นายเขมกะบรรลุเป็นพระโสดาบัน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 205
เรื่องบุตรเศรษฐีชื่อเขมกะ [๒๒๖]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภบุตรเศรษฐีชื่อเขมกะ ซึ่งเป็นหลานของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "จตฺตาริ านานิ" เป็นต้น
เขมกะเป็นนักเลงเจ้าชู้ ถูกจับถึง ๓ ครั้ง
ดังได้สดับมา นายเขมกะนั้นเป็นผู้มีรูปสวย โดยมากหญิงทั้งหลายเห็นเขาแล้ว ถูกราคะครอบงำ ไม่สามารถจะดำรงอยู่ตามภาวะของตนได้. แม้เขาก็ได้เป็นผู้ยินดียิ่งในปรทารกรรม (กรรมคือการคบหาซึ่งภรรยาของผู้อื่น) เหมือนกัน ต่อมา ในเวลากลางคืน พวกราชบุรุษจับเขานำไปแสดงแด่พระราชา. พระราชามิได้ตรัสอะไรกะเขา ด้วยทรงดำริว่า "เราละอายต่อมหาเศรษฐี" แล้วรับสั่งให้ปล่อยไป ฝ่ายนายเขมกะนั้น ก็มิได้งดเว้นเลย ต่อมา (อีก) พวกราชบุรุษก็จับเขาแล้วแสดงแต่พระราชาถึงครั้งที่ ๒ ที่ ๓. พระราชาก็รับสั่งให้ปล่อยเช่นเคย มหาเศรษฐีทราบเรื่องนั้นแล้ว พาเขาไปสำนักพระศาสดา กราบทูลเรื่องนั้นแล้วทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์โปรดแสดงธรรมแก่นายเขมกะนี้"
พระศาสดาทรงแสดงโทษแห่งปรทารกรรม
พระศาสดาตรัสสังเวคกถาแก่เขาแล้ว เมื่อจะทรงแสดงโทษในการเสพภรรยาของคนอื่น ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
"นระผู้ประมาทชอบเสพภรรยาของคนอื่น ย่อม ถึงฐานะ ๔ อย่าง คือ:
การได้สิ่งที่มิใช่บุญ เป็นที่ ๑
การนอนไม่ได้ตามความปรารถนา เป็นที่ ๒
การ นินทา เป็นที่ ๓
นรก เป็นที่ ๔
การได้สิ่งมิใช่บุญ อย่างหนึ่ง คติลามกอย่างหนึ่ง ความยินดีของบุรุษผู้ กลัวกับด้วยหญิงผู้กลัว มีประมาณน้อยอย่างหนึ่ง พระราชาย่อมลงอาชญาอันหนักอย่างหนึ่ง เพราะ ฉะนั้น นระไม่ควรเสพภรรยาของคนอื่น" ในกาลจบเทศนา นายเขมกะดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว ตั้งแต่นั้นมา มหาชนยังกาลให้ผ่านไปอย่างสบาย