ชนเหล่าใดละกามได้แล้ว
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 466
เย กาเม หิตฺวา อคหา จรนฺติ
สุสํยตตฺตา ตสรํว อุชฺชุ.
ชนเหล่าใดละกามได้แล้ว
ไม่ยืดถืออะไรเที่ยวไป
มีตนสำรวมดีแล้ว
เหมือนกระสวยที่พุ่งตรงไปฉะนั้น.
1 ไม่ยืดถืออะไร หมายความว่าอย่างไรครับ
2 เที่ยวไป หมายความว่าอย่างไรครับ
3 มีตนสำรวมดีแล้ว หมายความว่าอย่างไรครับ สำรวมทั้งกายและใจ
หรือเปล่าครับ
ขอคำชื้แนะด้วยครับ จะขอบพระคุณมากครับ
เรียนความเห็นที่ 1 ครับ
1 ไม่ยืดถืออะไร หมายความว่าอย่างไรครับ
หมายถึงพระอรหันต์ ไม่ยึดถือ สภาพธรรมทั้งหมดด้วยอำนาจกิเลสแล้วครับ 2 เที่ยวไป หมายความว่าอย่างไรครับ
เที่ยวไป หมายถึง พระอรหันต์ที่ท่านมีคุณธรรมของท่านเที่ยวไปครับ 3 มีตนสำรวมดีแล้ว หมายความว่าอย่างไรครับ สำรวมทั้งกายและใจหรือเปล่าครับ
สำรวมด้วยปัญญา ทั้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ สำรวมดีแล้ว คือ ไม่เป็นอกุศลใน
สิ่งที่เห็น ไดยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบ สัมผัสและคิดนึกทั้ง 6 ทวารครับ คือพระอรหันต์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอ ด้วยครับ ที่ได้นำข้อความธรรมมาฝากสหายธรรมให้ได้ศึกษาพิจารณา อยู่เสมอๆ เป็นการให้ในสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ครับ พระอรหันต์เป็นผู้ห่างไกลแสนไกลจากกิเลส ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย ความติดข้องยินดีพอใจ (ซึ่งเป็นกิเลสกาม) ดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อเป็นผู้ไม่มีกิเลสแล้วก็ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น หรือติดข้องในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย เป็นผู้มีชีวิตที่ดำเนินไปแตกต่างจากผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างสิ้นเชิง เพราะพระอรหันต์ เป็นผู้ที่มีกาย วาจา และ ใจที่ไม่มีโทษเลย หาโทษใดๆ ไม่ได้ ดังนั้น การเที่ยวไปของท่าน ซึ่งก็คือความเป็นไปแห่งชีวิตของท่านจึงเป็นไปอย่างผู้ที่หมดกิเลสแล้ว สำรวมทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ติดข้องในสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้น ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเผดิม คุณคำปั่น และทุกท่านครับ