ปัญหาของนักเต้นรำชื่อตาลบุตร [ตอนที่ ๑ ไปสู่นรกไม่ใช่เพราะอาชีพ]
ผู้ที่ตายแล้วไปสู่นรก ไม่ใช่เพราะผลของอาชีพนั้นๆ แต่เป็นผลของอกุศลกรรมต่าง หาก ทุกคนไม่ว่าจะมีอาชีพอะไร ก็ตามการสะสมของแต่ละท่าน ไม่ว่าจะมีอาชีพเป็นนัก เต้นรำ นักร้อง พ่อค้า นักวิทยาศาสาตร์ นักการเมือง เป็นหมอ ทุกท่านไม่ว่าอาชีพใด ก็ตามก็ยังเป็นผู้ที่มีกิเลสสะสมมามากมาย ในชีวิตประจำการพูด การคิดส่วนใหญ่ก็เป็น อกุศลอยู่แล้ว เมื่อสะสมจนมีกำลังก็เป็นปัจจัยให้ทางกายกระทำทุจริตกรรมบ้าง ทาง วาจาก็มีการพูดเท็จ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย สามารถที่จะก้าวล่วงอกุศลกรรมบถได้ ซึ่ง จะเป็นเหตุให้ไปสู่อบายภูมิ ส่วนผู้ที่เห็นโทษของกิเลส เห็นประโยชน์ของพระธรรมจึง ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นผู้ละเอียดเป็นผู้ตรงที่จะ ไม่ละเลยโอกาสที่จะเข้าใจจริงๆ ในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏก็สามารถที่จะบรรลุธรรมได้
ขออนุโมทนาค่ะ..
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง แต่ละบุคคลย่อมทราบเป็นอย่างดีว่าเมื่อเกิดมาแล้ว ที่จะไม่จากโลกนี้ไปหรือว่าที่จะไม่ตายนั้นไม่มี เกิดมาแล้วต้องตายอย่างแน่นอน ไม่มีใครรอดพ้นจากความตายไปได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตามเพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถจะรู้ได้ และหลังจากนั้นจะไปเกิดในภพภูมิใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผลของกรรมประเภทใด ตามความเป็นจริงแล้ว การเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นผลของกุศลกรรมเท่านั้น แต่ว่าตลอดชีวิตมานี้รวมถึงในอดีตชาติที่ผ่านๆ มาด้วย ไม่ใช่มีแต่เฉพาะกุศลกรรมเพียงอย่างเดียว อกุศลกรรมก็มีไม่น้อยเหมือนกัน และอกุศลกรรมนี้เองเป็นปัจจัยที่จะให้ปฏิสนธิ (เกิด) ในอบายภูมิรับผลของอกุศลกรรมนั้น ตามควรแก่อกุศลกรรมประเภทนั้นๆ พระธรรมทั้งหมดมีอุปการะเกื้อกูลอย่างยิ่งแก่พุทธบริษัท เป็นประโยชน์ทุกยุค ทุกสมัยเพื่อจะได้เป็นผู้ไม่ประมาทในอกุศล ไม่ประมาทกำลังของกิเลส แล้วก็มีความมั่นคงที่เจริญกุศลยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน ต่อไป โดยเฉพาะอย่ิางยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับ ครับ
...ขอบพระคุณพี่เมตตา และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...