อินเดีย ... ที่พักใจ 5 เป็นผู้อพยพหนีน้ำ
เป็นผู้อพยพหนีน้ำ
เมื่อวานนี้ที่ ๑๓ ต.ค. ๕๔ ขณะที่กำลังเขียนเรื่อง อินเดีย ... ที่พักใจ ๔ ตอน “ขนของหนีน้ำ” อยู่ ก็ได้รับโทรศัทพ์จากน้องสาวที่อยุธยาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า ให้ดูการแถลงการณ์เรื่องน้ำท่วมทางช่อง ๑๑ เมื่อเปิดดูก็ได้ยินประกาศให้ผู้ในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งเขตสายไหมที่เราอยู่ด้วย ให้เตรียมขนของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ไปจอดตามสถานที่ต่างๆ และผู้ที่อยู่บ้านชั้นเดียว ให้เตรียมอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะประตูน้ำแตก น้ำจะท่วมสูงประมาณ ๑ เมตร ตอนนั้นไม่มีสติอยู่กับตัวเลย ใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น แต่ก็คิดว่า คงไม่ท่วมเดี๋ยวนี้ จึงส่งบทความ “อินเดีย ... ที่พักใจ ๔” ขึ้นกระดานสนทนาก่อน ไม่ได้ให้คนใกล้ตัวอ่านและตรวจทานก่อนเหมือนเคย แต่ตัวเองอ่านแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ก็เลยส่งขึ้นไปเลย ถ้าไม่ดี แสดงว่า เพราะไม่มีคนติชมนั่นเอง
เสร็จแล้วก็ติดต่อสหายธรรมเขตสายไหมให้ทราบเพื่อให้เกิดอกุศลทั่วกัน แล้วก็รีบร้อนเรียกคนมาช่วยขนของส่วนที่เหลือที่คิดว่า ถ้าน้ำท่วมจะไม่เสียดายแล้ว ขนไปจนหมด แม้กระทั่งถังขยะ ผ้าเช็ดเท้า ไม่มีอะไรเหลือเลย จนคนที่จ้างมาช่วยขนบอกว่า อันนี้ไม่ต้องยกก็ได้ เมื่อเห็นว่า ไม่มีอะไรจะเสียหายเพราะน้ำได้แล้ว ก็เตรียมจัดของลงกระเป๋าเพิ่มเติมจากที่เตรียมตัวไว้ก่อนแล้วให้ครบถ้วน รอเวลาคนใกล้ตัวที่ยังไม่กลับจากทำงาน เตรียมอพยไปอยู่ที่สูงพร้อมรถยนต์ คิดว่าจะไปอยู่กับหลานที่อยู่คอนโดชั้น ๗ กลางกรุงเทพ แต่ไม่มีที่จอดรถ หรือจะไปอยู่โรงแรมใกล้ๆ สุวรรณภูมิ เพราะจะได้สะดวกในการเดินทางไปอินเดีย
กำลังลังเลจะไปอยู่ที่ไหนดี ก็มีกัลยาณมิตรที่ร่วมเจริญกุศลช่วยกันทำหนังสือธรรม มานานหลายสิบปี คือ คุณกัณหา อุรัสยะนันทน์ โทรมาถามข่าวคราวและชวนให้ไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งใกล้ๆ สนามบิน และมีที่จอดรถว่างให้จอดอีกด้วย เราจึงตอบรับด้วยความปีติยินดี อนุโมทนาในกุศลจิตของสหายธรรมท่านนี้ จึงอพยพออกจากบ้านในเขตสายไหม มาอยู่ที่เขตพระโขนงก่อนเวลา ๑ วัน ไปอินเดียคราวนี้ซึ่งคิดว่าเหมือนที่พักใจจากอกุศล เมื่อเกิดกุศลที่ได้นมัสการสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งนั้นแล้ว ยังเป็นที่พักกาย เป็นศูนย์อพยพของผู้ถูกน้ำท่วมทั้งกายและใจด้วย คุ้มจริงๆ ที่ได้ไปเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม แต่ต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้นไม่สามารถทราบได้ จะได้รับผลของกุศลหรืออกุศลก็แล้วแต่กรรมที่ทำมา ถ้าทำอกุศลกรรมมาก็ต้องได้รับ จะให้คนอื่นมารับแทนได้อย่างไร แต่ผลของกุศลที่หวังจะได้รับและผลของอกุศลที่วิตกกังวลว่าจะเกิดกับตัวเองนั้นก็เกิดเพียงชั่วขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเท่านั้นเอง แล้วดับไป หมดไป ไม่กลับมาอีกเลยเท่านั้นเอง
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาเดินทางไปอินเดียแล้วค่ะ ขอให้เพื่อนร่วม ว่ายวนอยู่ในกระแสแห่งความวิตกกังวลว่า บ้านเราจะถูกน้ำท่วมเหมือนชาวนครสวรรค์ และ อยุธยาหรือไม่ได้พบที่ที่พึงอันเกษม คือ ได้ฟังพระธรรม ได้พิจารณาและได้เข้าใจ พระธรรมเพื่อให้เป็นเสื้อชูชีพ ช่วยพยุงตัวให้พ้นจากการจมน้ำตาย แต่เสื้อชูชีพนี้ต้อง หาเอง ด้วยการฟังเอง พิจารณาเอง ไม่สามารถมีคนบริจาคให้ได้ นอกจากจะบอกทาง ที่ถูกเท่านั้น
อาจารย์กาญจนา เขียนมาอ่านแล้วมีข้อคิดดีค่ะ แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ ข่าวน้ำท่วมที่ฟังดูน่ากลัว ขอให้อาจารย์และคณะได้กุสลตลอดเวลาค่ะ
อาจารย์และทุกท่าน ขอเล่าเรื่องตนเองบ้างนะคะ อาจเป็นประโยชน์บ้าง เมื่อกลาง พ.ค. 2553 เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายที่สีลม ราชประสงค์ เมื่อเทียบกับน้ำท่วมครั้งนี้ เมื่อพค. 53 เนื่องจากความกังวลต่อความปลออดภัย ดิฉันไม่ออกจากบ้านเลย ระหว่างที่จิตสับสนกังวลดิฉันก็เกิดความคิดว่า ไม่มีปรโยชน์ที่จะไปติดตามสถานการณ์เพราะตลอดเวลา นั้นมีแต่อกุสลเกิด คือทุกข์ กังวล กลัว ดิฉันมีบทลักขณาทิจตุกะ ซึ่งว่าด้วยความหมายขององค์ธรรมในพระอภิธรรมเช่น จิต รูป ปัญญา สติ สมาธิ เป็นภาษามคธ (บาลี) ซึ่งดิฉันมีมาปีกว่าๆ แล้ว แต่หาโอกาสอ่านและท่องไม่ได้ (ดิฉันพยายามจำ จิต 121 เจตสิก 52 ฯลฯ ที่เป็นพระอภิธรรมและตั้งใจว่าจะ จดจำไปเรื่อยๆ เท่าที่มีโอกาสและสมองจะอำนวย)
วันที่ 16-20 พ.ค. 2553 ดิฉันพยายามคัดลอกบทลักขณาทิจตุกะนี้เพื่อการจดจำค่ะ ดิฉันคิดว่า หากเป็นเวลาปกติดิฉันก็คงสำราญกับเพื่อน การงาน ข่าว ละครทีวี แต่พอมีวิกฤติบ้านเมือง หาความสำราญเช่นนั้นไม่ได้ จึงหันมาหาพระรรม นี่ก็แสดงถึงความขาดศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ต้องรอคอยเวลาวิกฤติมา แต่อย่างไรก็ตามดิฉันก็ดีใจที่หาทางออกของจิตที่กังวลออกมาในทางธรรมเช่นที่กล่าวมาค่ะ ที่ยกมานี้เพื่อว่าหากท่านใดจะเห็นว่าเป็นตัวอย่างไปทำได้ หรือจะฟังธรรมบ้านธัมมะแทนก็ดีค่ะ แต่ก็คิดว่าหาก ถูกตัดไฟ ตัดน้ำ แล้วเราจะฟังเทปธรรมไม่ได้ มีโอกาสเดียวคือการท่องบทสวดมนต์หรือ องค์ธรรมต่างๆ ในพระปรมัตถธรรมและทบทวนองค์ธรรมต่างๆ ในยามว่างจะดีไหมคะ
จะได้รับผลของกุศลหรืออกุศลก็แล้วแต่กรรมที่ทำมา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ