การสร้างมนุษย์ โลก และจักรวาล

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ในพระไตรปิฎก แสดงเรื่องการสร้างโลก จักรวาลและมนุษย์ไว้ด้วย เพราะพระพุทธเจ้า

ทรงเป็น โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลกตามความเป็นจริงทั้งหมด ทั้งโลกที่เป็นจักรวาล ที่

เป็นโอกาสโลก พระองค์ก็รู้ทั้งหมด โลกที่เป็นสัตวโลกคือหมู่สัตวทั้งหมดและสังขาร

โลก คือสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ทั้งหมด ที่เกิดขึ้นดับไปตามความเป็นจริงครับ

ซึ่งในส่วนในเรื่องที่เป็นโอกาสโลก ที่เป็นกำเนิดโลกและจักรวาล พระพุทธองค์แสดงไว้

ว่า เมื่อถึงคราวที่กัปพินาศ โลกและจักรวาลก็ถูกทำลายทั้งหมด จาก ลมและไฟ เป็นต้น

และเมื่อจักรวาลถูกทำลายหมดแล้ว ผ่านไปนาน ฝนก็จะค่อยๆ ตกจนน้ำเต็มจักรวาล และ

ก็เวลาผ่านไปนานอีก เทวโลกก็ปรากฎ พรหมโลก็ปรากฎ สัตว์ที่เป็นพรหมมีอยู่เป็นส่วน

มาก และก็ค่อยๆ เริ่มเกิดเพศชาย หญิง วันเวลา เป็นไปตามลำดับครับ นี่กล่าวเพียงย่อๆ ใน

ส่วนการกำเนิดของจักรวาล ซึ่งสามารถหาอ่านได้ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ในหมวดปัญญา ใน

เรื่องปุพเพนิวาสนุสสติญาณ และในพระไตรปิฎกในพระสูตร อัคคัญญสูตรครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

ความหมายของคำว่าโลก [อรหันตสูตร] การกำเนิดโลก และมนุษย์ต้นกัปป์ [อัคคัญญสูตร]

กำเนิดมนุษย์ โลก และจักรวาล ในคัมภีร์พระไตรปิฎก * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ที่สำคัญ การจะเข้าใจความจริงและถึงการดับกิเลสได้ ก็ด้วยปัญญาที่รู้ความจริงในโลก ที่

เราไม่เคยรู้เลย คือ โลกที่เป็นสังขารโลก อันเป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่

ใช่เราครับ โดยเริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจนั่นเองครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเ้จ้าพระองค์นั้น ไม่มีอะไรที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่รู้ พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง และทรงแสดงเพื่อเกื้อกูลให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริงด้วย ตามสมควรแก่อัธยาศัยของสัตว์โลก ซึ่งการที่จะเข้าใจมากนัอยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่การสะสม และความเจริญขึ้นของปัญญาของแต่ละบุคคลจริงๆ สำหรับผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่ว่าจะเป็นในยุคดใดสมัยใดก็ตาม เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อได้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ อันเป็นผลของกุศลกรรม แล้วก็ยังได้สะสมกุศลกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ความเข้าใจถูก เห็นถูกตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาัสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เข้าใจธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเอง ทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แม้แต่ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็ต้องอาศัยเหตุ คือ ฟัง ศึกษาด้วยความอดทน ไม่ขาดการฟังพระธรรม นั่นเอง ธรรมที่จะให้รู้ได้ ก็คือ สิ่งที่มีจริงที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เลย สิ่งสำคัญ คือ ปัญญา ที่เข้าใจธรรมเหล่านี้ ที่เป็นโลกแต่ละอย่างๆ ตามควมเป็นจริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขอขอบพระคุณครับ

ตามที่ท่าน paderm ช่วยกรุณไขข้อสงสัยมานั้นขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง แต่จากคำตอบดู

เหมือนว่าก่อนโลกใบนี้มีโลกอื่นอยู่ก่อนแล้ว (เมื่อจักรวาลถูกทำลายหมดแล้ว ผ่านไป

นาน ฝนก็จะค่อยๆ ตกจนน้ำเต็มจักรวาล และ ก็เวลาผ่านไปนานอีก เทวโลกก็ปรากฎ

พรหมโลก็ปรากฎ สัตว์ที่เป็นพรหมมีอยู่เป็นส่วน มาก และก็ค่อยๆ เริ่มเกิดเพศชาย

หญิง วันเวลา เป็นไปตามลำดับครับ) ถ้าเป็นเช่นนั้น ที่มาของโลกก่อนหน้านั้นมาได้

อย่างไร หรือเกิดตามลักษณะเดียวกันตามที่ท่านกล่าวมา?

คำว่า เทวโลก และพรหมโลกที่ท่านกล่าวมาหมายความว่าอะไรครับ

ขอบพระคุณครับ

เรียนความเห็นที่ 5 ครับ

โลก จักรวาลก่อนๆ ก็มีอยู่แล้วครับ และเมื่อถึงคราวกัปพินาศ อาจจะมีเป็นด้วย ไฟ ลม

หรือน้ำ โลกก่อนหน้านี้ก็ถูกทำลายหมด แล้วก็ค่อยๆ สร้างขึ้นมาใหม่ วนเวียนเป็นวัฏจักร

อย่างนี้ เป็นธรรมดาครับ และเทวโลก็ถูกทำลาย รวมทั้งพรหมบางชั้นก็ถูกทำลายพร้อมๆ

กับจักรวาลทั้งหมดและก็ค่อยๆ สร้างขึ้นมาใหม่ พร้อมๆ กับโลกและจักรวาลใหม่ครับ

ขออนุโมทนา

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ