ถ้ากามเหล่านั้นเสื่อมไป สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่าย

 
pirmsombat
วันที่  2 ก.ค. 2554
หมายเลข  18659
อ่าน  1,680

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 4

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-

เมื่อสัตว์ปรารถนากามอยู่ ถ้ากามนั้นย่อมสำเร็จแก่ สัตว์นั้น สัตว์นั้นได้กามตามปรารถนาแล้ว ย่อมเป็นผู้ อิ่มใจแน่นอน.

[๖] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-

เมื่อสัตว์นั้นปรารถนากามอยู่ เมื่อสัตว์นั้นมีฉันทะ เกิดแล้ว ถ้ากามเหล่านั้นเสื่อมไป สัตว์นั้นย่อมกระสับ กระส่าย เหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว.

[๗] คำว่า เมื่อสัตว์นั้นปรารถนากามอยู่ มีความว่า คำว่าเมื่อสัตว์นั้น ได้แก่ สัตว์ผู้เป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร คฤหัสถ์บรรพชิต เทวดาหรือมนุษย์ คำว่า ปรารถนากามอยู่ คือ เมื่อใคร่ อยากได้ ยินดี ปรารถนา มุ่งหมาย ชอบใจ. อีกอย่างหนึ่ง สัตว์ย่อมไปออกไป ลอยไป แล่นไป เพราะกามตัณหา เปรียบเหมือนมนุษย์ ย่อมไป ออกไป ลอยไป แล่นไป ด้วยยานช้างบ้าง ยานม้าบ้าง ยานโคบ้างยานแกะบ้าง ยานแพะบ้าง ยานอูฐบ้าง ยานลาบ้าง ฉันใด สัตว์ย่อมไป ออกไป ลอยไป แล่นไป เพราะกามตัณหา ฉันนั้น เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เมื่อสัตว์นั้นปรารถนากามอยู่.

[๘] คำว่า เมื่อสัตว์มีฉันทะเกิดแล้ว ความว่า คำว่า ฉันทะ ได้แก่ความพอใจในกาม ความกำหนัดในกาม ความเพลินในกาม ความ อยากในกาม ความเสน่หาในกาม ความเร่าร้อนในกาม ความหลงในกาม ความคิดใจในกาม ห้วงคือกาม ความประกอบคือกาม ความยึดถือในกาม เครื่องกั้นคือกามฉันทะ ความพอใจในกามนั้น เกิดแล้ว เกิดพร้อม เกิดขึ้น เกิดเฉพาะ ปรากฏแล้วแก่สัตว์นั้น. คำว่า สัตว์ คือ สัตว์ นระ มาณพ บุรุษ บุคคล ผู้มีชีวิต ผู้เกิด สัตว์เกิด ผู้มีกรรม มนุษย์ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เมื่อสัตว์มีฉันทะเกิดแล้ว.

[๙] คำว่า กามเหล่านั้นเสื่อมไป มีความว่า กามเหล่านั้นเสื่อมไปบ้าง สัตว์นั้นเสื่อมจากกามทั้งหลายบ้าง.กามเหล่านั้นเสื่อมไป อย่างไร? เมื่อสัตว์นั้นดำรงอยู่นั่นแหละ โภคะเหล่านั้น ถูกพระราชาริบไปบ้าง ถูกโจรลักไปบ้าง ถูกไฟไหม้บ้าง ถูกน้ำพัดไปบ้าง ถูกพวกญาติผู้ไม่เป็นที่ชอบใจนำไปบ้าง สัตว์นั้นไม่พบโภคทรัพย์ที่เก็บฝังไว้บ้าง การงานที่ประกอบไม่ดีเสียไปบ้าง คนผลาญสกุลผู้แจกจ่ายกระจัดกระจายทำลายโภคะเหล่านั้นเกิดในสกุลบ้าง ความเป็นของไม่เที่ยงแห่งโภคะเป็นที่แปด กามเหล่านั้นย่อมเสื่อม เสียหาย กระจัดกระจาย รั่วไหล อันตรธาน สูญหายไปอย่างนี้.สัตว์นั้นย่อมเสื่อมจากกามทั้งหลาย อย่างไร? โภคะเหล่านั้นยังตั้งอยู่นั่นแหละ สัตว์นั้นเคลื่อน ตาย อันตรธาน สูญหายไปจากโภคะเหล่านั้นสัตว์นั้นย่อมเสื่อม เสียหาย กระจัดกระจา รั่วไหล อันตรธาน สูญหายไปจากกามทั้งหลายอย่างนี้.สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า :-

โภคทรัพย์ทั้งหลาย ถูกโจรลักไป ถูกพระราชาริบไป ถูกไฟไหม้ เสียหาย อนึ่ง บุคคลผู้เป็นเจ้าของย่อมละทิ้งสรีระ กับทั้งข้าวของ เพราะความตาย นักปราชญ์ทราบเหตุนี้แล้ว พึงใช้สอยบ้าง พึงให้ทานบ้าง ครั้นให้ทานและใช้สอยตามสมควรแล้ว เป็นผู้ไม่ถูกติเตียนย่อมเข้าถึงสถาน คือ สวรรค์.เพราะฉะนั้น จึงว่า กามเหล่านั้นย่อมเสื่อมไป.

[๑๐] คำว่า สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่าย เหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว มีความว่า สัตว์ผู้ถูกลูกศรที่ทำด้วย เหล็กแทงแล้วบ้างผู้ถูกลูกศรที่ทำด้วยกระดูกแทงแล้วบ้าง ผู้ถูกลูกศรที่ทำด้วยงาแทงแล้วบ้างผู้ถูกลูกศรที่ทำด้วยเขาแทงแล้วบ้าง ผู้ถูกลูกศรที่ทำด้วยไม้แทงแล้วบ้างย่อมกระสับกระส่ายหวั่นไหว ดิ้นรน จุกเสียด เจ็บตัว เจ็บใจ ฉันใดความโศก คร่ำครวญ เจ็บกาย เจ็บใจ และคับแค้นใจ ย่อมเกิดขึ้นเพราะวัตถุกามทั้งหลายแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป สัตว์นั้นถูกลูกศรคือกามแทงแล้ว ย่อมๆ กระสับกระส่าย หวั่นไหว ดิ้นรน จุกเสียด เจ็บกาย เจ็บใจฉันนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่ายเหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-

เมื่อสัตว์นั้นปรารถนากามอยู่ เมื่อสัตว์มีฉันทะเกิด แล้ว ถ้ากามเหล่านั้นเสื่อมไป สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่าย เหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว.

[๑๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-

ผู้ใดย่อมเว้นขาดกามทั้งหลาย เหมือนบุคคลเว้น ขาดหัวงูด้วยเท้า ผู้นั้นเป็นผู้มีสติ ย่อมล่วงพ้นตัณหาอัน ชื่อว่าวิสัตติกานี้ ในโลกเสียได้. ว่าด้วยการเว้นขาดกามด้วยเหตุ ๒ ประการ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 2 ก.ค. 2554

โภคทรัพย์ทั้งหลาย ถูกโจรลักไป ถูกพระราชาริบไป ถูกไฟไหม้ เสียหาย

แต่บุญกุศลและปัญญาสะสมไว้ โจร หรือใครๆ ก็ไ่ม่สามารถนำไปได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอ ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pirmsombat
วันที่ 2 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเผดิม คุณwannee.s คุณคำปั่น และ ทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 3 ก.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 3 ก.ค. 2554

ความคิดใจในกาม ห้วงคือกาม ความประกอบคือกาม ความยึดถือในกาม

(บรรทัดที่ 4 จากข้อ [๘] )

คำที่ถูกต้องคือ ความติดใจในกาม (ค ควาย กับ ต เต่า ในแป้นพิมพ์อยู่ติดกัน จึง กดพลาดโดยไม่เจตนา)

ห้วงคือกาม น่าจะเป็น ห้วงน้ำคือกาม ?

ขออนุโมทนากับท่าน primsombat ด้วยกุศลจิตครับ - สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jans
วันที่ 3 ก.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 4 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 16 ก.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ