พระโสดาบันพึงยังภพที่ ๘ ให้เกิด ไม่ใช่ฐานะที่มีได้
พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 688
จริงอยู่ พระศาสดาทรงพิจารณาชั่งแล้วด้วยการพิจารณาของพระพุทธเจ้า จึงทรงกำหนดไว้ด้วยพระสัพพัญญุตญาณว่า บุคคลผู้นี้ มีปัญญามากกว่าชนทั้งปวง มีวิปัสสนาคมกล้า จักยังภพที่หนึ่งเท่านั้นให้เกิด แล้วก็ถือเอาพระอรหัต ดังนี้ จึงได้ทรงทำชื่อว่า บุคคลนี้เป็นเอกพีชี. บุคคลนี้ยังภพที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ที่ ๖ ให้เกิดแล้วจักถือเอาพระอรหัต ดังนี้ และทรงทำชื่อว่า โกลังโกละ ดังนี้, และบุคคลนี้ยังภพที่ ๗ ให้เกิดขึ้นแล้วจักถือเอาพระอรหัต และได้ทรงทำชื่อว่า สัตตักขัตตุปรมะ ดังนี้. ก็บุคคลไรๆ ชื่อว่าเที่ยง ย่อมไม่มีแก่ภพทั้ง ๗.
อนึ่ง พระอริยสาวกผู้มีปัญญาน้อยกว่าด้วยอาการแม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านก็ไม่ถึงภพที่ ๘ ย่อมปรินิพพานในระหว่างภพนั้นแหละ.
จริงอยู่ พระโสดาบันผู้ยินดียิ่งในภพแม้เช่นกับท้าวสักกะก็ย่อมไปสู่ภพที่ ๗ เท่านั้น. แม้ท่านมีปกติอยู่ด้วยความประมาทโดยอาการทั้งปวง วิปัสสนาญาณของท่านก็ย่อมถึงความสุกรอบในภพที่ ๗. เพราะเมื่อท่านเบื่อหน่ายในอารมณ์แม้มีประมาณน้อยแล้ว ย่อมบรรลุพระนิพพานได้. ก็แม้ถ้าว่าเมื่อท่านก้าวลงสู่ความหลับ หรือว่า กำลังเดินไป มีใครๆ ที่จะประทุษร้ายยืนอยู่ในที่ลับข้างหลัง พึงยังศีรษะของท่านให้ตกไปด้วยดาบอันคมกล้า หรือพึงจับท่านกดลงในน้ำให้ตาย ก็หรือว่า สายฟ้าพึงตกลงบนศีรษะ ในเวลาแม้เห็นปานนี้ชื่อว่า การทำกาละ ปฏิสนธิในภพที่ ๘ อีก ย่อมไม่มี ย่อมจะบรรลุพระอรหัตนั่นแหละแล้วปรินิพพาน.
ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า พระโสดาบันพึงยังภพที่ ๘ ให้เกิด ดังนี้ ไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ดังนี้