พญานาคลงเล่นน้ำที่บึงโขงโหลง

 
วินิจ
วันที่  10 ก.ค. 2554
หมายเลข  18718
อ่าน  4,832

เมื่อวานเห็นภาพข่าว”พญานาคลงเล่นน้ำที่บึงโขงโหลง”

(ภาพเห็นชัดเจนมาก) ,ตกลงเป็น”สัตตะ”ประเภทไหนในพระไตรปิฎกครับ?...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พญานาค เป็นสัตวประเภทหนึ่ง เป็นอเหตุกสัตว์ คือ เกิดหรือปฏิสนธิไม่ประกอบ

ด้วยเหตุที่ดีคือ อโลภะะ อโทสะ อโมหะเลยดังนั้นจึงเป็นสัตว์ ประเภทที่เป็นอบายภูมิ

ครับ เพราะฉะนั้น พญานาคในสมัยพุทธกาล เมื่อได้ฟังธรรม ก็ไม่สามารถบรรลุได้

เพียงแค่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เพราะเป็นสัตว์ประเภทอบายภูมิ ซึ่งเกิดด้วยผล

ของอกุศลกรรมนั่นเองครับ

ที่สำคัญ เมื่อต่างก็เป็นสัตว์โลกด้วยกันทั้งนั้น จะต่างกันอะไรในเมื่อก็เป็นผุ้มีอวิชชา

ความไม่รู้เหมือนกัน ดูภายนอกก็ดูแปลก อัศจรรย์เพราะมีรูปร่างลักษณะไม่เหมือนกัน

และวิจิตรต่างๆ กันไปตามกุศลกรรมและอกุศลกรรมที่นำเกิดที่แตกต่างกัน แต่เหมือนกัน

คือ สัตว์ แปลว่า ผู้ข้อง ข้องอยู่ในโลก ข้องอยู่ในกิเลส ข้องอยู่ในสังสังสารวัฏฏ์ไม่

สามารถหลุดพ้นไปได้เลย จึงไม่แต่กต่างกันเลยไม่ว่ามนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เทวดา

พญานาค ในเรื่องของความเป็นจริง ก็คือเป็นเพียง จิต และเจตสิก รูป เท่านั้นครับ

ไม่ต่างกันเลย และก็เหมือนกันที่ สะสมความไม่รู้ กิเลสมาทำให้เกิดวนเวียนเป็นสัตว์

ประเภทต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการเกิดดับสืบต่อกันไม่มีที่สิ้นสุดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ค. 2554

ที่สำคัญ สิ่งที่เพียงเห็นทางตา เห็นเพียงสี ยังไม่เป็นสิ่งใด แต่เมื่อเป็นสิ่งใดแล้ว

คือ เป็นพญานาค เป็นสิ่งต่างๆ มีได้เพราะอาศัยการคิดนึก หากเด็กไม่รู้เรื่องพญานาค

ไม่เคยรู้เรื่องนี้ พอเห็นคลื่นน้ำต่างๆ เหมือนตัวอะไรว่าย จะรู้ไหมครับว่าเป็นพญานาค

เพราะฉะนั้น รู้ว่าเป็นพญานาค เพราะอาศัยการฟัง การทรงจำ สัญญาว่าลักษณะอย่าง

นี้เป็นพญานาคครับ และก็เพียงเห็นเท่านั้นก็คิดไปกันเอาเองครับว่าคือพญานาค ทั้งที่

ความจริงไม่เป็นเป็นไปตามที่คิดก็ได้ครับ และประโยชน์ที่ได้จากความคิดนึก เป็นสิ่ง

ต่างๆ คืออะไร หากไม่เข้าใจสัจจะความจริงว่าเป็นเพียงสภาพธรรมที่เพียง เห็นเท่านั้น

เพียงสีเท่านั้นและที่สำคัญก็แค่คิดนึกเท่านั้น ในขณะนั้นครับว่าเป็นพญานาค เพราะ

หากไม่เข้าใจความจริงเช่นนี้ ก็จะหลงยึดถือความคิดของตนเองว่ามีสัตว์ บุคคล มีสิ่ง

ต่างๆ จริงๆ มีพญานาคจริงๆ ทั้งที่สัจจะที่พระองคทรงแสดงก็คือ ธรรมแต่ละอย่างเท่า

นั้น พญานาค หรือ สิ่งต่างๆ จึงมีเพียงความคิดนึกเท่านั้นครับ ประโยชน์ที่ได้จาก

การฟังพระธรรมแล้ว คือ เข้าใจความจริงละความไม่รู้ ที่เคยเข้าใจผิดว่ามีสิ่งต่างๆ ที่เป็น

สิ่งต่างๆ ว่าในความเป็นจริงมีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปแต่ละขณะเท่านั้นครับ

เมื่ออาศัยความเข้าใจถูก ก็ค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ จนถึงการดับกิเลสได้ที่สุด ที่สำคัญ

ก็จะไม่ต้องมาเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ เป็นพญานาคที่มีความไม่รู้ ด้วยครับ ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วินิจ
วันที่ 10 ก.ค. 2554

ขอเรียนถามเพิ่มเติมครับ...

1.เคยได้ยินบางท่านบอกว่า”พญานาค”เป็นสัตว์ที่อยู่ในเมือง”บาดาล” (ซึ่งอยู่จุดไหน

ในโลกบ้างก็ไม่ทราบ) ,แต่เดิมเป็นมนุษย์ที่ติดหลับติดนอน,แต่มี”ศรัทธา”ยิ่งในพระ

พุทธเจ้า,เมื่อพระพุทธเจ้าแต่ละองค์เกิดขึ้นในโลก,ก็จะมีการลอยถาดทองทวนกระแส

น้ำ,และในที่สุดจมลงสู่บาดาลเพื่อไปปลุก”พญานาค”ด้วยวิสัยที่ทรงมี”พระกรุณาธิ

คุณ”ต่อปวงสรรพสัตว์,”พญานาค”ก็จะตื่นขึ้นมารับทราบ,แล้วก็”บ่น”ประมาณว่า...

“อ้าว พระพุทธเจ้าทำไมเกิดบ่อย เมือวานก็พึ่งเกิดไปองค์หนึ่ง วันนี้ก็เกิดอีกแล้ว”,ว่า

แล้วก็นอนหลับต่อไป,ดังนั้น ที่บอก”พญานาค”ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง,ดังนั้นก็อย่าง

น้อยต้องมี”ศีล5”,ทำไมจึงยังต้องอยู่ใน”อบายภูมิ”,ถ้ามี”ศีล5”เป็น”นิจศีล”และมีศรัท-

ธามั่นต่อพระพุทธเจ้า,ควรได้เกิดเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือครับ?

2.เป็นภาพเคลื่อนไหวเป็นเวลานานและเหมือนพญานาค” (งูใหญ่) จริงๆ เท่าที่เห็น,และ

ก่อนหน้าที่จะปรากฏก็มาเข้าฝันบางท่านว่าจะ”เนรมิตกาย”มาปรากฏในบริเวณและ

วันเวลาดังกล่าวจริงๆ (ตามข่าว) ,ถ้าเป็นเพียงสัตว์ในอบายภูมิ,จะสามารถ”เนรมิต”กาย

ได้หรือครับ?,ด้วยความเคารพ...ขอบคุณครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ค. 2554

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

1.เคยได้ยินบางท่านบอกว่า”พญานาค”เป็นสัตว์ที่อยู่ในเมือง”บาดาล” (ซึ่งอยู่จุดไหน

ในโลกบ้างก็ไม่ทราบ) ,แต่เดิมเป็นมนุษย์ที่ติดหลับติดนอน,แต่มี”ศรัทธา”ยิ่งในพระ

พุทธเจ้า,เมื่อพระพุทธเจ้าแต่ละองค์เกิดขึ้นในโลก,ก็จะมีการลอยถาดทองทวนกระแส

น้ำ,และในที่สุดจมลงสู่บาดาลเพื่อไปปลุก”พญานาค”ด้วยวิสัยที่ทรงมี”พระกรุณาธิ

คุณ”ต่อปวงสรรพสัตว์,”พญานาค”ก็จะตื่นขึ้นมารับทราบ,แล้วก็”บ่น”ประมาณว่า...

“อ้าว พระพุทธเจ้าทำไมเกิดบ่อย เมือวานก็พึ่งเกิดไปองค์หนึ่ง วันนี้ก็เกิดอีกแล้ว”,ว่า

แล้วก็นอนหลับต่อไป,ดังนั้น ที่บอก”พญานาค”ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง,ดังนั้นก็อย่าง

น้อยต้องมี”ศีล5”,ทำไมจึงยังต้องอยู่ใน”อบายภูมิ”,ถ้ามี”ศีล5”เป็น”นิจศีล”และมีศรัท-

ธามั่นต่อพระพุทธเจ้า,ควรได้เกิดเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือครับ?

--------------------------------------------------------------------------

นาคราชที่เจ้าของกระทู้กล่าวถึง เมื่อคราวที่พระโพธิสัตว์ลอยถาด และก็ถาดจม

ลงไป กระทบกับเครื่องใช้สอยของพระพุทธเจ้าอีก 3 พระองค์ก่อนหน้านี้ และก็กล่าว

ว่า เมื่อวานพระพุทธเจ้าเพิ่งอุบัติ วันนี้อุบัติอีก ชื่อว่า กาฬนาคราช ข้อสงสัยคือว่าใน

เมื่อถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ทำไมเป็นสัตว์อบายภูมิครับ เรียนอย่างนี้ครับ การ

สะสมมาของจิต คือ การสะสมศรัทธา ความเลื่อมใสในอดีตไม่ได้หายไปไหนเลย

ดังนั้น นาคราช เป็นสัตว์อบายภูมิ คือเป็นสัตว์เดรัจฉานแต่ก่อนที่จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน

ก็ต้องเคยสะสมปัญญา สะสมศรัทธามา เพราะฉะนั้น มาในชาติที่เป็นนาคราช เพราะ

อกุศลกรรมให้ผล เกิดเป็นนาคราช เป็นสัตว์เดรัจฉานที่เป็น 1 ใน 4 ในอบายภูมิ 4

แต่เมื่อสะสมศรัทธาและปัญญาครับ แม้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็มีศรัทธา มีความเลื่อมใส

ในพระพุทธเจ้า แม้จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นนาคราชครับดังนั้นความเลื่อมใส ศรัทธา

ปัญญาที่สะสมมาไมไ่ด้หายไปไหน กุศลก็สามารถเกิดได้ แม้สัตว์เดรัจฉานครับ ไม่ใช่

ห้ามให้กุศลเกิดเพียงการเกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น แต่กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เป็น

การเจริญวิปัสสนา หรือถึงการบรรลุ มรรคผล ต้องเป็นไปในสุคติภูมิเท่านั้น คือ มีการ

เกิดเป็นมนุษย์ เป็นต้น แต่อบายภูมิที่เป็นทุคติภูมิไม่สามารถ เจริญกุศลระดับสูง มีการ

เจริญวิปัสสนา และบรรลุ มรรคผลได้ แต่กุศลที่ถึงพระพุทธเจ้า เป็นสรณะ เป็นความ

เลื่อมใส ศรัทธา การรักษาศีล 5 กุศลขั้นพื้นฐานนี้ สัตว์ในอบายภูมิ มีสัตว์เดรัจฉาน

สามารถเกิดขึ้นได้ครับ ซึ่งเมื่อได้อ่านชาดก จะเห็นตัวอย่างมากมาย ที่สัตว์เดรัจฉาน

รักษาศีล หรือ ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ดังนั้น นาคราช ปฏิสนธิด้วยผลของ

อกุศลกรรม ทำให้เกิดในทุคติภูมิ เป็นสัตว์ในอบายภูมิ แต่กุศลก็เกิดได้ คือ รักษาศีล

5 หรือถึงพระรัตนตรัย เป็นสรณะ ในชาตินั้นนั่นเองครับ แต่ไม่สามารถบรรลุ มรรคผล

ที่เป็นกุศลระดับสูงได้ครับ ดังนั้นกุศลขั้นพื้นฐาน สัตว์เดรัจฉานก็เกิดได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ค. 2554

2.เป็นภาพเคลื่อนไหวเป็นเวลานานและเหมือนพญานาค” (งูใหญ่) จริงๆ เท่าที่เห็น,และ

ก่อนหน้าที่จะปรากฏก็มาเข้าฝันบางท่านว่าจะ”เนรมิตกาย”มาปรากฏในบริเวณและ

วันเวลาดังกล่าวจริงๆ (ตามข่าว) ,ถ้าเป็นเพียงสัตว์ในอบายภูมิ,จะสามารถ”เนรมิต”กาย

ได้หรือครับ?,ด้วยความเคารพ...ขอบคุณครับ...

--------------------------------------------------------

โดยทั่วไป แม้เป็นสัตว์อบายภูมิบางประเภท ก็สามารถเนรมิตกายได้ และก็มีผลของ

บุญที่เคยทำในอดีต อุปถัมภ์ทำให้มีความสุขมาก แม้เกิดในอบายภูมิครับ นาคราช แม้

เป็นสัตว์ในอบายภูมิ แต่ก็มีฤทธิ์ มีอานุภาพ สามารถเนรมิตตัวเองได้ ดังเช่น พระโพธิ

สัตว์เกิดเป็นาคาราช และก็เนรมิตตัวเอง เป็นร่างแบบมนุษย์ได้ครับ ที่สำคัญเห็น

เหมือนลักษณะงู แต่จำเป็นต้องเป็นนาคราชหรือไม่ครับ ดังนั้นทุกอย่างก็ไม่พ้นจาก

ความคิดนึกและความทรงจำไว้ ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ครับ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 10 ก.ค. 2554
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วินิจ
วันที่ 11 ก.ค. 2554
...ขอขอบพระคุณ อ.เผดิมและขออนุโมทนาครับ...
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 12 ก.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ