ท่านใดมีเนื้อหาในพระไตรปิฏกของเนื้อหาบทสวด?

 
เจริญในธรรม
วันที่  16 ส.ค. 2554
หมายเลข  18955
อ่าน  1,898

พอดีไปฟังบทสวด และแหล่เพลงพร้อมแปลของบทสวดไม่แน่ใจบทสวดใหน ชื่ออะไร

แต่ในบทแปลบอกว่า พระพุทธเจ้าทรงชนะช้างนาฬาคีรี,ชนะองคุลุมาล,ชนะพกพรหม,

ชนะนาคราช,ชนะบุคคลสำคัญๆ มากมาย พอดีจำได้ไม่หมด ไม่แน่ใจว่าเป็นบทอิติปิโส

ชนะมารหรือเปล่า และผมสนใจครับพอดีจะเอาไปสอนลูก ลูกก็จะให้เราแปลและเล่า

เพราะผมเปิดในCDในรถครับ จะรบกวนทุกท่านว่าพอมีเนื้อหาตอนไหนของพระสูตร

ครับ หรือจะหยิบยกมาได้จักขอบคุณยิ่ง และขออนุโมทนาล่วงหน้านะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย สำหรับบทสวด เรื่องการชนะช้างนาฬาคีรี ชนะองคุลิมาร เป็นบทสวดที่แต่งขึ้นมาใน

รุ่นหลัง ไม่มีแสดงไว้ในพระไตรปิฎกและคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ หากจะสอนลูก

หรือ บุคคลอื่น ควรนำข้อความในพระไตรปิฎกที่เป็นคำสอนโดยตรงของพระพุทธเจ้า

ครับ ก็จะเป็นการักษาพระศาสนาด้วย คือ ไม่ให้พระธรรมผิดเพี้ยนไปจากการแต่งเติม

ขึ้นมาภายหลัง และการได้ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ที่เป็นพระไตรปิฎก

เป็นคำที่สามารถทำให้ผู้ฟัง ผู้อ่านได้เกิดกุศลจิต เกิดปัญญาเพราะคำที่พระองค์ทรง

แสดง เป็นพระธรรมที่ตรัสรู้ด้วยพระปัญญาของพระองค์ ย่อมเป็นสัจจะความจริงแท้

ไม่เปลี่ยนไปตามความคิดของปุถุชน และสิ่งที่พระองค์ทรงแสดงย่อมเป็นประโยชน์กับ

ผู้ที่ได้รับฟังไม่มากก็น้อย คือ เจริญขึ้นในกุศลธรรมไม่มากก็น้อย รวมทั้งปัญญาด้วย

ครับ เพราฉะนั้นในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก็มีหลายหมวด ที่สามารถสอนลูก

ได้ เช่น ในชาดก ที่เป็นเรื่องเล่าในอดีตชาติของพระองค์ที่ให้ข้อคิดและขัดเกลา

กิเลสในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เหมาะกับลูกด้วยครับและก็เป็นสิ่งที่ตรงเป็นสัจจะ

เพราะพระองค์แสดงเองครับ รวมทั้งหมวดอื่นๆ เช่น คาถาธรรมบทก็อ่านดีครับ สามารถ

เล่าให้ลูกฟังได้ และตัวผู้อ่านผู้เป็นพ่อเองก็เหมือนได้รับฟังพระธรรมจากพระโอษฐ์โดย

ตรงและทำให้ผู้อ่านก็ได้เจริญกุศล กุศลเจริญด้วยครับ ซึ่งผมจะทำลิ้งไว้ให้ดาวโหลด

เนื้อหาในเล่มนะครับ โดย จะลิ้งชาดกบางเล่มซึ่งเนื้อหาไม่ยาวและก็ คาถาธรรมบทด้วย

ครับ ลองคลิกที่ลิ้งและกดดาวโหลดเนื้อหาในเล่มครับ เป็นประโยชน์กับผู้ที่อ่านและผู้ที่

ได้รับฟังจากผู้ที่เล่าที่ได้อ่านแล้วด้วยครับ ขออนุโมทนา

ลิ้งต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวในพระไตรปิฎกที่บทสวดกล่าวอ้างถึงครับ

เรื่อง ช้างนาฬาคีรี ตามลิ้งข้างล่างครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑- หน้าที่ 228

เรื่องพกพรหม ตามลิ้งข้างล่างครับ

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 140

เรื่องพระองคุลิมาล ตามลิ้งข้างล่างครับ

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 150

เรื่อง นันโทปนันทนาคราช ตามลิ้งข้างล่างครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 474

------------------------------------------------------

ชาดก เรื่องสั้นๆ เหมาะกับเด็กครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 1

คาถาธรรมบท เรื่องสั้นอ่านดีมากครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓-หน้าที่ 1

ขออนุโมทนาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงพระธรรมประกาศพระศาสนา

ตลอด ๔๕ พรรษา พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล

เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจและน้อมประพฤติ

ปฏิบัติตาม ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมีจำนวน นับไม่

ถ้วน ทั้งเทวดา พรหม และ มนุษย์ แล้วพระธรรมก็มีการทรงจำสืบต่อมาจนถึงสมัย

ปัจจุบันเป็นพระไตรปิฎก ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมด พระไตรปิฎกและอรรถกถา จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อได้อ่าน ได้ศึกษา ด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ ศึกษาเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกตรงตามพระธรรม ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะทั้งหมดนั้น เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่างๆ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ และ พระธรรม ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องท่องหรือสวดเลย แต่ทั้งหมดเพื่อศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ซึ่งเมื่อตนเอง ได้อ่าน ได้ศึกษา มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถอธิบายให้ผู้อื่นได้เข้าใจ ด้วย [ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของพระธรรมคำสอน เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง] พร้อมทั้งยังสามารถแนะนำให้ผู้อื่นได้อ่าน ได้ศึกษาได้ด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นวัยใด เพศใด ถ้าได้ศึกษาแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้นั้นจริงๆ มีค่ามากมายมหาศาล ยิ่งกว่าวิชาการทางโลกแขนงใดๆ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 16 ส.ค. 2554

ขออนุญาตเรียนสอบถามเพิ่มเติมสักนิดนะครับ

บทสวดข้างต้นเรื่องการที่พระพุทธองค์ทรงชนะบุคคลทั้งหลายนั้น

เป็นที่นิยมกันมากๆ และผู้สวดส่วนใหญ่ที่ผมพบเจอ ก็จะมีความเชื่อว่า สวดแล้วมีศิริ

มงคล ทำให้ชนะสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ผมก็พิจารณาแล้ว บทสวดนั้น นำข้อความบางตอน

มาจากพระไตรปิฎก และปรับปรุงใหม่ ซึ่งหากอ่านแล้วก็จะเป็นเรื่องเป็นราวทำให้รู้สึก

ไปในเรื่องของอิทธิฤทธิเสียส่วนใหญ่แต่เนื่องจากบทสวดนี้เป็นที่นิยมมาก หากจะเป็น

ประโยชน์บ้าง ถ้ามีคำอธิบายที่เหมาะสมสั้นๆ ในแต่ละบทเช่น คาถาบทแรก แปลได้ใจ

ความว่า "พระพุทธองค์จอมมุนีทรงชนะพญามารผู้เนรมิตแขนมากตั้งพันถืออาวุธครบมือ

ขี่ช้างคีรีเมขลา พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องก้องกึก ด้วยธรรมวิธี มีทานบารมี เป็นต้น"

เราควรพิจารณาและทำความเข้าใจในคาถานี้เบื้องต้นอย่างไร จึงจะตรงตามเหตุและ

ผล เป็นต้นไม่ทราบว่าอาจารย์ผเดิมจะอนุเคราะห์อธิบายให้เกิดประโยชน์ในการเข้าใจ

พระธรรมมากขึ้นจากบทสวดนี้ได้หรือไม่ครับ อย่างน้อยเมื่อเห็นใครจะสวดบทนี้ จะได้

ให้ทำความเข้าใจในเบื้องต้นเสียก่อน เมื่อสวดไปจะได้ไม่เสียเปล่า ขอบพระคุณและ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2554

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

ในบทสรรเสริญพุทธคุณในพุทธชัยมงคลคาถา บทที่ ๑ ว่า

" พาหุํ สหสฺสมภินิมฺมิตสาวุธนฺตํ

คฺรีเมขลํ อุทิตโฆรสเสนมารํ

ทานาทิธมฺมวิธินา ชิตวา มุนินฺโท

ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ

พระจอมมุนีได้ชัยชนะพญามาร ผู้เนรมิตแขนตั้งพัน มีอาวุธครบมือ ขี่คชสารครีเมขล์

พร้อมด้วยเสนามาร มาโห่ร้องกึกก้อง ด้วยธรรมวิธี มีทานบารมี เป็นต้น ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอสรรพมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน.

---------------------------------------------------------------------------------

ธรรมเป็นเรื่องละเอียด และเป็นเรื่องของเหตุผล ที่สำคัญที่สุด ธรรมที่พระองค์ทรง

แสดงเป็นไปเพื่อเบื่อหน่ายคลายกำหนัด เพื่อละ ไม่ติดข้อง หากคำใดคือคำสอนใดที่

สอนให้ติดข้อง ให้เพิ่มกิเลส ให้ต้องการ เพื่อได้ไม่ใช่เพื่อละ ให้รู้เลยครับว่านั่นไม่ใช่

คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นสัทธรรมปฏิรูป อันจะทำให้พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรง

แสดงนั้นอันตรธานเร็วขึ้นครับ

ในกรณีเรื่องบทสวด พุทธชัยมงคล มี บทสวดตอนที่พระพุทธเจ้าชนะมาร เป็นต้น

ก็ต้องถามว่าคาถานี้นำมาจากพระไตรปิฎก และแต่งเติมเพื่มขึ้น เพื่อจุดประสงค์อะไร

เพื่อละ ขัดเกลากิเลส ไม่ติดข้อง หรือเพื่อให้ได้ เพื่อให้ติดเพื่อให้มีโลภะ เพื่อได้สิ่งที่

น่าปรารถนา ได้ความปลอดภัย ทำให้โลภะเจริญขึ้น ซึ่งการจะได้รับสิ่งที่ดี ไม่ดี สำคัญ

ที่กรรมของบุคคลนั้นเอง ไม่ได้อยู่ที่คำกล่าวบทสวด ชัยชนะมารของพระองค์ด้วย

คุณธรรม ชัยชนะนั้นของท่าน ก็ด้วยคุณธรรม ความดีของท่าน เมื่อเป็นความดีของท่าน

จะให้ความดีของพระพุทธเจ้า มาให้สิ่งที่ดีๆ กับเราไม่ได้ครับ จิตของใครก็ของคนนั้น

เพราะฉะนั้นที่มีคำต่อท้ายว่า ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอสรรพมงคลทั้งหลาย

จงมีแก่ท่าน ต้องด้วยเดช คือคุณเดชของบุคคลนั้นเอง คือความดีของผู้นั้นที่จะทำให้

เป็นมงคล เพราะขณะนั้นเป็นกุศล เป็นความดี แต่ไมได้หมายความว่าจะเอาความดีของ

พระองค์มาปกปักษรักษาผู้ที่สวดครับ และการสวดเพื่อให้ได้สิ่งที่ดี ได้ความเป็นมงคลก็

ไม่ใช่เรื่องละ ไม่ใช่เรื่องขัดเกลา จึงไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า และคาถาบทสวดที่

แต่งเติมอันเป็นไปเพื่อความติดข้อง ไม่มั่นคงในเรื่องของเหตุผล คือเรื่องของกรรม ก็

เท่ากับเป็น ธรรมเทียม เป็นสัทธรรมปฏิรูป ทำให้พระศาสนาเสื่อมเร็วขึ้นครับ เมื่อมีผู้

คนกระทำสิ่งนี้มากขึ้นครับ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นจะต้องสวด แต่เมื่อเราได้ยินคำสวด

เพราะห้ามไม่ได้ใช่ไหมครับ ที่จะได้ยินเสียง แต่เมื่อได้ยินแล้ว เพราะอาศัยการฟังพระ

ธรรมเข้าใจพระธรรม ก็สามารถตรึก พิจารณาในคำบางคำในคำสวด แม้แต่คำว่าพระ

พุทธองค์จอมมุนี อันหมายถึง ผู้ที่มีปัญญา (มุนี) หรือผู้ที่ยังบาปให้สงบ ก็สามารถระลึกถึง

คุณของพระพุทธเจ้าได้ อันเกิดจากการเข้าใจพระธรรมที่ได้ศึกษามา แม้แต่คำสวดที่

พระองค์ชนะมาร ก็สามารถพิจาณาตามที่ได้เข้าใจพระธรรม ว่า พระองค์ชนะด้วย

คุณธรรม บารมีของท่านที่สะสมมา เป็นต้น ดังนั้นเราไม่สวด แต่เมื่อได้ยินคำสวด ก็

สามารถน้อมระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าได้ เพราะได้ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง นั่น

เองครับ แทนที่จะขอความเป็นมงคลจากการสวดคาถานี้ ก็น้อมระลึกถึงพระคุณของพระ

พุทธเจ้าตามความเป็นจริง จิตขณะนั้นไม่ได้ขอความเป็นมงคล แต่จิตขณะนั้นเป็นกุศล

เป็นมงคลแล้วในขณะนั้นครับ ผู้ที่ศึกษาพระธรรม จึงต้องเป็นผู้ละเอียด ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องตรวจสอบว่าตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ เป็นไปเพื่อได้ หรือ เพื่อละ เป็นต้นขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pat_jesty
วันที่ 16 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และกราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
bauloy
วันที่ 17 ส.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ............

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ