ทำไมวัยรุ่นจึงห่างจากพระศาสนาขึ้นทุกวัน
ทำไมวัยรุ่นจึงห่างจากพระศาสนาขึ้นทุกวันครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระธรรมคือความเห็นถูกไม่สาธารณะกับสัตว์โลกทั้งหมดครับ ผู้ที่สะสมศรัทธาและ
ปัญญามา เมื่อมีเหตุปัจจัยได้ฟังพระธรรมก็สนใจศึกษาพระธรรมเพราะสะสมความเข้าใจ
ถูกมา ส่วนผู้ที่ไมได้สะสมปัญญาและความเห็นถูกมาในพระพุทธศาสนา แม้ได้ยินได้ฟัง
พระธรรม ก็เพียงได้ยิน แต่ไม่สนใจในสิ่งนั้น ดังนั้นสิ่งใดที่ผู้นั้นสะสมความเห็นถูกมา
พระธรรมก็มีค่าสำหรับบุคคลนั้น แต่ผู้ใดไมได้สะสมความเห็นถูกมา สิ่งนั้นก็ไม่มีค่า
สำหรับบุคคลนั้นเลยครับ แต่กับเห็นสิ่งที่ไม่มีค่า ไม่มีสาระ คือ รูป เสียง กลิน รสที่น่า
ปรารถนา น่าพอใจมีค่า เพราะมีค่า สำหรับเขาด้วยอำนาจกิเลสที่ไหลไปและยึดถือใน
สิ่งนั้นว่ามีค่าครับ ดังนั้น วัยรุ่นทั้งหลาย ตอนนี้เป็นวัยรุ่น แต่ชาติก่อนๆ ก็คือ
ผู้ใหญ่ก็ได้ ผู้ใหญ่ที่ไม่สนใจพระธรรมมา ซึ่งในความเป็นจริงก็คือ จิตและเจตสิกที่สะสม
หรือไม่สะสมความเห็นถูกมานั่นเองครับ
ดังนั้นจึงไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น สัตว์โลกที่ไม่ได้สะสมปัญญา ศรัทธาในพระ
พุทธศาสนามีมากมาย ที่ไม่สนใจในพระธรรม แต่ที่สำคัญ การที่วัยรุ่นตอนนี้ไม่สนใจ
ก็ไมไ่ด้หมายความว่า วัยรุ่นบางคน หรือ คนนั้นจะไม่สะสม ศรัทธาปัญญามาครับ เพียง
แต่ว่าเหตุปัจจัยยังไม่พร้อม ที่ยังไม่มีโอกาสได้ฟัง หรือ ฟังแล้วยังคิดไม่ได้ตอนนั้น ต่อ
เมื่อเหตุปัจจัยหร้อม แม้อายุจะมากขึ้นไม่ใช่วัยรุ่นก็กลับมาสนใจพระธรรมได้ เพราะได้
ยินได้ฟัง และปัญญาถึงพร้อมที่จะสนใจตอนนั้นครับ
ธรรมทั้งหลายจึงเป็นไปตามเหตุปัจจัยและอนัตตา ไม่มีสัตว์ บุคคลที่สนใจ มีแต่จิต
เจตสิกทีสะสมปัญญา ศรัทธา หรือ ไม่สะสมปัญญาและศรัทธามาเท่านั้นครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนาครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ไม่จริงหรอกครับ ^ ^
ผมยังวัยรุ่น แล้วก็มีวัยรุ่นอีกหลายคนเลยที่สนใจ แต่บางทีเพื่อนๆ จะชอบแซวดีบ้าง ไม่ดีบ้างครับ เลยไม่จำเป็นต้องบอกใครเท่าไร
ชาตินี้บอกได้เลยว่าดีใจมากที่ได้พบพระพุทธศาสนา ไม่งั้นชีวิตคงต้องเดินทางอีกยาวไกล
ชีวิตนี้ขอถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ
พระพุทธองค์เปรียบเสมือนบิดา มารดาของผมเลยก็ว่าได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระพุทธศาสนา คือ พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนของบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา นั้น ประกอบด้วยเหตุและผล เป็นไปเพื่อการละคลายอกุศล เป็นไปเพื่อการดับกิเลส เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีก บุคคลผู้ที่ไม่มีปัญญา ไม่ได้สะสมเหตุที่ดีมา ไม่เคยได้สะสมการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมมาในอดีต ย่อมไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่มีคุณค่ามากนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัยใด ก็ตาม ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน หรือ วัยชรา ถ้าไม่เห็นคุณค่าของพระธรรม ย่อมได้ชื่อว่า เหินห่างจากพระพุทธ-ศาสนา ด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าจะกล่าวในทางตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นวัยใด ที่เห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรม ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน วัยชรา ย่อมเป็นผู้ไม่เหินห่างจากพระพุทธศาสนา เพราะเหตุว่า ความเข้าใจพระธรรม จะไม่มีวันอันตรธานไปจากใจของผู้ที่ได้ศึกษาและมีความเข้าใจ อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น พระธรรม จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้น แต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่ง สะสมมาไม่เหมือนกัน ผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ จำแนกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ ส่วนที่ไม่ได้ฟังพระธรรม (มีมากเหลือเกิน) และ ส่วนที่ได้ฟังพระธรรม (ซึ่งมีน้อยเป็นอย่างยิ่ง) ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ที่ควรทำสำหรับตนเอง คือ ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ พระธรรมที่ได้ฟัง ที่ได้ศึกษาทั้งหมด เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา และ เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส (ของตนเอง) ทั้งสิ้น สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง คือ ความเข้าใจพระธรรม (ปัญญา) เท่านั้น เรื่องคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น แต่เราควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ด้วยการเป็นคนดี และ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ผมขออนุญาตเรียนสอบถามว่า
มีพระสูตรหนึ่งที่ท่านกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า
ผู้ที่สะสมได้ฟังพระธรรมและบรรลุคุณธรรมในที่สุด มีน้อย เปรียบเสมือน เขาวัว
ส่วนชนที่ไม่ได้สะสมนั้น มีมาก เปรียบเสมือน ขนวัว
มีกล่าวไว้เช่นนี้ด้วยหรือไม่ครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
สำหรับอุปมาเรื่องที่คนบรรลุธรรมีน้อยเหมือนเขาโค คนที่ไม่บรรลุธรรมมีมากเหมือน
ขนโค ไม่มีอุปมานี้ครับ สำหรับอุปมา ขนโค เขาโค เปรียบเทียบระหว่างคนที่ไป
อบายภูมิมีมากเหมือนขนโค แต่คนที่ไปสุคติมีเพียงเขาโค ส่วนอุปมาเรื่องการได้บรรลุ
ธรรม กับผู้ที่ไมไ่ด้บรรลุธรรม พระองค์เปรียบเทียบโดยแสดงว่า ชมพูทวีป มีสถานที่ที่
น่ารื่นรมณ์ที่เป็นสวน สวยงามมีน้อย แต่ ที่ดอน ที่ไม่ดี มีมากมาย เปรียบเหมือยผู้ที่
บรรลุธรรมมีน้อย เหมือนสวนที่น่ารื่นรมย์ มีน้อย ส่วนผู้ที่ไม่บรรลุธรรม ไม่ได่วิมุตติรสมี
มาก เหมือนที่ไม่ดี มีที่ดอนเป็นต้น ในชมพูทวีปมีมากกว่าครับ ขออนุโมทนา
ดังข้อความในพระไตรปิฎก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 206
สัตว์ที่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้อรรถรส
ธรรมรส วิมุตติรส มากกว่าโดยแท้ เปรียบเหมือนในชมพูทวีปนี้ มี
สวนที่น่ารื่นรมย์ มีป่าที่น่ารื่นรมย์ มีภูมิประเทศที่น่ารื่นรมย์ มีสระ
โบกขรณีที่น่ารื่นรมย์ เพียงเล็กน้อย มีที่ดอน ที่ลุ่ม เป็นที่ตั้งแห่งตอ
และหนาม มีภูเขาระเกะระกะเป็นส่วนมาก ฉะนั้น เพราะฉะนั้นแหละ
เธอทั้งหลาย พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ได้อรรถรส ธรรมรส
วิมุตติรส ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล.
ผมก็เป็นวัยรุ่นอีกคนหนึ่งที่สนใจศึกษาพระธรรมครับ สนใจมาตั้งแต่เด็กๆ และมีโอกาส
ได้ฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์เมื่อปีสองปีมานี้เองครับ และผมก็พบว่า ใช่เลย
ครับ ผมเจอที่ศึกษาพระธรรมที่เหมาะสมแล้ว ที่นี่เป็นที่ที่จะช่วยเกื้อกูลปัญญาความเข้า
ใจในธรรมได้อย่างแท้จริงครับ เป็นบุญของผมจริงๆ ที่ทำให้ผมได้เกิดมาพบพระธรรมที่
ถูกต้อง ขออนุโมทนาในกุศลที่ทำให้ทุกท่านได้มาศึกษาพระธรรม ณ ที่นี้นะครับ