กุศลที่เกิดก่อนๆเป็นปัจจัยไห้กุศลที่เกิดหลังๆเกิด
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ท่านยังไม่เห็นกำลังของอนันตรปัจจัยใช่ไหม เพราะเหตุว่าเมื่อเกิดมาแล้ว
ก็ไม่เคยขาดจิตเจตสิกเลย
แต่ที่จิตเจตสิกขณะใดเกิดปรากฏมีกำลังขึ้นให้ทราบว่า
ถ้าจิตดวงก่อนไม่ดับไปจิตดวงนั้นก็เกิดไม่ได้
ก็แสดงว่าจิตดวงก่อน การดับของจิตดวงก่อนมีกำลัง จึงทำให้จิตดวงหลังและเจตสิก
ที่เกิดร่วมด้วยนั้นเกิดขึ้นได้
การที่จะพิจารณาเรื่องของ อนันตรูปนิสสยปัจจัย ว่าเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นติดต่อกัน
ไม่มีระหว่างคั่นและมีกำลังมาก กุศลที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยไห้กุศลที่เกิดหลังๆ เกิด
โดยไม่มีระหว่างคั่นตามวิถีจิต มีกำลังไหม เพราะเหตุว่า กุศลเกิดแล้วก็ดับ แล้วก็เป็น
ปัจจัยให้กุศลดวงต่อไป มีสภาพเหมือนกับตน เกิดขึ้นอีกตามวิถีจิต เพราะฉะนั้น
อนันตรูปนิสสยปัจจัยก็ไม่มีอะไรที่จะยุ่งยาก ถ้าคิดถึงอนันตรปัจจัยว่าจิตดวงใดดับไป
แล้ว เป็นปัจจัยให้จิตดวงใดเกิดต่อ การที่จิตดวงนั้นดับไปนั่นเองมีกำลัง เป็นสภาพ
ธรรมที่มีกำลังทำให้จิตดวงหลังเกิดต่อได้ จึงเป็นอนันตรูปนิสสยปัจจัย เพราะเหตุว่าถ้า
จิตดวงที่เกิดก่อนไม่ดับ จิตดวงหลังก็เกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นการดับของจิตดวงก่อนจึง
ชื่อว่าเป็นปัจจัยที่มีกำลัง ที่ทำให้จิตดวงหลังเกิดขึ้น ถ้าไม่สงสัในเรื่องของอันตรปัจจัย
อนันตรูปนิสสยปัจจัยก็ไม่มีอะไรที่น่าสงสัย
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเผดิม คุณคำปั่น และทุกท่านครับ