ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศอินเดีย ตุลาคม ๒๕๕๔ ตอนที่ ๑

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  4 พ.ย. 2554
หมายเลข  19967
อ่าน  5,701

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในวาระที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะฯ มีกำหนดการเดินทางไป

นมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดียระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา

ในตอนแรกของกระทู้นี้ ใคร่ขอเล่าเรื่องส่วนตัวสักเล็กน้อยนะครับ

เนื่องจากการเดินทางไปอินเดียต้องใช้เวลาหลายวัน และ ด้วยภารกิจทางครอบครัว

จึงตัดสินใจไม่ไป แต่ในใจก็คิดอยู่เสมอมาว่า ถ้าจะได้ไปจริงๆ ก็จะรู้เองเมื่อเวลานั้นมาถึง

การก็เป็นจริงดังว่า กล่าวคือในราวสองอาทิตย์สุดท้ายก่อนการเดินทางของท่านอาจารย์

มีน้องท่านหนึ่งพูดถึงการเดินทางไปเอง ซึ่งสามารถตามไปพบกับคณะของท่านอาจารย์

ที่สารนาถ พาราณสี และ พุทธคยา ก็ได้ ซึ่งข้าพเจ้าก็แสดงความสนใจ

เมื่อความทราบถึงคุณเผดิม ยี่สมบุญ (น้องเต้ย) ก็มาสอบถามข้าพเจ้า พร้อมกับอาสา

ที่จะเป็นธุระจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักและเรื่องการขอโดยสารรถบัสร่วมกับคณะของคุณเล็ก

(สุรภา) และน้องอ้อ (ปุณจิรา) ซึ่งข้าพเจ้าเองก็คุ้นเคยกันเมื่อครั้งไปอินเดียคราวก่อน

ด้วยเธอมีอัธยาศัยงดงามและเอาใจใส่เพื่อนร่วมคณะอย่างดียิ่ง และ มาทราบก่อนไป

ว่ามีสหายธรรมที่เคารพและคุ้นเคยอีกหลายท่านอยู่ในคณะนี้อีกด้วย

การที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมั่นคงขึ้นในกรรมและผลของกรรมที่ได้เคยกระทำ

มาแต่ปางก่อน เป็นเหตุให้ได้รับผลคือกุศลวิบาก อันเป็นปัจจัยให้ได้สั่งสมกุศลธรรม

เพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งยังเป็นความชื่นชมโสมนัส ในความเจริญขึ้นแห่งกุศลธรรมของทุกๆ ท่าน

ที่มีจิตเมตตาเกื้อกูล ซึ่งข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาคุณเผดิม ซึ่งส่วนตัวก็มีงานมาก

คุณพรชัย (ป๊อบ) ที่ช่วยคุณเต้ยจองเครื่องบิน คุณเล็ก (สุรภา) ที่จนบัดนี้ ข้าพเจ้า

ก็ยังไม่ได้ชำระค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นที่มีแก่เธอ เนื่องจากทราบว่าคุณเล็กยังยุ่ง

กับเรื่องน้ำท่วม ไม่มีเวลาคิดบัญชี น้องอ้อ (ปุณจิรา) ที่ดูแลอย่างดีตลอดการเดินทาง

เป็นที่ทราบกันดีว่า ก่อนการเดินทางทุกๆ ท่านกำลังมีความกังวลกับเหตุการณ์อุทกภัย

ข้าพเจ้าและครอบครัวก็เช่นกัน ได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด และได้เตรียมการป้องกัน

เรื่องน้ำที่อาจท่วมบ้านในขณะที่ไม่อยู่ ไว้ในระดับหนึ่งแล้ว ก่อนวันเดินทางหนึ่งคืน

(ข้าพเจ้าเดินทางวันที่ ๑๙ และกลับวันที่ ๒๕ ตุลาคม) ในเย็นวันที่ ๑๘ เนื่องจากมีข่าว

รวมทั้งสถานการณ์น้ำใกล้บ้าน (ซึ่งบ้านอยู่เขตสายไหมที่เป็นด่านแรกของกรุงเทพฯ)

จึงตัดสินใจออกจากบ้านในตอนค่ำ ไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิในตอนเช้าตรู่

เนื่องจากเกรงว่าถ้าน้ำมาจะเดินทางไปสนามบินไม่ทัน กุศลศรัทธา เป็นเกราะป้องคุ้มภัย

ให้เราเดินทางโดยสวัสดี ถึงสนามบินพาราณสี ราวห้าโมงเย็น โดยคุณเล็กได้เมตตา

ส่งรถแท๊กซี่มารับไปโรงแรมที่พักอย่างสะดวกสบายมาก กราบอนุโมทนาอีกครั้งครับ

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้นี้เป็นอานิสงส์ในธรรมที่ประพฤติดีแล้วผู้ประพฤติธรรม ย่อมไม่ไปทุคติ ดังนี้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์เล่ม ๙ ภาค ๒- หน้าที่ 341

เช้าวันต่อมาได้เดินทางไปพบกับคณะของท่านอาจารย์ ที่เดินทางมากราบสักการะ

พระบรมสารีริกธาตุ ที่สารนาถ เมื่อเข้าไปถึงพี่ๆ เพื่อนๆ สหายธรรม แสดงความดีใจ

ที่ไม่คิดว่าจะได้พบหน้ากันในสถานที่ ณ ดินแดนแห่งความศรัทธาอันยิ่งนี้

ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาในความเมตตาของทุกๆ ท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

จากนั้นใจก็ได้มุ่งแต่จะเข้าไปบันทึกภาพแห่งความปีติที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

ซึ่งกำลังมีการเทินพระธาตุ (พระบรมสารีริกธาตุ) ไว้เหนือเกล้าของทุกท่าน มีคิวยาวเหยียด

ยังไม่ทันได้บันทึกภาพ ก็เหลือบไปเห็นมารดาทางธรรมผู้มีพระคุณล้นเหลือของข้าพเจ้า

คือท่านอาจารย์ ที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านข้าง จึงรีบวางกล้องและทรุดตัวลงกราบที่เท้าท่าน

จนบัดนี้ ยังรู้สึกถึงความเย็นของเท้าของท่าน และความปีติยิ่งในใจได้ไม่ลืมเลือน

เพราะบุญที่ได้เคยกระทำไว้แต่ชาติปางก่อนโดยแท้ ที่เป็นเหตุ เป็นปัจจัย

ให้ชาตินี้ ในอัตภาพความเป็นบุคคลนี้ ของข้าพเจ้า ได้พบกับท่านอาจารย์ หาไม่แล้ว

การมีโอกาสได้รับผลของกุศลกรรมที่ทำให้ได้เกิดมาในสุคติภูมิ คือ ความเป็นมนุษย์

ในชาตินี้ จะไร้ความหมาย หาสาระแก่นสารไม่ได้เลย และจะตายไปกับความไม่รู้

ไม่ได้สะสมความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่อยู่ในกาลสมัยที่พระศาสนา

และคำสอนจากการตรัสรู้ความจริง ของสิ่งที่มีจริงๆ ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ยังดำรงคงอยู่ ยังไม่อันตรธานไป แต่หากไม่พบผู้ที่เข้าใจจริงๆ และ มีเมตตา

ถ่ายทอดความเข้าใจนั้นโดยความซื่อตรง จริงใจ ดังที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ได้เพียรกระทำมากว่า ๕๐ ปี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดเลยจากผู้ที่ได้รับฟัง

นอกจากความเข้าใจพระธรรมจริงๆ ของทุกๆ ท่านเท่านั้น เป็นความมุ่งหวังเดียวของท่าน

ข้าพเจ้าเคยกราบเรียนท่านว่า ก่อนได้พบท่าน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า เป็นผู้ที่แสวงหา

แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ว่า สิ่งที่แสวงหานั้นคืออะไรกันแน่ ท่านเมตตาตอบว่า

" แสวงหาปัญญาค่ะ"

ข้าพเจ้า อยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็ก ตามไปส่งคุณป้าทุกวันพระ เรียนในวัด จบมัธยมปลายที่

โรงเรียนเมธีวุฒิกร จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นโรงเรียนของวัดพระธาตุหริภุญไชย

ที่มีพระและเณร เรียนร่วมกับฆราวาส

ชอบอ่านหนังสือปรัชญา และอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญ เมื่อมาทำงาน ก็ได้ติดตามอ่าน

และฟังสิ่งที่เราเรียกว่าธรรมะ (แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าธรรมะ คืออะไร นึกว่าเข้าใจแล้ว)

จากพระท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก ข้าพเจ้ามีหนังสือของท่านกองท่วมหัว

รวมทั้งของท่านอื่นๆ ด้วย แต่ก็มีความรู้สึกแสวงหาโดยตลอด เหมือนคนทานข้าวไม่อิ่ม

แต่ก็ไม่รู้ว่าอยากทานอะไร ภายหลังท่านมรณภาพ ก็พยายามติดตามฟังท่านอื่นๆ ไปทั่ว

(นี่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้พบกับท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าก็ยังคงคิดว่าข้าพเจ้าเข้าใจพระธรรมดีแล้ว

เมื่อมาศึกษา จึงรู้ว่า เข้าใจผิด เพราะยิ่งศึกษามากขึ้น ยิ่งรู้ว่ายังมีความไม่รู้อีกมากมาย)

จนเช้าวันหนึ่ง ได้ยินเสียงของท่านอาจารย์ จากวิทยุที่ตั้งปลุกในตอนเช้า

สะดุดใจ กับน้ำเสียง สำนวนการบรรยายของท่าน และ คำที่สะดุดหูที่สุด คือคำว่า

"ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล" ซึ่งก่อนหน้าเคยฟังมาว่าไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา

แต่ก็ไม่รู้ว่า เมื่อไม่ใช่เราแล้วเป็นใครกันแน่ เมื่อได้ฟังท่านอาจารย์ ว่าเป็นปรมัตถธรรม

คือ สิ่งที่มีจริงๆ อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และ นิพพาน จึงถึงบางอ้อตั้งแต่นั้นมา

ปัจจุบันจึงเหมือนคนที่กินอิ่ม (คือได้พบหนทางที่ถูกแล้ว) แต่ต้องกินอีก และต้องกินต่อไป

คือหมายความว่า ต้องเป็นสาวกคือผู้ฟังพระธรรม ฟังแล้ว ฟังอีก ฟังๆ ๆ ๆ ๆ และ "เข้าใจ"

ในสิ่งที่ได้ฟัง ด้วยความอดทนและความเพียรที่จะฟัง เพื่อสะสมความเข้าใจถูกคือปัญญา

ทุกชาติๆ อย่างยาวนาน ดังข้าวที่กินไม่เคยเบื่อปานนั้น จนกว่าจะถึงวันนั้นซึ่งอีกแสนไกล

สิ่งที่ปรารถนามีเพียงสิ่งเดียวคือ ขอให้ได้พบกับพระธรรมคำสอนที่ถูกต้องแท้จริงทุกชาติ

เพื่อสะสมความรู้ ความเข้าใจพระธรรม อันจะเป็นสาระ เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง

สำหรับการเดินทางว่ายวนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ยาวนาน หาที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้นี้

เพื่อมีความเพียรในการสะสมเจริญกุศลทุกประการ โดยเฉพาะกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา

ท้าวมฆวานเทพกุญชร ผู้เป็นอธิบดีในสวรรค์ ชั้นไตรทศ

ได้ตรัสคำนี้กะมาตลีเทพสารภีว่า

ดูก่อนมาตลี ท่านจงดูผลแห่งกรรมอันวิจิตรน่าอัศจรรย์นี้

ไทยธรรม (ของที่ให้) ที่เทพธิดานี้กระทำแล้ว

ถึงจะน้อย บุญก็มีผลมากเมื่อจิตเลื่อมใสในพระตถาคตสัมพุทธเจ้าหรือในสาวกของพระองค์ก็ตาม ทักษิณาไม่ชื่อว่าน้อยเลย

มาเถิด มาตลี แม้ชาวเราทั้งหลาย

ก็ควรจะพากันบูชาพระบรมธาตุของพระตถาคต

ให้ยิ่งยวดขึ้นไป เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 383 ปีตวิมาน

จบจากการเทินพระธาตุ ท่านอาจารย์ได้ถวายเสาไม้กั้นทางเดินที่ทางมูลนิธิฯสั่งทำขึ้น

เพื่อบริจาคไว้ใช้กั้นทางเดินเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อยงดงาม ภายในวิหารนี้อย่างดี

(ภาพคุณวรศักดิ์ ก้มลงกราบเท้าท่านอาจารย์)

[๓๖๓] ๑๑๘. ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบุคคล ๒ จำพวกนี้หาได้ยากในโลก๒ จำพวกเป็นไฉน คือบุพพการีบุคคล ๑

กตัญญูกตเวทีบุคคล ๑ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบุคคล ๒ จำพวกนี้แลหาได้ยากในโลกพระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต
เล่ม ๑ ภาค ๒
- หน้าที่ 459

หลังจากนั้น ท่านอาจารย์และคณะฯ ได้เดินทางไปถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์

และ จะเดินทางไปเวียนประทักษิณและสนทนาธรรมที่ธัมเมกขสถูป ในตอนบ่ายครับ

บุคคลผู้ยังใจให้เลื่อมใสให้ทานด้วยโภคทรัพย์ทั้งหลายที่ได้มาโดยชอบธรรมย่อมเป็นผู้ยึดถือชัยชนะไว้ได้ในโลกทั้งสองของผู้มีศรัทธาอยู่ครองเรือน คือเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบันและเพื่อความสุขในสัมปรายภพการบริจาคของคฤหัสถ์ดังกล่าวมานั้น ย่อมเจริญบุญ

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 667 อิณสูตร

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 4 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 4 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณวันชัย ภู่งาม

และกุศลจิตทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 4 พ.ย. 2554

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณวันชัยมา ณ กาลครั้งนี้

และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านที่เกี่ยวข้องด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 4 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
aditap
วันที่ 4 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณวันชัย และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 5 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
napachant
วันที่ 5 พ.ย. 2554
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 19967 ความคิดเห็นที่ 6 โดย paderm

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
napachant
วันที่ 5 พ.ย. 2554

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของคุณวันชัย และของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jans
วันที่ 5 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณวันชัย และ ทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ผิน
วันที่ 5 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ คุณวันชัย ภู่งาม และ ทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
tanakase
วันที่ 6 พ.ย. 2554

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
kanchana.c
วันที่ 6 พ.ย. 2554

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ อนุโมทนาในกุศลวิริยะของน้องวันชัย

ภู่งาม ที่เล่าเรื่องราวสนุก น่าติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนกราบและสัมผัสเท้าเย็นๆ

ของท่านอาจารย์ ทำให้เกิดปีติตามด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
orawan.c
วันที่ 7 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณวันชัย และ ทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 9 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 11 พ.ย. 2554

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺสฺส ฯ (ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น)

----------

ขอกราบนมัสการอย่างสูงสุด แด่พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ

กราบแทบเท้า ท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างยิ่ง

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนา ในกุศลจิตของพี่วันชัยและ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ

----------

.ขณะอย่าได้ล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย.

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
h_peijen
วันที่ 12 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ณัฐวรรณ
วันที่ 13 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน และขอขอบคุณ คุณวันชัย ที่กรุณาช่วยเป็นธุระหายืมปลั๊กแปลงไฟ ให้ได้ใช้ชาร์ตโทรศัพท์ด้วยค่ะ พิมพ์ปวีณ์

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
pat_jesty
วันที่ 13 พ.ย. 2554

ขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
jaturong
วันที่ 16 พ.ย. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ