ลายนิ้วมือเหมือนก้นหอย

 
สุภาภรณ์
วันที่  23 ส.ค. 2554
หมายเลข  19554
อ่าน  5,402

มีผู้กล่าวว่า คนที่มีลายนิ้วมือเป็นก้นหอยทุกนิ้วนั้น มีบุญมาก และจะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป คำกล่าวนี้เป็นจริงหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ควรเข้าใจความจริงว่าพระพุทธเจ้า ตรัสรู้และดับกิเลสหมดแล้ว อันเป็นเหตุให้มีการ

เกิด เมื่อพระองค์ดับกิเลสแล้ว ก็ได้ปรินิพพานที่กุสินารา การปรินิพพาน หมายถึง การ

ดับรอบ ไม่เหลือเลย คือการไม่มีการเกิดขึ้น ของจิตและเจตสิก รูปอีก ไม่มีการเกิดขึ้น

ของสภาพธรรมอีกและไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์ ที่จะบัญญัติว่าเป็นพระพุทธเจ้าอีกแล้ว

ครับเพราะท่านดับเหตุแห่งการเกิดคือกิเลสหมดแล้วครับ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่

พระพุทธเจ้าจะกลับมาเกิดอีกบนโลก ในเมื่อได้ปรินิพพานไปแล้วครับ

ส่วนหากจะกล่าวว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปนั้น ก็เป็นไปไมได้เช่นกัน ตราบใด

ที่พระศาสนาในสมัยพระพุทธเจ้าพระสมณโคดมยังไม่อันตรธานไป ตราบนั้นแม้พระ

พุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าจะมาบังเกิดในโลกนี้ เป็นพระพุทธองค์ใหม่ไมได้ครับ

เพราะจะต้องพระศาสนานี้เสื่อมไปก่อน และก็ใช้เวลาอีกหลายล้านล้านปี นานมากๆ

นับเวลาไม่ได้ พระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่ที่เป็พระศรีอริยเมตไตรย์จะมาอุบัติขึ้นครับ จึง

เป็นไปไมได้อีกเช่นกันที่พระพุทธเจ้าอีกพระองค์จะมาบังเกิดบนโลกนี้ในเวลานี้

ประเด็นอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องลายนิ้วมือเป็นก้นหอยทุกนิ้ว หมายถึง คนนั้นจะเป็นพระ

พุททธเจ้า ธรรมเป็นเรื่องละเอียดครับ สำหรับบุคคลที่จะเป็นพระพุทธเจ้านั้นทรงมีพระ

ลักษณะที่เรียกว่า มหาปุริสลักษณะ 32 ประการและอนุพยัญชนะ 80 ซึ่งลักษณะ

ของมหาบุรุษนี้ ผู้ใดมีลักษณะเช่นนี้ เมื่อบวชย่อมได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่ถ้าครองเรือน

ย่อมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ซึ่งในมหาปุริสลักษระ 32 ประการนั้น ประการหนึ่งได้แสดง

ถึงลักษณะของฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ว่า เป็นลักษณะ อ่อนนุ่ม และมีลักษณะฝ่าพระ

หัตถ์ เป็นตาข่ายครับ แต่ไม่ได้แสดงลักษณะของนิ้วมือที่เป็นก้นหอย ในมหาปุริสลัก

ษณะ 32 ประการครับ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นเลยที่คนที่มีลายนิ้วมือเป็นก้นหอยทุกนิ้วจะมา

เป็นพระพุทธเจ้า และเป็นไปไม่ได้โดยประการทั้งปวง ตามเหตุผลเรื่องที่พระพุทธเจ้า

ปรินิพพานแล้ว และเหตุผลเรื่องมหาปุริสลักษณะ 32 ประการที่ไม่มีลักษณะของลายก้น

หอยครับ มีแต่ลายตาข่าย ที่ฝ่าพระหัตถ์ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนาครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 14

จุติจากสวรรค์แล้วเวียนมาในโลกนี้ ก็เป็น

พระกุมารยังหนุ่มแน่นงดงาม ย่อมได้ความ

เป็นผู้มีฝ่าพระหัตถ์ และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม

ความเป็นผู้มีฝ่าพระหัตถ์ และฝ่าพระบาทมี

ลายเป็นตาข่ายงามอย่างยิ่ง และมีส่วนสวย

น่าชมด้วย

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ บุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก พระองค์ทรงเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง (อรหันต์) ทรงตรัสรู้โดยชอบได้โดยพระองค์เอง (สัมมาสัมพุทธะ) สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้นั้น คือ อริยสัจจ์ ๔ ประการได้แก่ ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ หนทางที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมดทุกประการ พระองค์ทรงตรัสรู้ตามความเป็นจริง เมื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้ว ทรงมีพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลสัตว์โลกให้ได้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงเข้าใจ จึงทรงแสดงพระธรรม ประกาศพระศาสนาแก่สัตว์โลก ซึ่งมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม ตามระดับขั้นของความเข้าใจของแต่ละบุคคล สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ สูงสุดถึงความเป็นพระอรหันต์ มีเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ท่านเหล่านี้ก็ตรัสรู้ความจริง คือ สัจจะทั้ง ๔ประการนั้น แต่ไม่ได้ตรัสรู้เองเหมือนอย่างพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเป็นผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ได้ฟังความจริงที่พระองค์ทรงแสดงจึงสามารถตรัสรู้ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัจจะคือสิ่งที่มีจริงเหล่านี้ทำให้บุคคลผู้รู้แจ้งถึงความเป็นพระอริยะได้ เมื่อเห็นอริยสัจจ์ ๔ ตามความเป็นจริง ก็จะเป็นเหตุให้ไม่ต้องวนเวียนไปในวัฏฏะ อีกต่อไป พระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้า ทรงดับกิเลสได้อย่างหมดสิ้น (กิเลสปรินิพพาน) ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ พระองค์ทรงประกาศพระศาสนาเป็นเวลา ๔๕ พรรษา เมื่อพระองค์ทรงมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา พระองค์ก็เสด็จดับขันธ-ปริพพาน ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ เช่นเดียวกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงพระอรหันต์สาวกทั้งหลาย เมื่อปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก ส่วนผู้ที่ยังมีกิเลส ยังต้องเกิดอีก เวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป จนกว่าจะมีการอบรมเจริญปัญญา จนคมกล้าสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ จึงจะเป็นผู้ไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ เพราะได้ดับเหตุที่จะทำให้เกิด คือ กิเลส ได้อย่างหมดสิ้นแล้ว ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผิน
วันที่ 24 ส.ค. 2554

เรียน คุณสุภาภรณ์ เรื่องลายนิ้วมือเหมือนก้นห้อยทุกนิ้ว ดิฉันก็มีทุกนิ้วค่ะ ดิฉันก็เป็น

เพียงปุถุชน ดังนั้นเรื่องลายนิ้วมือเหมือนก้นห้อยคือ พระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด

จึงไม่เป็นความจริง ดิฉันมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับ คุณ paderm และ

อ.khampam.a

ขอบพระคุณและขออนูโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 24 ส.ค. 2554

พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ไม่มีทางกลับชาติมาเกิดอีกแน่นอน หรือใครจะ

ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า หรือเห็นพระพุทธเจ้าอีกไม่ได้ และการเวียนว่ายตายเกิด

เป็นเรื่องของคนที่ยังมีกิเลสอยู่ ส่วนพระพุทธเจ้าดับกิเลสแล้ว ไม่เกิดอีกเลยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pamali
วันที่ 24 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
lovedhamma
วันที่ 24 ส.ค. 2554
ขอขอบคุณ คุณสุภาภรณ์มากนะครับ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jans
วันที่ 24 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
น้ำมนต์
วันที่ 14 ก.ย. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
สุภาภรณ์
วันที่ 21 ก.ย. 2554

ขออนุโมทนาคะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ