แผ่ส่วนบุญ?
อยากถามว่า...สมมติว่าสัตว์เลี้ยงเราตายจากไปแล้วเราอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้
จนเค้าได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ แล้วเรายังอุทิศบุญให้เค้าเสมอ... เค้าเกิดในภูมิมนุษย์
แล้วอนุโมทนาบุญที่เราทำให้อยู่เสมอไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ เพราะเค้าไม่สามารถทราบ
ถึงบุญที่เราอุทิศให้ หรือว่าอย่างไรครับ ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สำหรับการจะได้รับส่วนบุญที่บุคคลอุทิศให้ สัตว์นั้นจะต้องอยู่ในฐานะที่จะรับได้ครับ
หากสัตว์นั้นไปเกิดเป็นมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก ไม่ใช่อยู่ในฐานะที่จะได้รับส่วน
บุญจากการอุทิศให้ครับ เพราะไม่สามารถล่วงรู้ได้นั่นเองครับ
ส่วนฐานะที่สัตว์นั้นจะสามารถล่วงรู้และอนุโมทนาในบุญกุศลที่บุคคลอุทิศให้ คือ
เปรต เพราะเปรต อาหารของเขา และการจะพ้นจากความเป็นเปรตคือ การอนุโมทนา
บุญของญาติที่ทำบุญอุทิศให้ ส่วนเทวดาก็สามารถล่วงรู้และเกิดกุศลจิต อนุโมทนาใน
บุญที่ผู้อื่นอุทิศให้ได้เช่นกันครับ ดังนั้น การจะได้รับส่วนบุญโดยการอนุโมทนาบุญที่
บุคคลอุทิศให้ ก็ต้องดูภพภูมิทีเกิดด้วยครับ ซึ่งจากผู้ถามกล่าวว่าถ้าเกิดเป็นมนุษย์แล้ว
ก็ไม่สามารถที่จะล่วงรู้และไม่ได้รับส่วนกุศลได้เพราะไม่รู้และไม่อนุโมทนาครับ
ในความเป็นจริงเราไม่รู้หรอกครับว่า สัตว์เลี้ยงที่ตายนั้นจะไปเกิดเป็นมนุษย์หรือเปล่า
ที่สำคัญการอุทิศส่วนกุศล จุดประสงค์ คือ มีความกรุณา มีเมตตา หวังดี กับสัตว์ทั้ง
หลายที่ไม่ใช่เฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เรารัก แต่กับสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในฐานะที่สามารถล่วงรู้
และรับและอนุโมทนาบุญได้ ที่เป็นเปรตและเทวดา ซึ่งในสังสารวัฏฏ์ บุคคลที่ไม่เคย
เกิดเป็นญาติกันไม่มี เคยเกิดมาเป็นญาติกันมาหมดแล้ว ดังนั้นการอุทิศส่วนกุศลให้กับ
ญาติทั้งหลายย่อมเป็นประโยชน์ครับ เพราะย่อมมีญาติทีเกิดเป็นเปรต หากเขาล่วงรู้
และอนุโมทนาก็เป็นประโยชน์กับเขา การอุทิศส่วนกุศลจึงเป็นไปในเรื่องละคลาย
ไม่ใช่เรื่องติดข้องอยู่กับสิ่งที่รัก แต่อุทิศเพื่อประโยชน์กับสัตว์ทั้งหลาย ญาติทั้งหลาย
โดยไม่เจาะจงครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 435
ชาณุสโสณีสูตร
ว่าด้วยการอุทิศทานให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว
พวกข้าพเจ้าได้นามว่าเป็นพราหมณ์ ย่อมให้ทาน ย่อมทำความเชื่อว่า ทานนี้ต้อง
สำเร็จแก่ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้ว ขอญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วจงบริโภค
ทานนี้ท่านโคดมผู้เจริญ ทานนั้นย่อมสำเร็จแก่ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วหรือญาติ
สาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้นย่อมได้บริโภคทานนั้นหรือ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ว่า ดูก่อนพราหมณ์ ทานนั้นย่อมสำเร็จในฐานะแลย่อมไม่สำเร็จในอฐานะ........
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ......มีความ
เห็นชอบ บุคคลนั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกมนุษย์ เขาย่อม
เลี้ยงอัตภาพในมนุษยโลกนั้น ย่อมตั้งอยู่ในมนุษย์นั้นด้วยอาหารของมนุษย์ ดูก่อน
พราหมณ์ แม้ฐานะอันเป็นที่ไม่เข้าไปสำเร็จแห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แลก็เป็นอฐานะ.
ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ฯลฯ มีความเห็นผิด บุคคล
นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงเปรตวิสัย เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพอยู่ในเปรตวิสัย ด้วยอาหาร
ของสัตว์ผู้เกิดในเปรตวิสัย หรือว่ามิตร อำมาตย์ หรือญาติสาโลหิตของเขา ย่อม
เพิ่มให้ซึ่งปัตติทานมัยจากมนุษยโลกนี้ เขาเลี้ยงอัตภาพอยู่ในเปรตวิสัยนั้น ย่อมตั้ง
อยู่ในเปรตวิสัยนั้น ด้วยปัตติทานมัยนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ฐานะอันเป็นที่เข้าไปสำเร็จ
แห่งทานแก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นี้แล เป็นฐานะ.
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น การอุทิศกุศล เป็นการกระทำกุศลอีกประการหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้กระทำกุศลไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล หรือแม้กระทั่งเมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็มีกุศลจิตที่จะอุทิศเพื่อประโยชน์แก่การอนุโมทนาของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่อยู่ในฐานะที่จะรู้ได้ โดยที่ไม่ได้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน มนุษย์ และสัตว์นรก เวลาที่เราทำกุศลแล้วอุทิศส่วนกุศลให้คนอื่น นั้น ไม่ใช่เป็นการที่บุคคลอื่นรับเอากุศลของเราไป ไม่ใช่เป็นแบบในลักษณะของการส่งพัสดุไปรษณีย์ แต่เป็นในลักษณะที่เมื่อผู้อื่นรู้และเกิดกุศลจิตอนุโมทนา ซึ่งเป็นกุศลของบุคคลนั้นเอง จิตที่เกิดขึ้น ชื่นชมยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำนั้น เป็นกุศลจิต จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปกังวลหรือไปคิดว่าเขาจะได้รับหรือไม่ได้รับ สำคัญอยู่ที่ เขาจะรับรู้แล้วอนุโมทนาหรือไม่อนุโมทนา เท่านั้น ถ้าเขาไม่อนุโมทนาก็เป็นเรื่องของเขา คือ ไม่เกิดกุศล แต่ถ้าเป็นปัจจัยให้กุศลจิตของเขาเกิดอนุโมทนาเมื่อใด เมื่อนั้นก็เป็นกุศลของเขา ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ เช่น หลานของท่านอนาถบิณฑิก ทำตุ๊กตาหล่นแตก
เขาเสียใจร้องไห้ไปหาท่านอนาถบิณฑิก ท่านอนาถบิณฑิกก็ปลอบใจว่าอย่าเสียใจเลย
จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ นี้เป็นอุบายของท่านอนาถบิณฑิกที่จะหาทางทำกุศลค่ะ
การอุทิศกุศลเป็นความดี ถึงเขาจะไ่ม่รู้ ไม่ได้อนุโมทนา กุศลนั้นก็เป็นของผู้อุทิศค่ะ