พระธรรมกับการดำเนินชีวิต [แนวทางเจริญวิปัสสนา และ การภาวนา]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.
ข้อความบางตอน จากการสนทนาธรรม กับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ณ อาคารมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๔ ถอดเทปบันทึกเสียง โดย คุณสงวน สุจริตกุล.
คำว่า "ภาวนา" หมายถึง "การอบรม-เจริญ-ปัญญา" ถ้าฟังพระธรรม-ยังไม่เข้าใจ ก็ยัง อบรม-เจริญ-ปัญญา ไม่ได้ แต่ ถ้าไม่ฟังพระธรรมจะมี "แนวทาง-ในการอบรม-เจริญ-ปัญญา" ได้ไหม เช่น ขณะที่กำลังฟัง "เรื่องของการเห็น" และ เริ่มเข้าใจขณะนั้น ยังไม่ใช่ การระลึก-ตรง-ลักษณะของ "การเห็น" ด้วยความเข้าใจจริงๆ เพราะฉะนั้นในขณะที่ "เริ่มฟังพระธรรม" เป็น "แนวทาง-ที่นำไปสู่-ความเข้าใจขึ้น"เป็น "แนวทาง-เจริญ-วิปัสสนา"
"ขั้นฟัง" จะกล่าวว่า เป็น "การอบรม-เจริญ-ปัญญา" ยังไม่ได้ แต่ เป็น แนวทาง-ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ ว่า "อบรม-เจริญ-ปัญญา" คือ อย่างไร ฟัง-เข้าใจ ว่า สิ่งที่กำลังมีจริง ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่สามารถรู้ได้ฟัง-จน เริ่มรู้-ตรง "ลักษณะ" ของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะที่กำลังรู้-ตรง-ลักษณะ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ ขณะนั้น ไม่มีเรา คำว่า "ภาวนา" ในพระไตรปิฎก มีหลายขั้น
ขณะที่ สติ-สัมปชัญญะ ระลึก-รู้-ตรง-เฉพาะ-ลักษณะที่เป็น "ธรรม" จริงๆ เป็น "นาม-รูป-ปริจเฉทญาณ"ขณะนั้น เป็น "การภาวนา" ที่เป็น "สติปัฏฐาน" ขณะนั้น "ลักษณะ" ของ นามธรรม และ รูปธรรม แยกขาดกัน ชัดเจน โดยมี "ภวังคจิต" ซึ่งเป็นสภาพธรรม-ที่ไม่มีอารมณ์-ปรากฏ เกิดคั่น. เพราะถ้าหาก ไม่มี "ภวังคจิต" เกิดคั่นก็จะไม่เห็น "ความแตกต่าง" อย่างชัดเจน ของนามธรรม และ รูปธรรม "สติปัฏฐาน" เกิดสั้นมาก แล้วก็ดับไป
"สติปัฏฐาน" จึงเป็น "การภาวนา" จริงๆ เพราะเป็นการรู้-ลักษณะของนามธรรม และ รูปธรรม จริงๆ เมื่อยังไม่ถึง "การประจักษ์แจ้ง-อริยสัจจธรรม-ขั้นแรก"ซึ่งเป็นการถึงความเป็น "พระโสดาบัน" ก็ยังเป็น "ปุถุชน"
"การภาวนา" ก็เพื่อที่จะพ้นจากความเป็น "ปุถุชน" ไปสู่ความเป็น "พระอริยบุคคล-ตามลำดับขั้น" แต่ ยิ่งกว่านั้น ถ้าเป็น "ภาวนา" ขั้นสูงๆ ขึ้นไปคือ การภาวนา-ของพระโสดาบัน เป็นต้น ไปพระอริยบุคคล ก็ยังขาดการภาวนา ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ "การภาวนา" จึงต้องดำเนินไป จนกว่าจะถึงซึ่ง "การดับกิเลส-เป็นสมุจเฉท" เมื่อ "ลักษณะของ-ธรรม" ยังไม่ปรากฏ กับ "สติปัฏฐาน" ก็ยังไม่เป็น "การภาวนา" จริงๆ
เมื่อ ปัญญาระดับนั้น ยังไม่เกิดก็ควรที่จะเป็น "การอบรม-เพื่อความเข้าใจถูก" ว่า อะไร เป็น "หนทาง-ที่จะนำไปสู่-ความรู้" และ อะไร เป็น "หนทาง-ที่จะทำให้-ไม่รู้" พระธรรม ที่แท้จริงเป็นเรื่องตรง จริง และ ไม่ทำให้เกิด ความเข้าใจผิด.
การศึกษาพระธรรมทั้งหมด เป็นเรื่องของ "ปัญญา" พระธรรม ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึง "ความเป็นอนัตตา" มั่นคง และ ไม่หวั่นไหว ใน "ความเป็นอนัตตา" เมื่อเข้าใจถูกต้อง ว่า สภาพธรรม เป็น "ธรรม"
ขออนุโมทนา
มั่นคง และ ไม่หวั่นไหว ใน "ความเป็นอนัตตา" เมื่อเข้าใจถูกต้อง ว่า สภาพธรรม เป็น "ธรรม"
ขออนุโมทนาค่ะ