พระอนาคามีต้องฟังธรรมเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า

 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่  17 มิ.ย. 2554
หมายเลข  18571
อ่าน  5,096

อนาคามีบุคคล ถ้าเป็นมนุษย์ เมื่อละจากโลกนี้แล้วมีคติแน่นอนว่าจะต้องไปเกิดที่ไหนครับ และจะต้องฟังธรรมเพิ่มเติมอีกจึงจะบรรลุอรหัตตผล หรือว่าพอเกิดก็บรรลุทันที หรือว่าในภพภูมิที่ท่านไปเกิดนั้นก็มีการอบรมเจริญปัญญาได้เช่นเดียวกับโลกมนุษย์นี่แหละ

ถ้าต้องฟังธรรมเพิ่มเติมอีกจึงจะบรรลุอรหัตตผล แต่ในภพภูมินั้นไม่มีผู้แสดงธรรมจะเป็นอย่างไร

ขอบพระคุณที่กรุณาชี้แนะหลักความรู้ที่ถูกต้อง ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

ขอนอบน้อบแด่พระรัตนตรัย

พระอนาคามีเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วจะไม่กลับมาเกิดในสุคติภูมิที่เป็นมนุษย์หรือเทวดา ๖ ชั้นเลยครับ แต่จะเกิดที่พรหมโลก มีรูปพรหม อรูปพรหมและสุทธาวาสภูมิก็ได้ครับ ซึ่งพระอนาคามี มีหลายประเภทครับ บางบุคคลเมื่อสิ้นชีวิตจากความเป็นพระอนาคามี เมื่อไปเกิดที่พรหมโลกก็บรรลุเป็นพระอรหันต์เลย เพราะอินทรีย์ คือปัญญา แก่กล้าแล้วครับ

แต่บางบุคคลเมื่อเป็นพระอนาคามีแล้ว สิ้นชีวิต ไปเกิดในพรหมโลก แต่ก็ยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะอินทรีย์ยังไม่แก่กล้าครับ คือ ปัญญายังไม่แก่กล้าที่จะบรรลุทันทีครับ ซึ่งท่านก็ต้องอบรมปัญญาต่อไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พรหมโลกยังมีการฟังพระธรรม เพราะในชั้นนั้นก็มีพระอริยเจ้ามากมายที่เกิดเป็นพรหม และมีการสดงธรรม ที่สำคัญ มีศาลาสุธรรมมาด้วยครับ ไม่ใช่เฉพาะที่เทวโลกเท่านั้นครับ ก็มีการฟัง การแสดงธรรม ทำให้มีการอบรมปัญญาได้ครับ

ดังนั้น จึงมีทั้งที่ผู้แสดงธรรมและผู้ฟังธรรมในพรหมโลก มี รูปพรหม เป็นต้นครับ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่บรรลุเป็นพระอริยเจ้า ท่านก็เข้าใจหนทางในการอบรมปัญญาก็ไม่พ้นการเจริญสติปัฏฐานต่อไป รู้ความจริงของสภาพธรรม เมื่อท่านยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านก็ต้องอบรมปัญญาต่อไปจนกว่าจะบรรลุ ซึ่งท่านก็พอทราบหนทางในการอบรมปัญญาแล้วครับ และได้อาศัยการฟังพระธรรมก็เกื้อกูลการเจริญปัญญามากขึ้นด้วยครับ ซึ่งก็มีตัวอย่างในพระไตรปิฎก ที่พรหมด้วยกันแสดงธรรมกันครับ เช่น พรหมผู้เป็นพระอริยเจ้าแสดงธรรมให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของพรหมโลก แม้จะอายุยืนนาน แต่ก็ไม่เที่ยง ให้พรหมอื่นได้เข้าใจถูกครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

เรื่อง สุธรรมสภา มีอยู่ในพรหมโลก

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๓- หน้าที่ 485

อรรถกถามารตัชชนียสูตร

บทว่า "ที่ประชุมใกล้สุธรรมสภา" ความว่า ใกล้ที่ประชุมชื่อว่า สุธรรมา. ก็สุธรรมสภานี้อยู่ในพรหมโลก ไม่ใช่ในชั้นดาวดึงส์ ขึ้นชื่อว่าเทวโลกที่เว้นจากสุธรรมสภาไม่มี.

บทว่า "รัศมีที่ซ่านไปในพรหมโลก" ความว่า แสงสว่าง ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เสด็จไปกับเหล่าสาวก มีพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะ. เป็นต้นในพรหมโลก แล้วนั่งเข้าเตโชธาตุอยู่แล้ว. ด้วยว่า สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทราบจิตของหมู่พรหม ผู้นั่งประชุมในสุธรรมเทวสภาในพรหมโลก คิดอยู่ว่า "มีอยู่หรือหนอแลที่สมณะหรือพราหมณ์ไรๆ ผู้มีฤทธิ์มากอย่างนี้อาจมาในที่นี้" จึงเสด็จไปที่นั้นประทับนั่งที่สุดคณะของพรหม ทรงเข้าเตโชธาตุได้ทรงดำริถึงการมาของพระมหาโมคคัลลานะเป็นต้น.

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณมากครับ

ขออนุญาตสงสัยต่อไปอีกครับ พระอนาคามีที่ว่าไปเกิดในพรหมโลก มีรูปพรหม อรูปพรหม และสุทธาวาสภูมินั้น มีเกณฑ์อย่างไรครับว่า พระอนาคามีท่านไหนจะไปเกิดในรูปพรหม ท่านไหนจะไปเกิดในอรูปพรหม หรือว่าท่านไหนจะไปเกิดในสุทธาวาส ท่านเลือกเองตามความพอใจ (ทำนองเดียวกับธัมมิกอุบาสกที่มีเทวดาจากสวรรค์ 6 ชั้นมาเชิญให้ไปเกิด แต่ท่านเลือกไปเกิดในภพดุสิต) หรือว่าไปเกิดตามกำลังฌาน

ขอบพระคุณที่จะกรุณาให้ความรู้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornchai.s
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

เรียนความเห็นที่ 4 ครับ

ก็แล้วแต่กำลังของฌานครับ ที่ท่านจะไปเกิดในภพภูมิไหน แต่อย่างน้อยท่านจะต้องไปเกิดที่รูปพรหมภูมิ เพราะมีกำลังถึงปฐมฌาน เป็นอย่างน้อย และก็แล้วแต่กำลังของฌานว่าจะเป็นรูปพรหมภูมิชั้นไหน ตามกำลังที่ท่านได้ฌานครับ เช่นเดียวกับ อรูปพรหมภูมิ ถ้าพระอนาคามี ท่านมีกำลังฌานถึงอรูปฌาน ตามระดับชั้นต่างๆ แต่ไม่ถึงฌาน 8 ท่านก็เกิดในอรูปพรหม ตามอรูปฌานที่ได้ครับ ส่วนชั้นสุทธาวาสภูมิ เป็นที่อยู่ของพระอนาคามีบุคคลซึ่งถึงรูปปัญจมฌาน ส่วนผู้ไม่ถึงรูปปัญจมฌานแม้เป็นพระอนาคามีก็ไม่เกิดในสุทธาวาสภูมิครับดังนั้นธรรมจึงเป็นไปตามเหตุสมควรแก่เหตุและผลครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอนาคามี เป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ ๓ เป็นผู้ที่ดับความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ ได้ เป็นผู้ที่ดับความโกรธ ได้ แต่ท่านยังไม่สามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากว่ายังมีโลภะ ความติดข้องในภพ ยังมีมานะ และ ยังมีอวิชชา รวมถึงอกุศลธรรมที่เกิดร่วมกันด้วย เช่น อหิริกะ (ความไม่ละอาย) อโนตตัปปะ (ความไม่เกรงกลัว) เป็นต้น กิเลสเหล่านี้ จะถูกดับได้อย่างเด็ดขาด เมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ พระอนาคามีบุคคล ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ซึ่งจะต้องมีการอบรมเจริญปัญญาต่อไป เพื่อดับกิเลสถึงความเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 18 มิ.ย. 2554

ชัดเจนแล้วครับ ขอบพระคุณมาก

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 19 มิ.ย. 2554

กระผมอ่านคำตอบต่างๆ แล้ว ก็นึกว่าตัวเองเข้าใจชัดเจนแล้ว แต่พอก่อนจะเข้านอนเกิดนึกแวบขึ้นมาถึงอาฬารดาบสและอุทกดาบสที่เคยเป็นครูสอนวิชาสมาธิสมาบัติให้แก่พระพุทธองค์ตอนที่กำลังแสวงหาหนทางตรัสรู้อยู่ เมื่อตรัสรู้แล้วได้ทรงดำริจะเสด็จไปแสดงธรรมโปรด ทรงเห็นว่าสองท่านนั้นเป็นผู้ฉลาด มีกิเลสเบาบางสามารถจะรู้ธรรมได้ฉับพลัน แต่ท่านทั้งสองสิ้นชีพไปเกิดในพรหมโลกเสียแล้ว มีความฉิบหายเสียจากคุณอันใหญ่ กระผมก็เลยเกิดความสงสัยติดพันมาอีกหลายประเด็น คือ

1 ถ้าในพรหมโลกมีการแสดงธรรมอยู่เสมอ สองท่านนั้นก็จะต้องได้ฟังธรรมและรู้ธรรมได้ฉับพลัน พระพุทธองค์จะตรัสว่า มีความฉิบหายเสียจากคุณอันใหญ่ได้อย่างไรในเมื่อท่านทั้งสองยังสามารถจะตรัสรู้ธรรมในพรหมโลกได้อีก

2 ทั้งสองท่านนั้นยังเป็นปุถุชน ไปเกิดในพรหมโลกได้ด้วยกำลังฌาน พระอนาคามีก็ไปเกิดในพรหมโลก ดูคล้ายกับปุถุชนกับอริยบุคคลก็ไม่ต่างกันเพราะมีคุณธรรมที่ส่งให้ไปเกิดในภพเดียวกันได้ จึงสงสัยว่า พระอนาคามีที่ไม่ได้ฌานสมาบัติมีหรือไม่ ถ้ามี ท่านจะไปเกิดที่พรหมโลกได้ด้วยกำลังอะไร

3 ถ้าพระอนาคามีต้องได้ฌานสมาบัติด้วยเสมอ พระอรหันต์สุกขวิปัสสกจะมีได้อย่างไร พระอรหันต์สุกขวิปัสสกคือสิ้นกิเลสแต่ไม่มีฤทธิ์ไม่ได้อภิญญาเพราะไม่ได้ฌานสมาบัติ แต่พระอรหันต์ท่านก็จะต้องผ่านการเป็นพระอนาคามีมาก่อน ถ้าท่านไม่ได้ฌานสมาบัติ ท่านจะเป็นพระอนาคามีได้อย่างไร แล้วตายไปตอนเป็นพระอนาคามี ท่านจะไปเกิดที่พรหมโลกได้หรือ

ขออนุญาตท่านผู้รู้กรุณาแก้ข้อสงสัยเหล่าด้วยครับ -

ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 19 มิ.ย. 2554

เรียนความเห็นที่ 9 ครับ

1 ถ้าในพรหมโลกมีการแสดงธรรมอยู่เสมอ สองท่านนั้นก็จะต้องได้ฟังธรรมและรู้ธรรมได้ฉับพลัน พระพุทธองค์จะตรัสว่า มีความฉิบหายเสียจากคุณอันใหญ่ได้อย่างไรในเมื่อท่านทั้งสองยังสามารถจะตรัสรู้ธรรมในพรหมโลกได้อีก

ถ้าในอรูปพรหมภูมิไม่มีการฟังพระธรรมครับ เพราะไม่มี ตา ไม่มีหู อรูปพรหมท่านก็ฟังธรรมไม่ได้ ดังนั้น พระพุทธเจ้าก็ไปโปรดไม่ได้ ดังนั้น อาฬารดาบสและอุททกดาบสเกิดในอรูปพรหมและยังเป็นปุถุชน จึงพินาศใหญ่เพราะจะไมได้ฟังพระธรรมนั่นเองครับ

ดังนั้นหมายถึงรูปพรหมที่ได้ฟังพระธรรมครับ ส่วนพระอริยเจ้าที่เกิดในอรูปพรหม ท่านทราบหนทางแล้ว ก็สามารถอบรมปัญญาได้ครับ

2 ทั้งสองท่านนั้นยังเป็นปุถุชน ไปเกิดในพรหมโลกได้ด้วยกำลังฌาน พระอนาคามีก็ไปเกิดในพรหมโลก ดูคล้ายกับปุถุชนกับอริยบุคคลก็ไม่ต่างกันเพราะมีคุณธรรมที่ส่งให้ไปเกิดในภพเดียวกันได้ จึงสงสัยว่า พระอนาคามีที่ไม่ได้ฌานสมาบัติมีหรือไม่ ถ้ามี ท่านจะไปเกิดที่พรหมโลกได้ด้วยกำลังอะไร

พระอนาคามีอย่างน้อยท่านต้องได้ปฐมฌานก่อนจุติ เพราะฉะนั้นท่านต้องไปเกิดอย่างน้อยคือ รูปพรหมภูมิครับ ส่วนปุถุชนได้ฌานแต่ถ้าไปเกิดในอรูปพรหมภูมิก็อบรมปัญญาต่อไม่ได้ครับ

3 ถ้าพระอนาคามีต้องได้ฌานสมาบัติด้วยเสมอ พระอรหันต์สุกขวิปัสสกจะมีได้อย่างไร พระอรหันต์สุกขวิปัสสกคือสิ้นกิเลสแต่ไม่มีฤทธิ์ไม่ได้อภิญญาเพราะไม่ได้ฌานสมาบัติ แต่พระอรหันต์ท่านก็จะต้องผ่านการเป็นพระอนาคามีมาก่อน ถ้าท่านไม่ได้ฌานสมาบัติ ท่านจะเป็นพระอนาคามีได้อย่างไร แล้วตายไปตอนเป็นพระอนาคามี ท่านจะไปเกิดที่พรหมโลกได้หรือ

ในกรณีนี้กล่าวถึงกรณีของการเปลี่ยนภพชาติครับ ถ้าเป็นพระอนาคามีแล้วจุติ สิ้นชีวิตท่านจะไปเกิดที่พรหมโลกครับ แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น โดยเป็นพระอนาคามีในชาตินั้นก่อนแล้วเป็นพระอรหันต์ ท่านได้ฌานเทียบเท่าปฐมฌานตอนมรรคจิตเกิด แต่ไม่จำเป็นต้องได้องค์ฌานอื่นๆ อันแสดงถึงความเป็นพระอรหันต์สุกขวิปัสสก ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 19 มิ.ย. 2554

คราวนี้ชัดเจนแน่ครับ ไม่สงสัยแล้วครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ลุงหมาน
วันที่ 20 มิ.ย. 2554

ผมอ่านคำถามของผู้การ ผมมีความเข้าใจว่าผู้การจะถามดังที่ผมจะตอบดังนี้

ในอรูปพรหมทั้ง ๔ ภูมิเป็นภูมิที่ไม่มีรูปมีแต่นาม จึงฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าไม่ได้ ปุถุชนเช่น อาฬารดาบส และอุทกดาบสจึงไม่สามารถที่จะบรรลุธรรมชั้นสูงคือเป็นพระอริยบุคคลได้ แต่ในอรูปภูมิ ๔ มีพระอริยบุคคล ๗ (เว้นพระโสดาปัตติมรรค) มีได้ เพราะท่านเป็นพระอริยบุคคลจากภูมิอื่นอันมีตั้งแต่มนุษย์เป็นต้น ท่านทำฌานที่เป็นอากาสา. วิญญา. อากิญ. เนว. เพื่อจะไปเกิดในอรูปภูมิตามกำลังฌานที่ตนได้ ถ้าเป็นพระโสตาปัตติผลในอรูปภูมิ ๔ ภูมิใดภูมิหนึ่ง ก็จะเจริญวิปัสสนาที่ตนเคยได้มาในภพก่อนจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในอรูปภูมิได้ในภูมิใดภูมิหนึ่ง แต่การสำเร็จเป็นพระอริยะชั้นสูงต้องเป็นไปตามลำดับ หรือไม่ก็เปลี่ยนภูมิได้ในอรูปภูมิ ๔ แต่สุดท้ายก็ต้องไปสำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่ชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะภูมิจึงเข้าปรินิพพานที่นั่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องสำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่นั่นทุกองค์ หมายถึงว่าสำเร็จเป็นอรหันต์ในภูมิใดก็เข้าปรินิพพานในภูมินั้นเลย และเช่นว่า อุทกดาบสท่านเกิดอยู่ชั้นเนวสัญญานาสัญญานั้นอายุของภูมินี้มีกำหนด ๘๔๐๐๐ มหากัปป์เป็นอายุที่ยืนยาวแม้พระพุทธเจ้าจะมาอุบัติขึ้นในโลกมนุษย์ไม่รู้กี่พระองค์ บุคคลในภูมิก็ยังไม่หมดอายุ แม้พระพุทธเจ้าก็ยังทรงไม่พยากรณ์ไว้ พระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่าอาจารย์ของท่าน คือ อาฬารดาบส และอุทกดาบสเข้าถึงความเสื่อมใหญ่ ถึงแม้หมดอายุก็ต้องมาเกิดที่รูปพรหมก่อน เพราะอาศัยตนที่เคยชินจากฌานที่ตนเคยมี และหมดอายุจากรูปพรหมจึงจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ และเมื่อมาเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น จะตรงกับที่พระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้นในมนุษย์หรือไม่ ถ้าหากไม่พบอายุมนุษย์อายุก็มีน้อยก็อาจไปเกิดที่อื่นอีกอันมี อบายภูมิ ๔ และ เทวดา ๖ เป็นต้น นี่แหละการเข้าถึงความเสื่อมใหญ่ที่พระพุทธเจ้าทรงอุทานขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 20 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณมากครับ ลุงท่านช่วยไขความและขยายความให้สว่างไสวยิ่งขึ้น นี่แหละที่กระผมอยากให้ใช้วาทะของ คุณวินิจ ที่ว่า เราช่วยดูแลกันและกัน เป็นคำขวัญของชาวบ้านธัมมะ

อ้อ คำว่า อริยะบุคคล นั้น ตามหลักภาษาไทย ต้องกราบขออภัยลุงท่าน ไม่ต้องมีสระอะ หลัง ย ยักษ์ นะครับ คือเขียนว่า อริยบุคคล ครับ (ถือโอกาส ดูแลกันและกันเสียเลย)

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
พุทธรักษา
วันที่ 26 มิ.ย. 2554

"...ถ้าในอรูปพรหมภูมิไม่มีการฟังพระธรรมครับ เพราะไม่มี ตา ไม่มีหู อรูปพรหมท่านก็ฟังธรรมไม่ได้ ดังนั้น พระพุทธเจ้าก็ไปโปรดไม่ได้ ดังนั้น อาฬารดาบสและอุททกดาบสเกิดในอรูปพรหมและยังเป็นปุถุชน จึงพินาศใหญ่เพราะจะไมได้ฟังพระธรรมนั่นเอง ครับ

ดังนั้น หมายถึงรูปพรหมที่ได้ฟังพระธรรมครับ ส่วนพระอริยเจ้าที่เกิดในอรูปพรหม ท่านทราบหนทางแล้ว ก็สามารถอบรมปัญญาได้ ครับ..."

ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
wannee.s
วันที่ 28 มิ.ย. 2554

พระอนาคามีที่เป็นอรูปพรหม ไม่มีหู ฟังธรรมไม่ได้ แต่อบรมปัญญาได้ สำหรับผู้ที่เป็นพระอริยเจ้าแล้ว และบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชั้นนั้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
buntig
วันที่ 12 ธ.ค. 2561

​วันนี้ได้​อ่าน​การ​สนทนา​ธรรม​ เกี่ยวกับ​พระ​​อนาคามี​ ว่า​ยัง​มี​กิเลส​คือ​โลภะ​อยู่ เมื่อ​โลภะ​ยัง​ไม่​ดับ​โทสะ​ที่​มี​โลภะ​เป็น​เหตุ​ก็​ต้อง​ยัง​ไม่ดับ​

ยินยินดี​ใน​ความ​ดี​กับ​ทุกท่าน

เข้าใจ​พระธรรม​

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ