เพราะเหตุใด ตทาลัมพนวิถีจิต จึงเป็นวิบากจิต

 
fam
วันที่  23 ส.ค. 2554
หมายเลข  19550
อ่าน  1,337

เรียนท่านอาจารย์ทุกท่าน อยากทราบว่าเพราะเหตุใด ตทาลัมพนวิถีจิต จึงเป็นวิบากจิต คะ ทั้งๆ ที่จิตก่อนหน้า (ชวนจิตรที่ 1-7) เป็น กุศล อกุศล หรือกิริยาจิต ดังนั้น ตทาลัมพนวิถีจิต จึงน่าจะเป็น กุศล อกุศล หรือกิริยาจิต มากกว่าค่ะ

ขอบพระคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จิตที่เป็นชวนจิต โดยทั่วไปจะเกิดมาเกิน 7 ขณะ เมื่อดับไปแล้ว ถ้าอารมณ์นั้นมีกำลัง ชัดเจน ตทาลัมพนจิตก็เกิดต่อได้ 2 ขณะเมื่อรูปนั้นยังไม่ได้ดับไป เหตุผลที่ตทาลัม พนจิตเป็นชาติวิบาก ไม่เป็นชาติกุศล หรือ อกุศลหรือกิริยา เหมือนกับชวนจิตเพราะ ด้วยอำนาจปัจจัย คือ อาเสวนปัจจัย ที่เสพอารมณ์เหมือนกันเพียง 7 ขณะเท่านั้น คือ ชวนจิต 7 ขณะต้องเป็นชาติของจิตเหมือนกัน คือ ถ้าเป็นกุศลก็เป็นกุศล 7 ขณะเหมือน กันหมดแต่ จะไม่เป็นอาเสวนปัจจัยให้ชาติเดียวกันเกิดขึ้นเป็นชวนจิตดวงที่ 8 แล้ว เพราะชวนจิมีแค่ 7 ขณะสูงสุด ดังนั้น จิตทีเกิดต่อจึงไม่เป็นชาติเดียวกันกับชวนจิตดวง ที่ 7 ที่เป็นกุศล อกุศลและกิริยาครับ จึงเป็นชาติวิบาก ที่เป็นตทาลัมพนจิตตามที่กล่าว มานั่นเองครับ จึงเป็นจิตนิยาม คือ เป็นธรรมชาติของวิถีจิตที่จะต้องเป็นอย่างนั้น ตามที่ พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมไว้เป็นอย่างนั้นเองครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น ให้สัตว์โลกได้รู้ตาม ธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น ไม่มีใครจะไปเปลี่ยนแปลงได้ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น หนึ่งในธรรมที่มีจริงนั้น คือ จิต ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ เมื่อเกิดขึ้นย่อมกระทำกิจหนึ่งกิจใด ตามสมควร แม้แต่ตทาลัมพนจิต ก็เช่นเดียวกัน เป็นจิตที่เกิดขึ้นรับผลของกรรมรับรู้อารมณ์ต่อจากชวนจิต เมื่อรูปนั้นยังไม่ดับ ก็เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้นรับรู้อารมณ์นั้นต่อได้ ซึ่งเป็นการตรัสรู้โดยบุคคลผู้เลิศผู้ประเสริฐที่สุด คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถ้าจะศึกษาแล้ว ก็จะเข้าใจว่า จิตที่จะกระทำตทาลัมพนกิจได้นั้น ล้วนแต่เป็นวิบากจิตทั้งสิ้น (ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล ไม่ใช่กิริยา) มี ๑๑ ดวง ได้แก่ คือ อุเบกขาสันตีรณจิต ๒ ดวง โสมนัสสันตีรณจิต ๑ ดวง และ มหาวิบาก ๘ ดวง ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก แม้จะมีจริงในขณะนี้ ก็ยังยากที่จะเข้าใจ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
fam
วันที่ 24 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สมศรี
วันที่ 24 ส.ค. 2554

เป็นจิตนิยาม เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ยากที่จะเข้าถึงได้ แต่ก็เรียนรู้ เข้าใจได้ เป็นสิ่งที่น่าศึกษาจริงๆ

ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ