เรื่องความกตัญญู

 
win@wavf
วันที่  19 พ.ย. 2554
หมายเลข  20054
อ่าน  29,293

หน้าที่ของลูกที่ดี สำนึกในพระคุณของพ่อแม่ ควรปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างไร ถึงจะได้เรียกว่าเป็นลูกกตัญญู


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ความกตัญญู คือ ความเป็นผุ้รู้คุณของผู้อื่นและกระทำตอบแทน ส่วน บุพพการี คือ ผู้ที่อนุเคราะห์ผู้อื่นก่อน มี มารดา บิดา เป็นต้น ซึ่งทั้ง ผู้ที่เป็นบุพพการี และผู้ที่กตัญญู กตเวทีหาได้ยากในโลกครับ

ซึ่งสำหรับหน้าที่ของบุตรที่มีต่อ บิดา มารดา ขอนำพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้

[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 88

[๑๙๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรธิดาพึงบำรุงด้วย สถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจ ของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อ ท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ๑.


ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ บิดา มารดา มีพระคุณกับผู้เป็นบุตรหา ประมาณมิได้ ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก ลำบากมากมาย ผู้เป็นบุตร จึงควรตอบแทน พระคุณท่านเพราะความเป็นผู้รู้คุณ เริ่มจากเดี๋ยวนี้ คือ ดูแลท่าน ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ปลา อาหาร การช่วยเหลืองานบ้านต่างๆ แทนที่ท่านจะทำ ก็ช่วยแบ่งเบาภาระ ตามความ สามารถของตนที่จะมีในเรื่องนั้นครับ

จักรับทำกิจของท่าน สิ่งใดที่เป็นงานของท่าน ทั้งในบ้านและนอกบ้าน คือ การงาน ของท่าน หากเราพอมีความสามารถ แม้เพียงเล็กน้อยก็เป็นผู้ ยินดี อาสาที่จะช่วยท่าน เพื่อแบ่งเบาภาระ ของผู้เป็น บิดา มารดาที่มีภาระมากและได้เลี้ยงดูเรามาครับ ไม่ใช่ว่า จะทำกิจของตนคือเรียนหนังสือ หรือ ทำงานของตนเท่านั้นครับ

จักดำรงวงศ์ตระกูล การดำรงวงศ์ตระกูลของบุตร คือ การประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี รักษาวงศ์ตระกูล เมื่อเป็นคนดี รู้จักสิ่งที่ควรหรือไม่ควร ย่อมรักษา ทรัพย์สิน เงินทอง ของบิดา มารดา ไม่ทำให้ทรัพย์สิน เงินทองของท่านให้พินาศ ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ย สุร่าย เพราะนั่นเป็นทรัพย์สมบัติของท่านที่หามาได้ด้วยแรงกาย แรงใจของท่านครับ การไม่ ตั้งใจเรียน เกเรก็ย่อมชื่อว่าไม่รักษาวงศ์ตระกูล เมื่อรักษาทรัพย์ได้ รู้จักปฏิบัติตนให้ เหมาะสม ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ก็ชื่อว่ารักษาวงศ์ตระกูลได้ ไม่ทำให้วงศ์ตระกูลเสียหาย ทั้งชื่อเสียงและทรัพย์สินครับ แต่ถ้าเราประพฤติปฏิบัติตนไม่ดี ก็ทำลายวงศ์ตระกุล ทั้ง ชื่อเสียง คำว่าร้ายจากคนอื่นที่มีต่อ บิดา มารดาและวงศ์ตระกูลเรา

การรักษาวงศ์ตระกูลที่ประเสริฐสูงสุด คือ ให้บิดา มารดา ออกจากวงศ์คือ อธรรม คือ ความไม่ดี ออกจากอกุศล มีความเห็นผิด ให้ตั้งอยู่ในวงศ์ คือ วงศ์ของธรรม วงศ์ของ ความดี ที่ถูกด้วยการให้ความเข้าใจพระธรรม ชื่อว่าเป็น บุตรที่ดำรงศ์วงศ์ตระกูลไว้ได้ อย่างสูงสุดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ย. 2554

จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก บุตรที่ทำตัวไม่ดี หรือ ไม่กตัญญู บิดามารดา ก็ไม่ชื่อว่าสมควรรับมรดกจาก บิดา มารดา แต่การทำตนเป็นคนดี ตั้งใจ เรียน ไม่เกเรรู้จักใช้จ่าย เป็นต้น ชื่อว่าเป็นผู้สมควรรับมรดกจากมารดา บิดาครับ

เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ผู้เป็นบุตรที่ดี คือ ต้องมีความกตัญญู รู้คุณของท่านไม่ว่าท่านจะมีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว เพราะเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็คือ การทำบุญและอุทิศส่วนกุศลไปให้ครับ เพราะสัตว์ที่จากโลกนี้ไปแล้ว หากอยู่ในฐานะที่เป็นเปรต อาหารของสัตว์เหล่านั้น คือ การอุทิศส่วนกุศลของเหล่าญาติครับ

การศึกษาพระธรรม เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ปัญญาเจริญ เมื่อปัญญาเจริญขึ้นก็ย่อม เป็นผู้รู้สิ่งที่ควร ไม่ควร รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้มีคุณและก็จะปฏิบัติตนให้เหมาะสมตามฐานะของ ตนผู้เป็นบุตร ไม่ว่าจะเป็นคนดี ตั้งใจเรียน เป็นต้นและทำหน้าที่ของบุตรตามที่กล่าวมา ครับขออนุโมทนาที่เป็นผู้รู้คุณและตั้งใจถามในสิ่งทีเหมาะสม คือ ความกตัญญูครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
lovedhamma
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระคุณของมารดาบิดา ที่ท่านได้กระทำต่อบุตรนั้น มีมากมายมหาศาล ยากที่จะพรรณนาให้หมดสิ้นได้ ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัย โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านเป็นผู้พร่ำสอนให้บุตรออกจากความชั่ว แล้วให้ตั้งอยู่ในความดี สอนให้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ พร้อมทั้งให้ศึกษาศิลปวิทยา เพื่อให้บุตรมีความรู้ติดตัวอันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการงานประการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของบุตรดำเนินไปด้วยความไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า เป็นต้น เมื่อมารดาบิดาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อบุตร มากมายมหาศาลอย่างนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บุตรจะต้องมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้ถึงพระคุณที่มารดาบิดากระทำแก่ตนแล้วกระทำตอบแทนท่าน ถ้าหากว่าบุตรคนใดไม่รู้คุณอีกทั้งไม่ทำการตอบแทนพระคุณของมารดาบิดา บุตรนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรอกตัญญู (คนอกตัญญู ย่อมไม่พบหนทางแห่งความเจริญในชีวิต) ส่วนบุตรผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อมารดาบิดานั้น บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้า เป็นต้นสรรเสริญแล้ว ดังนั้น ความกตัญญูกตเวที เป็นคุณธรรมข้อหนึ่งที่ควรจะอบรมเจริญให้มีขึ้น ถึงแม้ว่าบุตรจะยังไม่สามารถกระทำตอบแทนพระคุณมารดาบิดาได้อย่างสูงที่สุด ด้วยการให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธา ศีล จาคะ (การสละ,การให้) และ ปัญญา ก็ตาม แต่การที่ได้รู้ว่า ท่านทั้งสองนั้นเป็นผู้ที่มีพระคุณมากมายมหาศาลแล้ว ทำการเลี้ยงดู ปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลท่านเป็นการตอบแทน กระทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม ช่วยเหลืองานของท่านเท่าที่จะทำได้ ตั้งใจเรียน ตั้งใจเป็นคนดี ย่อมเป็นสิ่งที่บุตรจะพึงกระทำ ทั้งนั้น จนกว่าจะเป็นผู้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา มีความเข้าใจถูกที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ เมื่อนั้นจึงจะเป็นผู้สามารถตอบแทนพระคุณของมารดาบิดาอย่างสูงสุด ด้วยการให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาศีล จาคะ และ ปัญญาได้ ก่อนอื่นที่สุดต้องเริ่มที่ตนเองก่อน จึงจะสามารถเกื้อกูลผู้อื่นให้เข้าใจตามความเป็นจริงได้ในโอกาสต่อไป ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 19 พ.ย. 2554

หน้าที่ของลูกที่ดี ช่วยเหลือการงานที่ท่านทำ เชื่อฟังคำสอนของท่าน ไม่ทำให้ ท่านเสียใจ นอกจากตั้งใจเรียนหนังสือแล้ว ก็ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ ของพี่น้อง และที่สำคัญเป็นคนดีของสังคม และ ถ้าจะให้ดีก็ต้องศึกษาธรรมะด้วย จะทำให้เรา เป็นคนดียิ่งขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ผิน
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
*วรพัชร*
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
win@wavf
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรช่วยแบ่งเบาหน้าที่การงาน การบ้าน และตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
tookta
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ความกตัญญูคือการตอบแทนคุณท่านที่มีบุญคุณกับเรา (เช่นพ่อแม่ หรือ ผู้อื่นที่มีบุญคุณกับเรา)

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Jesse
วันที่ 19 พ.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Komsan
วันที่ 6 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 17 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Jarunee.A
วันที่ 29 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Bunma
วันที่ 26 เม.ย. 2567

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 4 โดย khampan.a

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระคุณของมารดาบิดา ที่ท่านได้กระทำต่อบุตรนั้น มีมากมายมหาศาล ยากที่จะพรรณนาให้หมดสิ้นได้ ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัย โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านเป็นผู้พร่ำสอนให้บุตรออกจากความชั่ว แล้วให้ตั้งอยู่ในความดี สอนให้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ พร้อมทั้งให้ศึกษาศิลปวิทยา เพื่อให้บุตรมีความรู้ติดตัวอันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการงานประการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของบุตรดำเนินไปด้วยความไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า เป็นต้น เมื่อมารดาบิดาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อบุตร มากมายมหาศาลอย่างนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บุตรจะต้องมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้ถึงพระคุณที่มารดาบิดากระทำแก่ตนแล้วกระทำตอบแทนท่าน ถ้าหากว่าบุตรคนใดไม่รู้คุณอีกทั้งไม่ทำการตอบแทนพระคุณของมารดาบิดา บุตรนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรอกตัญญู (คนอกตัญญู ย่อมไม่พบหนทางแห่งความเจริญในชีวิต) ส่วนบุตรผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อมารดาบิดานั้น บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้า เป็นต้นสรรเสริญแล้ว ดังนั้น ความกตัญญูกตเวที เป็นคุณธรรมข้อหนึ่งที่ควรจะอบรมเจริญให้มีขึ้น ถึงแม้ว่าบุตรจะยังไม่สามารถกระทำตอบแทนพระคุณมารดาบิดาได้อย่างสูงที่สุด ด้วยการให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธา ศีล จาคะ (การสละ,การให้) และ ปัญญา ก็ตาม แต่การที่ได้รู้ว่า ท่านทั้งสองนั้นเป็นผู้ที่มีพระคุณมากมายมหาศาลแล้ว ทำการเลี้ยงดู ปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลท่านเป็นการตอบแทน กระทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม ช่วยเหลืองานของท่านเท่าที่จะทำได้ ตั้งใจเรียน ตั้งใจเป็นคนดี ย่อมเป็นสิ่งที่บุตรจะพึงกระทำ ทั้งนั้น จนกว่าจะเป็นผู้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา มีความเข้าใจถูกที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ เมื่อนั้นจึงจะเป็นผู้สามารถตอบแทนพระคุณของมารดาบิดาอย่างสูงสุด ด้วยการให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาศีล จาคะ และ ปัญญาได้ ก่อนอื่นที่สุดต้องเริ่มที่ตนเองก่อน จึงจะสามารถเกื้อกูลผู้อื่นให้เข้าใจตามความเป็นจริงได้ในโอกาสต่อไป ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

อนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ