อัญญสัตถุทเทส

 
k_o
วันที่  2 ก.ย. 2554
หมายเลข  19634
อ่าน  4,491

อยากทราบว่า ทำไม จึงจัด อัญญสัตถุทเทส เป็น อภิฐาน

ท่าน.fมีบทความตอบให้หน่อยครับ

ส.ณ.ปภากร แสนสะอาด


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

อภิฐาน ทั้ง ๖ ประการ เป็นฐานะที่พระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบันไม่กระทำ คือ ฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ที่พระโสดาบันจะกระทำอย่างนี้

อภิฐานะ 6 หมายถึง กรรมที่เด่นยิ่งกว่ากรรมอื่นๆ มี 6 ประการ ดังนี้ครับ

1. มาตุฆาต ฆ่ามารดา

2. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา

3. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์

4. โลหิตุปบาท ทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อ

5. สังฆเภททำสงฆ์ให้แตกกัน

6. อัญญสัตถารุทเทส นับถือศาสดาอื่นคือเข้ารีต

อภิฐานะ 6 นั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ มีความเห็นถูก

แล้ว คือ พระโสดาบัน ย่อมไม่ทำกรรมอันยิ่งนี้อีก คือ อภิฐานะ 6 ประการนี้เลยครับ แต่

สำหรับปุถุชนแล้ว ผู้หนาด้วยกิเลส ย่อมมีโอกาส ล่วงกรรมอันเด่น ยิ่งนี้ 6 ประการได้

ครับ เพราะความที่เป็นปุถุชนนั่นเองครับ

ส่วน อัญญสัตถารุทเทส ก็คือ การนับถือศาสนาอื่น ศาสดาอื่น จากที่เคยนับถือ

ศาสนาที่ถูก เปลี่ยนเป็นสิ่งที่ผิดได้ครับ ผู้ที่เป็นพระอริยเจ้าเท่านั้น มีพระโสดาบัน

เป็นต้น ท่านจะไม่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ศาสดาอื่นอีกครับ เพราะว่าท่านประจักษ์

ความจริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้และถึงความเป็นพระอริยบุคล ประจักษ์ความ

จริงนั่นเอง เมื่อรู้ด้วยตนเอง ด้วยปัญญาแล้ว การจะไปนับถือ ศาสนา หรือ ศาสดาอื่นๆ

จึงไม่ใช่ฐานะครับ ท่านจึงไม่ทำกรรม คือ อัญญสัตถารุทเทส การนับถือศาสนา หรือ

ศาสดาอื่นๆ เลยครับ ส่วนปุถุชน มีความไม่แน่นอนเป็นธรรมดา ปัญญายังไม่มั่นคง จึง

สามารถเปลี่ยนแปลงไปนับถือ ศาสนาอื่น ศาสดาอื่นได้ครับ เพราะความเป็นผู้หนาด้วย

กิเลสและปัญญาน้อย ดังเช่น เพื่อนของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เมื่อเจอพระพุทธเจ้าก็

นับถือพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่อื่นก็ไปนับถือลัทธิที่ผิด วนไปวนมาอย่าง

นี้ แต่ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุพระโสดาบันเมื่อฟังธรรมครับ เพราะสะสมปัญญามานั่นเอง

และ แม้ไม่นับถือศาสนาอื่น แต่ก็สามารถเปลี่ยนจากหนทางที่ถูก ไปสู่หนทางที่ผิดใน

การอบรมปัญญาได้ครับ นี่เป็นธรรมดาของปุถุชน จึงมีควรประมาทกิเลสเลย และควร

เห็นโทษของการเสพคุ้นกับความเห็นผิดครับ และไม่ประมาทในการอบรมปัญญา โดย

การฟังพระธรรมและศึกษาพระธรรมครับ

ดังนั้นจากคำถามที่ว่า ทำไมจึงจัดอัญญสัตถารุทเทส ก็คือ การนับถือศาสนาอื่น

ศาสดาอื่น อยุ่ในอภิฐานะ 6 ตามที่กล่าวแล้ว คือ อภิฐานะ 6 คือ ฐานะที่ผู้ที่เป็นพระ

โสดาบัน จะไม่ก้าวล่วง ดังนั้น พระโสดาบัน ดับความเห็นผิด และประจักษ์พระนิพพาน

ด้วยตนเองแล้ว ดังคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และท่านก็ปฏิบัติตามคำสอนของ

พระพุทธจ้า และประจักษ์จริงตามนั้น ท่านจึงไม่มีทางนับถือศาสดาอื่นเลย เพราะท่าน

เห็นพระองค์ด้วยปัญญาของตนเองแล้ว เชื่อในคำสอนของพระองค์ เพราะประจักษ์

ด้วยตนเอง ดังนั้นท่านจึงไม่ไปนับถือศาสดาอื่นอีก ไม่ก้าวล่วงอภิฐานะข้อที่เป็นอัญญ

สัตถารุทเทส ก็คือ การนับถือศาสนาอื่น ศาสดาอื่นครับ อัญญสัตถารุทเทส จึงจัดอยู่

ในอภิฐานะ ประการหนึ่ง ตามเหตุผลที่กล่าวมาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัตว์โลกผู้ยังเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการ ไม่ว่าจะทรงธรรมหมวดใด ในส่วนใด ก็ล้วนเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ทั้งนั้น รวมถึงอภิฐาน ๖ ดังกล่าวนี้ ด้วย ซึ่งเป็นฐานะที่ยิ่ง ฐานะที่เด่นในทางที่ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง มีฆ่ามารดา ฆ่าบิดา เป็นต้น จนกระทั่งถึง การถือศาสดาอื่น ทำให้เห็นถึงความน่ากลัวของกิเลส ว่าตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสถึงความเป็นพระอริยบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบัน ขึ้นไป ย่อมจะสามารถกระทำอกุศลกรรม กระทำกรรมที่หนักๆ ได้ ตามกำลังของกิเลสที่ได้สะสมมา รวมไปถึงถ้ายังไม่มีความเข้าใจพระธรรมอย่างมั่นคง ละเลยโอกาสที่สำคัญในชีวิตคือการได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้ว ย่อมจะทำให้เป็นผู้ไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ไม่เห็นถึงพระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงบำเพ็ญพระบารมีมา เพื่ออุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลก ก็ทำให้เป็นผู้ไปยึดถึอสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ซึ่งไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริง

อภิฐาน ทั้ง ๖ ประการ เป็นฐานะที่พระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบันไม่กระทำ คือ เป็นไปไม่ได้ที่พระโสดาบันจะกระทำอย่างนี้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ยังไม่ต้องกล่าวถึงฆ่ามารดา ฆ่าบิดา เป็นต้นก็ได้ แม้เพียงฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ท่านก็ไม่กระทำ แต่ที่ทรงแสดงไว้อย่างนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงโทษของความเป็นปุถุชน ซึ่งเป็นผู้ไม่ใช่พระอริยบุคคล ว่า สามารถกระทำอกุศลกรรมอย่างหนักได้ ซึ่งจะประมาทกำลังของกิเลสไมได้เลยทีเดียว เมื่อเริ่มศึกษา เริ่มเห็นคุณของพระธรรม ก็จะค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปตามลำดับ ทำให้เป็นผู้ถอยกลับจากอกุศลมากขึ้นๆ ไม่กระทำอกุศลกรรมโดยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะหนักหรือไม่หนักก็ตาม เพราะขึ้นชื่อว่า อกุศลกรรม แล้วนำมาซึ่งโทษโดยส่วนเดียวเท่านั้น ไม่นำประโยชน์สุขใดๆ มาให้เลยแม้แต่น้อย,การอบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับเท่านั้น ที่จะทำให้เป็นผู้รอดพ้นจากอกุศลได้ในที่สุด ควรอย่างยิ่งที่จะมีชีวิตอยู่ เพื่อสะสมความดี และ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ต่อไป ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 2 ก.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ