การระลึกชาติได้เป็นยังไง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นเรื่องจริง ตรง ทำให้ผู้ศึกษาสามารถเข้าใจตามความเป็นจริงได้ เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง ใครจะพูดอะไรด้วยความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือ เชื่อตามๆ กันมา ก็จะตั้งมั่นในความถูกต้อง และยังสามารถอธิบายให้ผู้อื่นได้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ตรงตามพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ด้วย ไม่หวั่นไหวไป ไหลไปตามเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด เป็นผู้ที่ยังมีตัณหา ยังมีอวิชชาอยู่ เมื่อตายแล้ว (คือจุติจิตเกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ในภพนี้ ไม่สามารถกลับมาเป็นบุคคลนี้อีก) ต้องเกิดทันที มีปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น การที่จะเกิดเป็นอะไร ในภพไหน นั้น ขึ้นอยู่กับกรรม กรรมเป็นผู้จัดสรร ถ้าเป็นผลของกรรมดี ก็ทำให้ไปเกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นเทวดา ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนรก สัตว์ดิรัจฉาน เปรต อสุรกาย ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ยังอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ยังพ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ไม่ได้ แล้วก็เป็นอย่างนี้มานานแล้วในสังสารวัฏฏ์ สำหรับประเด็นเรื่องระลึกชาติได้ ตามความเป็นจริงแล้ว ในภูมิมนุษย์ บุคคลผู้อบรมเจริญฌาน ได้อภิญญาก็สามารถที่จะระลึกชาติหนหลังได้ สำหรับในสวรรค์ เทวดา ก็สามารถที่จะระลึกชาติได้ ว่า ชาติก่อนไปทำอะไรมาจึงได้มาเกิดในสรรค์ เพราะการเกิดเป็นเทวดา เกิดผุดขึ้นทันที (โอปปาติกะ) ช่วงระหว่างบุคคลใหม่ กับบุคคลเก่าต่อเนื่องกันทันที เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น จึงสามารถที่จะระลึกได้
ส่วนในอบายภูมิ โดยปกติ ผู้ที่เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานไม่สามารถที่จะระลึกชาติได้ แต่ถ้าเกิดเป็นสัตว์นรก เกิดเป็นเปรตและพวกอสุรกายจำพวกโอปปาติกกำเนิด (เกิดผุดขึ้นเป็นตัวทันที) ก็สามารถที่จะระลึกถึงกรรมในอดีตชาติของตนเองได้ กล่าวคือ จำได้ว่าตนเองกระทำกรรมอะไรมา จึงทำให้ได้เกิดมาเป็นอย่างนี้ เพราะยังมีเหตุที่ทำให้เกิดในภพต่างๆ คือ กิเลส ย่อมมีการเกิดอยู่ร่ำไป เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอย่างไม่มีวันจบสิ้น ชาติก่อนๆ ที่ผ่านมา ก็เป็นอย่างนี้มาแล้ว นับชาติไม่ถ้วน ทุกอย่างผ่านพ้นไปหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือ จึงไม่ควรที่จะไปคำนึงหรือคาดหวังที่จะระลึกถึงชาติที่ผ่านมา ในปัจจุบันชาิตินี้ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถึงแม้ว่า เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ในชาติที่แล้วเราเกิดเป็นใคร แต่ในชาิตินี้ก็ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว เป็นเพราะผลของกุศลกรรม ถึงแม้ว่าจะระลึกชาติไม่ได้ แต่สามารถที่จะเจริญกุศล อบรมเจริญปัญญา สั่งสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเป็นการสร้างเหตุใหม่ที่ดี เพราะเหตุว่าชาตินี้อกุศลก็ยังมีมาก อีกทั้งปัญญาก็ยังไม่ได้เจริญขึ้น ถ้าหากว่าไม่เริ่มในชาตินี้ ขณะนี้ ชาติหน้าต่อไปก็จะเป็นอย่างนี้อีก คือ เป็นผู้มากไปด้วยอกุศล และไม่มีปัญญา
ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เริ่มตั้งตนไว้ชอบในการศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น เพื่อละคลายความไม่รู้ ต่อไป ประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่ระลึกชาติ แต่อยู่ที่การเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิตต่างหาก ด้วยการเป็นคนดี ควบคู่ไปกับการฟังพระธรรม ครับ.
ขอเชิญคลิกอ่านหัวข้อที่เกี่ยวข้องเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ
เพราะเหตุใดจิตที่มีกำลังจึงทำให้ระลึกชาติได้
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...