พระภิกษุศีลหายไป 15 ข้อ

 
ลุงหมาน
วันที่  26 ต.ค. 2554
หมายเลข  19931
อ่าน  2,976

ขอเรียนถาม อ. ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ ยุคนี้ภิกษุศีลเหลือ 212 ข้อ

เมื่อได้อ่านศีล 227 ข้อแล้ว หากภิกษุใดปฏิบัติตามได้ครบถ้วนหรือได้เป็นส่วนมากเท่าใด ก็แน่นอนว่าจะได้รับความเคารพเลื่อมใสตามสัดส่วนที่ประพฤติปฎิบัติได้นั้น อนึ่ง ที่พูดกันว่าศีล 227 ข้อของพระนั้น มีอยู่ 15 ข้อเป็นเรื่องเกี่ยวกับภิกษุณี ซึ่งปัจจุบันไม่มีการบวชภิกษุณี จึงเป็นศีลที่ไม่ได้ใช้แล้วในปัจจุบัน ดังนั้น ศีลของพระจึงเหลือให้ถือปฏิบัติจริง 212 ข้อ ศีลเกี่ยวกับภิกษุณีได้แก่

นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ข้อ

๔.ใช้ให้ภิกษุณีซักผ้า

๕.รับจีวรจากมือของภิกษุณี

๑๗.ใช้ภิกษุณีที่ไม่ใช้ญาติทำความสะอาดขนเจียม

ปาจิตตีย์ ข้อ

๒๑.ห้ามสอนนางภิกษุณีเมื่อมิได้รับมอบหมาย

๒๒.ห้ามสอนนางภิกษุณีตั้งแต่อาทิตย์ตกแล้ว

๒๓.ห้ามไปสอนนางภิกษุณีถึงที่อยู่

๒๔.ห้ามติเตียนภิกษุอื่นว่าสอนนางภิกษุณีเพราะเห็นแก่ลาภ

๒๕.ห้ามให้จีวรแก่นางภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ

๒๖.ห้ามเย็บจีวรให้นางภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ

๒๗.ห้ามเดินทางไกลร่วมกับนางภิกษุณี

๒๘.ห้ามชวนนางภิกษุณีเดินทางเรือร่วมกัน

๒๙.ห้ามฉันอาหารที่นางภิกษุณีไปแนะให้เขาถวาย

๓๐.ห้ามนั่งในที่ลับสองต่อสองกับภิกษุณี

ปาฏิเทสนียะ ข้อ

๑. ห้ามรับของขบเคี้ยว ของฉันจากมือภิกษุณีมาฉัน

๒. ให้ไล่นางภิกษุณีที่มายุ่งให้เขาถวายอาหาร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 26 ต.ค. 2554

ขอเรียนว่า ศีลหรือสิกขาบทของพระภิกษุในพระศาสนานี้ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือสิกขาบทที่มีในพระปาฏิโมกข์ ๑ สิกขาบทที่มานอกพระปาฏิโมกข์ ๑ สิกขาบทที่มาในพระปาฏิโมกข์ เป็นสิกขาบทที่เป็นหลัก เป็นประธาน และเป็นเบี้องต้นของพระศาสนา พระภิกษุท่านต้องยกขึ้นสวดท่ามกลางสงฆ์ ทุก ๑๕ วัน โดยการนับจำนวนมี ๒๒๗ ในอดีตครั้งพุทธกาลท่านก็สวดจำนวนเท่านี้ ปัจจุบันก็เช่นเดียวกันไม่มีการลดหรือหักลบแต่อย่างใด สำหรับสิกขาบทที่ไม่ได้มาในพระปาฏิโมกข์หรือนอกพระปาฏิโมกข์ ยังมีอีกจำนวนมาก คือ เป็นล้านๆ ข้อครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 ต.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระวินัย เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ล้วนเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ทั้งสิ้น สิกขาบททั้งหมดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งบัญญัติด้วยพระองค์เอง ซึ่งถ้าจะนับพระบัญญัติทั้งหมดแล้วมีมากจริงๆ สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะเป็นประโยชน์จริงๆ คือ ศึกษาแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาต และละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามควบคู่ไปกับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ลุงหมาน
วันที่ 27 ต.ค. 2554

ขอขอบคุณอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน ที่ช่วยชี้แจงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครับ

เห็นตามท่านอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน 100% ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 4 พ.ย. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ