ได้เกิดการทุรนทุราย และคิดว่าเป็นอกุศลวิบากที่ส่งผล อยากพิสูจน์เหมือนกันว่า หากไม่กินยา อาการปวดจะหายไหม จึงไม่กินยารับรู้ความปวดไปเรื่อยๆ ไม่ได้หาอุบายใดๆ ที่จะทำให้อาการปวดทุเลาโดยการเปลี่ยนความรู้สึกไปรับรู้อารมณ์อื่น ไม่ทราบอาการปวดหายไปตอนไหนและหลับไปตอนไหน (หลับต่อจนถึงเช้า) ขอโทษนะคะหากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคใดๆ ก็แล้วแต่ หายได้เพราะร่างทรง ป่านนี้ประเทศไทยคงดังไปทั่วโลก (เพราะมีร่างทรงเยอะมาก) และไม่เสียดุลการค้ากับต่างประเทศเหมือนที่เป็นอยู่ขณะนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ponglanna
วันที่ 1 พ.ค. 2554

ใช่ครับ การที่มีร่างทรงมาช่วยรักษาหายนั้นเป็นไปไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าครับ จงเชื่อในผลของกรรม ธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ครับ

ขออนุโมทนาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 3 พ.ค. 2554

ถ้าเป็นตามนั้น หมอตกงานแน่ครับ สัจจธรรมไม่มีการเข้าทรงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
มกร
วันที่ 3 พ.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 3 พ.ค. 2554

คห 13

สัจจธรรมไม่มีการเข้าทรงครับ ... ฮา

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
nopwong
วันที่ 10 ก.ย. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ