นั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ ติดต่อกัน โดยไม่หลับพักผ่อน จะเสียสุขภาพหรือไม่

 
Laymen
วันที่  10 ก.ย. 2554
หมายเลข  19694
อ่าน  3,116

เคยได้ยินมาว่า บางท่านสามารถนั่งสมาธิติดต่อกันนานๆ เป็นเวลา 6 -8 ชั่วโมงหลังจาก

นั้นก็ไม่พักผ่อน แล้วไปทำงานตามปกติในแต่ละวัน พวกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การกระทำใดๆ อันทำด้วยความติดข้องต้องการในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่คำสอนของพระ

พุทธเจ้า เพราะเป็นไปเพื่อเพิ่มพูนกิเลส โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงต้องเข้าใจใหม่ว่า การนั่ง

สมาธิไม่ใช่การปฏิบัติธรรมและสมาธิก็มี 2 อย่าง คือ สัมมาสมาธิและมิจฉาสมาธิ หาก

เจริญสมาธืที่ผิดก็เจริญอกุศล ชีวิตคฤหัสถ์ไม่ใช่ชีวิตบรรพชิต การดำเนินชีวิตประจำวัน

จึงต้องเป็นไปตามความเห็นถูก ไม่ใช่พยายามจะนั่งสมาธิให้ได้มาก เพียงเข้าใจว่าเป็น

การปฏิบัติธรรม นั่นไม่ใช่ แต่ควรเข้าใจว่า ความจริงที่ควรอบรมให้เข้าใจคือ ความจริง

ของสภาพธรรมที่มีในขณะี้นี้ ที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปรู้ตอนนั่งสมาธิเลย

เพราะฉะนั้นก็อบรมปัญญา ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม จนปัญญาเข้าใจความจริงใน

ขณะนี้และดำเนินชีวิตเป็นปกติ เมื่อถึงเวลาก็เข้านอน ก็ไม่ทำลายสุขภาพ และไม่

ทำลายกุศลธรรมด้วย แต่การเข้าใจผิด เจริญสมาธิ ก็ทำให้ทำลายสุขภาพและทำลาย

ความเห็นถูก ไม่ทำลายกิเลส แต่เพิ่มกิเลสด้วยครับ ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 ก.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น หนทางเดียว ที่จะทำให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังมีกำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง นั้น ต้องฟังพระธรรม ต้องศึกษาพระธรรมที่

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความตั้งใจจริงๆ เพราะพระธรรมทั้งหมดนั้น

แสดงให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้เข้าใจตามความเป็นจริง และสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น

มีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปทำอะไรที่ผิดปกติขึ้นมาในการที่จะรู้ธรรม ต้องเป็นปกติจริงๆ ไม่ใช่ผิดปกติ แม้แต่ในเรื่องของ สมาธิ ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าได้ศึกษาอย่างละเอียดแล้ว จะไม่เข้าใจผิดเลย จะไม่เข้าใจผิดว่าสมาธิเป็นรูปแบบของการปฏิบัติ และถ้าจะพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว ขณะที่บอกว่านั่งสมาธินั้น ไม่ได้-เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกอะไรเลย นอกจากได้ความเมื่อยและได้มีอกุศล (โลภะ และความเห็นผิด เป็นต้น) มากยิ่งขึ้น สำคัญที่ความเข้าใจอย่างถูกต้องจริงๆ เพราะเหตุว่า สมาธิ เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก มีทั้งมิจฉาสมาธิ และสัมมาสมาธิ ซึ่งถ้าไปทำอะไรด้วยความเป็นตัวตนด้วยความจดจ้องต้องการว่าเป็นทางที่จะทำให้หลุดพ้น นั่นล้วนเป็นมิจฉาสมาธิทั้งหมด เป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส พอกพูนสังสารวัฏฏ์ให้ยืดยาวต่อไป ส่วนสมาธิที่เป็นกุศลก็มี เพราะสมาธิ เป็นเจตสิกประการหนึ่งที่เกิดกับจิตทุกประเภท (เอกัคคตาเจตสิก) ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดกับจิตประเภทใด ถ้าเกิดกับอกุศล (ซึ่งมีมากเป็นอย่างยิ่ง) เป็นอกุศลสมาธิหรือเป็นมิจฉาสมาธิ แต่ถ้าเกิดกับกุศลจิตก็เป็นกุศลสมาธิ ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ต้องเริ่มที่การฟัง การศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ ธรรมทุกคำมีค่ามาก ถ้ามีความตั้งใจที่จะฟัง ที่จะศึกษาด้วยความจริงใจแล้ว ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pat_jesty
วันที่ 11 ก.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Nareopak
วันที่ 13 ก.ย. 2554

ก่อนที่ดิฉันจะได้มาฟังธรรมที่มูลนิธิ นั่งสมาธิทุกวันหลังสวดมนต์ก่อนนอน (จนติดเพราะ

โลภะนั่งแล้วรู้สึกสบายใจ ไม่ปวดไม่เมือย) อยู่มาวันหนึ่งขณะที่นั่ง (ไม่ทราบว่านานเท่า

ไหร่) เกิดความสงสัยขึ้นในความคิดว่าเราอยู่ที่ไหน จำไม่ได้จริงๆ ค่อยๆ นึกตอนนั้นเริ่ม

รู้สึกกลัวเหมือนกัน ค่อยๆ นึกย้อนกลับไปเรื่อยๆ เมื่อจำได้แล้วว่านั่งอยู่บนเตียง จึงออก

จากสมาธิ เมื่อได้ฟังธรรมบรรยายจากท่านอาจารย์สุจินต์ทำให้ทราบว่า ที่ว่าสงบนั้น

ต้องสงบจากโลภะ โทสะ โมหะจึงจะเป็นสัมมาสมาธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ