พระธรรมกับการดำเนินชีวิต [ธรรมรักษา]

 
พุทธรักษา
วันที่  30 มิ.ย. 2554
หมายเลข  18642
อ่าน  1,391

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากการสนทนาธรรม ณ อาคารมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๔ บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ถอดเทปบันทึกเสียง โดย คุณย่า สงวน สุจริตกุล

ฟังพระธรรม เพื่อ เกื้อกูล และ เป็น ปัจจัย-ที่ทำให้ "กุศลธรรม-แต่ละขั้น" เกิดขึ้น.จากที่ไม่เคยทราบ ว่า พระธรรม มีคุณค่า ถึงอย่างนี้ก็ได้ "เริ่มเข้าใจ" ในสิ่งที่ ไม่เคยเข้าใจมาก่อน.ขณะที่ฟังและเข้าใจ....ขณะนั้น เป็น ความดี.ความดี ซึ่ง อารักขาอารักขา ให้ทราบว่า...ควรที่จะฟังพระธรรมต่อไปเพื่อที่จะ ค่อยๆ "ละ-ความไม่รู้" ต่อไป เรื่อยๆ ขณะที่ สติ-ระลึกได้ขณะนั้น เป็น การอารักขา (จิต) ไม่ให้เป็น อกุศลเพราะขณะนั้น...กำลังฟังพระธรรม-เข้าใจและ ระลึก-ถึง-พระธรรม-ที่ได้ฟังมาแล้ว นานแสนนาน

ขณะที่ "สภาพธรรม" กำลังเกิด-ปรากฏกำลังแสดงอาการอย่างชัดเจน ว่า ลักษณะ-อาการ อย่างนี้ๆ ระลึกได้ ว่า ตรง-ตาม "พระธรรม" ที่พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดง เช่น เมื่อกล่าวถึง "โทสะ" และ ลักษณะ-อาการ ของ โทส-เจตสิก ก็กำลังเกิด-ปรากฏปรากฏ กับ สติและ สติ-ระลึกได้ ถึง "ลักษณะของโทสะ"ขณะนั้น "เป็นขั้นหนึ่ง-ของความเข้าใจ"แต่ ถ้าสามารถที่จะ "สะสม-ความเข้าใจถูก" ใน "ความเป็นธรรม"เข้าใจถูกในความเป็น "ธรรม-แต่ละอย่าง"หมายความว่า ขณะนั้น "ปัญญา" เริ่มเข้าใจ "ลักษณะ"ที่เป็นธรรม ของ-โทสะ (เจตสิก) ไม่ใช่เพียงแต่ ระลึกได้ ว่า เป็นอาการของโทสะ ถ้าฟังพระธรรมเพียงเผินๆ ก็ไม่อยากจะมี "โทสะ" แต่ เป็นไปได้ไหม เพราะฉะนั้น"อย่าลืม" ความสำคัญของ อารักขาเพื่อความระลึกได้ถึงพระธรรม ที่ได้ฟัง-เข้าใจ"อารักขา" เพื่อให้ถึง "อุปนิพันธ" คือ ถึงซึ่ง ความเข้าใจ-ในลักษณะของสภาพธรรมทั้งหลายว่า เป็น "ธรรม-แต่ละอย่างๆ "

"ธรรม".....ซึ่ง เกิด-ดับและ ไม่ใช่ สิ่งที่ "ยึดถือ" ว่า เป็น เรา เป็น สัตว์ บุคคล ฯลฯขณะนี้ก็มี "ธรรม" (ซึ่ง กำลังเกิด-ดับ) และ กำลังฟัง-เรื่องของพระธรรม (เพื่อ อารักขา-จิต) ฟังพระธรรมเพื่อ "ถึง-กาล" ที่จะเข้าใจถึง "ลักษณะของธรรม" (อุปนิพันธ) ความรู้-ความเข้าใจ จากการฟังพระธรรม ยังไม่พอเช่น เพียงแค่รู้ว่า เกิดโทสะ-เกิดความขุ่นใจ แม้เพียงเล็กน้อยขณะนั้น ยังไม่ใช่ ความรู้-ถึง "ลักษณะ" ของ โทสะ (เจตสิก) โดย รู้ว่า โทสะ (เจตสิก) เป็น "ธรรม-อย่างหนึ่ง" "โทสะ" ดับไปแล้ว ขณะที่คิด เรื่องของโทสะ.!เพราะฉะนั้นก่อนที่ "โทสะ" ในขณะนั้นจะดับ ขณะนั้น มีอาการของโทสะ-ที่กำลังปรากฏเมื่อ สติ-สัมปชัญญะ เกิดขึ้น เริ่ม-เข้าใจ "ลักษณะ-ของโทสะ" ที่กำลังปรากฏ-โดยเป็น "อารมณ์""อารมณ์" ซึ่ง "สติ-สัมปชัญญะ" ถึง-เฉพาะ-ลักษณะที่เป็น "ธรรม"นี่คือ "อุปนิพันธ-โคจร"ฟังพระธรรมเพื่อ ค่อยๆ สะสม "ความเข้าใจ-ธรรม" ให้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น (เพื่ออารักขา-จิต คือ "อารักข-โคจร")

และ "ประโยชน์สูงสุด" ของการฟังพระธรรม ทุกๆ วันเพื่อสามารถที่จะเข้าถึง "ลักษณะ" ที่เป็น "ธรรม" (เพื่อถึงซึ่ง "อุปนิพันธ-โคจร")

.ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 30 มิ.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

และ "ประโยชน์สูงสุด" ของการฟังพระธรรม ทุกๆ วันเพื่อสามารถที่จะเข้าถึง "ลักษณะ" ที่เป็น "ธรรม"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

ขณะที่ฟังและเข้าใจ....ขณะนั้น เป็น ความดี

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
SOAMUSA
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

กราบอนุโมทนาในธรรมทานของท่านอาจารย์และทุกๆ ท่านค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Noparat
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
พิจารณา
วันที่ 30 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณและอนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ