กำจัดกิเลส
กิเลสของแต่ละบุคคลที่ได้สะสมไว้แตกต่างกัน เป็นเหตุให้อกุศลต่างๆ เกิดขึ้น
เป็นไปในชีวิตประจำวันน่ารังเกียจวิจิตรต่างๆ กันไป บางคนเห็นแต่อกุศลของผู้อื่น
เพ่งเล็งเพ่งโทษแต่อกุศลผู้อื่น ไม่เคยเห็นกิเลสอกุศลของตนเองเลย แล้วทำให้จิต
ของตนเองเศร้าหมองยิ่งขึ้น อกุศลของผู้อื่นช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน แต่ของตนเอง
กลับไม่เคยเห็นเลย การกำจัดกิเลสนั้นไม่ใช่ว่าจะไปกำจัดกิเลสของผู้อื่น แต่ควร
ที่จะกำจัดกิเลสที่เป็นของเน่าเหม็นที่อยู่ภายในใจของตนเอง แล้วจะกำจัดกิเลส
ของตนได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จักกิเลส ก็ไม่สามารถกำจัดกิเลสได้ ปัญญาเท่านั้นที่
จะกำจัดได้ ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้จักกิเลสตามความเป็นจริง จึงต้องอาศัยการฟัง
พระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง การอบรมเจริญปัญญา
เป็นหนทางเดียวที่จะดับกิเลส และกำจัดกิเลสได้ในที่สุด...
ขออนุโมทนาค่ะ..
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔- หน้าที่ 4
โทษของบุคคลเหล่าอื่นเห็นได้ง่าย ฝ่าย
โทษของตนเห็นได้ยาก เพราะว่าบุคคลนั้น ย่อมโปรย
โทษของบุคคลอันเหมือนบุคคลโปรยแกลบ แต่ว่า
ย่อมปกปิดโทษของตน เหมือนพรานนกปกปิดอัตภาพ
ด้วยเครื่องปกปิดฉะนั้น.
----------------------------------------------------------------
อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น ผู้
คอยดูโทษของบุคคลอื่น ผู้มีความมุ่งหมายในอันยก
โทษเป็นนิตย์ บุคคลนั้นเป็นผู้ไกลจากความสิ้นไป
แห่งอาสวะ.
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
"... การอบรมเจริญปัญญา
เป็นหนทางเดียวที่จะดับกิเลส และกำจัดกิเลสได้ในที่สุด..."ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาด้วยครับ
การศึกษาพระธรรมทำให้รู้จักกิเลสมากขึ้น..ยิ่งรู้จักมากยิ่งเห็นว่ากิเลสเป็นสิ่งน่ารังเกียจควรขจัดเป็นอย่างยิ่ง..ความเข้าใจพระธรรมเล็กๆ น้อยๆ ในระยะแรกจึงพยายามทีจะหาหนทางเพื่อขจัดกิเลสโดยเร็วต่อเมื่อศึกษาพระธรรมไปเรือยๆ จะรู้ได้ว่าไม่มีหนทางดังกล่าวเพราะปัญญาเท่านั้นที่จะขจัดกิเลสได้และการสะสมปัญญาต้องเริ่มทีละเล็กน้อยเป็นไปตามลำดับเริ่มต้นด้วยการฟัง...และกิเลสของผู้อื่นสามารถรู้ได้แต่ไม่สามารกำจัดได้ยิ่งเพ่งโทษผู้อื่นว่าไม่ดีอย่างไรก็เพิ่มอกุศลขณะที่คิดอย่างนั้น...พระธรรมเป็นสิ่งที่มีจริงพิสูจน์ได้เช่นข้อความที่ว่า....
โทษของบุคคลเหล่าอื่นเห็นได้ง่าย ฝ่าย
โทษของตนเห็นได้ยาก เพราะว่าบุคคลนั้น ย่อมโปรย
โทษของบุคคลอันเหมือนบุคคลโปรยแกลบ แต่ว่า
ย่อมปกปิดโทษของตน เหมือนพรานนกปกปิดอัตภาพ
ด้วยเครื่องปกปิดฉะนั้น.
ขออนุโมทนาคะ