วันที่รอคอย

 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่  19 พ.ย. 2554
หมายเลข  20058
อ่าน  1,646

ปกิณณกธรรม ตอนที่ ๓๙๙ สนทนาธรรมระหว่างเดินทางไปนมัสการสังเวชณียสถาน ประเทศอินเดีย พ.ศ. ๒๕๓๘

เราก็มีโอกาสได้มาสู่สถานที่ที่พระผู้มีพระภาคประทับมากที่สุดบนยอดเขานะค่ะ เวลาที่ประทับที่เขาเนี่ยค่ะ ท่านจะมาประทับที่เขาคิชฌกูฎนานกว่าที่อื่น ขณะนี้เราก็จะได้บูชาพระผู้มีพระภาคนะค่ะด้วยการระลึกถึงพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา ตามที่เราได้ฟังและก็ได้พิจารณาและพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามเท่าที่จะทำได้

เพราะเหตุว่าวันก่อนนี้นะค่ะเราก็ได้พูดกันถึงเรื่อง วันที่เรารอคอย วันแรกจากที่เรารอคอยการมาสู่ดินแดนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรม และปรินิพพานนะค่ะ และเมื่อเราได้กล่าวถึงว่านอกจากนั้นแล้ว ยังจะมีอะไรอีกที่เรารอคอย ก็มีหลายท่านที่กล่าวว่า รอคอยการที่จะประพฤติปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง แต่รอคอยที่สุดก็คือว่า ในฐานะที่เราได้มีโอกาสเกิดมาและเป็นผู้มีกุศลในปางก่อนทำให้มีโอกาสได้ฟังพระธรรมเนี่ยค่ะ วันที่รอคอยวันหนึ่งคงจะเป็นวันที่เรามีโอกาสที่จะประจักษ์แจ้งสภาพธรรมะตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง

แต่วันที่รอคอยนั้นนะค่ะจะไม่มาถึงโดยเราอยู่เปล่าๆ เฉยๆ อย่างคนที่ประมาท เพราะเหตุว่าทุกอย่างเนี่ยค่ะต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย และการที่รอคอยเนี่ยก็จะแสดงให้เห็นว่า กว่าจะถึงวันนั้น แต่ละขณะก็ผ่านไปอย่างไม่รู้สึกตัวเลยนะค่ะ อย่างในขณะนี้เองที่กำลังนั่งอยู่ที่นี้ ทุกขณะเนี่ยค่ะก็ผ่านไป ผ่านไป แต่ว่าผ่านไปด้วยความประมาทหรือด้วยความไม่ประมาท ถ้าเป็นผู้จะถึงวันที่รอคอย คือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก็จะต้องแต่ละขณะเนี่ยนะค่ะผ่านไปโดยความไม่ประมาท แต่ถ้าผ่านไปอีกทางหนึ่ง เหมือนทางซ้ายกับทางขวา แทนที่เราจะมาทางขวาแล้วเราไปทางซ้าย เราก็จะเป็นผู้ที่ประมาท

แต่ว่าไม่มีใครที่จะฝืนอัธยาศัยของแต่ละบุคคลได้ ทุกคนที่ได้มาที่นี่นะค่ะก็ได้สะสมบุญกรรมต่างๆ กัน เพราะฉะนั้้นสติปัญญาหรือว่ากำลังของศรัทธาย่อมแตกต่างกันไปด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามค่ะ เราก็ทราบว่า ผลที่จะบรรลุได้ต้องทีละขณะ ทีละขณะจริงๆ เพราะฉะนั้น ในขณะใดที่สติปัฎฐานไม่เกิด แต่ว่าวันก่อนนี้เราพูดกันถึงว่า มีเหตุใกล้อะไรที่จะทำให้สติปัฎฐานเกิด เหตุใกล้นั้นมีอย่างเดียวนะค่ะ คือสัญญาความจำที่มั่นคงว่าขณะนี้เป็นสภาพธรรมะ ทุกอย่างไม่มีอะไรเลยที่ไม่ใช่นามธรรมและรูปธรรม นี่เป็นส่ิงที่เรากล่าวถึงนะค่ะ คือเหตุใกล้ แต่นอกจากนั้นยังมีเหตุไกลด้วย แสดงให้เห็นว่าเหตุใกล้ต้องมีความจำที่มั่นคงว่าขณะนี้เป็นธรรมะ ทุกคนระลึกตามได้นะค่ะ ขณะนี้เป็นธรรมะ ที่เห็นเป็นธรรมะ เสียงที่ปรากฎเป็นธรรมะ ทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่ว่าขณะนี้สติยังไม่ระลึกที่สภาพธรรมะ ก็ยังต้องอาศัยเหตุอื่นๆ ซึ่งเป็นเหตุไกล เริ่มด้วยการเป็นผู้ที่กระทำกุศลทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ มิฉะนั้นแล้วบางท่านเนี่ยก็คิดว่าต้องการแต่สติปัฎฐานอย่างเดียว

ที่เคยมีผู้ถามว่า ทำอย่างไรจึงจะมีสติเกิดมากๆ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเมินกุศลอื่นนะค่ะ และก็มุ่งแต่สติปัฎฐาน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ วันที่รอคอยที่จะถึงได้เนี่ยนะค่ะก็หมายความว่า นอกจากจะมีเหตุใกล้ แล้วยังต้องมีเหตุอื่นซึ่งเป็นบารมีด้วย เพราะฉะนั้นกุศลมีถึง ๑๐ ประการนะค่ะ ทาน คือ ทานะ การสละสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่น ก็เป็นกุศลประการหนึ่ง ศีล ... เพราะฉะนั้นก็คือว่าเราเป็นผู้ที่ไม่ประมาท โดยการที่ว่าแม้เพียงว่ากุศลเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเราคิดว่ารอไว้ก่อน แต่รอไว้ก่อนเนี่ยนะค่ะ ขณะหนึ่งก็ผ่านไป ขณะหนึ่งก็ผ่านไป แล้วแต่ละขณะจะต้องไปสู่วันที่รอคอย

เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะว่า ขอให้เราซึ่งอาจจะเป็นผู่้ที่อาจว่ายากนะค่ะ แม้ว่าจะได้ฟังพระธรรมแต่ว่าใจยังไม่น้อมไปที่จะประพฤติปฏิบัติตามในเรื่องของความผูกโกรธก็ดี ในเรื่องของอกุศลอื่นๆ ก็ดี แต่ทีนี้เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วและรู้ว่าหนทางอีกไกล และการที่จะให้สติปัฎฐานเกิดก็ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เพราะฉะนั้นก็ขอให้เจริญกุศลทุกประการซึ่ง เป็นเหตุไกลสำหรับที่จะให้เป็นเหตุใกล้ คือเป็นสัญญาความจำที่มั่นคงในเรื่องของสภาพธรรมะจนสติสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะตามปกติได้

ก็เป็นเรื่องที่เราได้มีโอกาสมากราบนมัสการระลึกถึงพระมหากรุณาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณของพระพุทธองค์ เพราะว่าเราทุกคนเนี่ยค่ะมีโอกาสได้ฟังพระไตรปิฎก และเจริญกุศลเท่าที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้ และต่อจากนี้ไปนะค่ะ ทุกคนก็คงจะระลึกได้ว่า เมื่อเราได้มีโอกาสเดินตามรอยพระบาทที่เสด็จบิณฑบาตร เสด็จมาพักบรรทมที่นี่้ ก็ไม่ใช่เพียงแต่เดินตามรอยพระบาทเปล่าๆ นะค่ะ แต่เดินตามรอยพระบาทด้วยการประพฤติปฏิบัติตาม ด้วยการระลึกได้ว่า เมื่อเราได้มาถึงแล้วนะค่ะเราเป็นผู้ที่มีศรัทธา เป็นผู้ที่มีบุญในอดีต เพราะฉะนั้นก็ขอให้สะสมบุญต่อไปจนกว่าจะถึงแต่ละขณะที่จะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมในวันหนึ่ง

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เซจาน้อย
วันที่ 20 พ.ย. 2554

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pirmsombat
วันที่ 20 พ.ย. 2554

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

อนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 20 พ.ย. 2554

ไพเราะเป็นอย่างยิ่ง เป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ครับ

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tanakase
วันที่ 21 พ.ย. 2554

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 21 พ.ย. 2554

วันที่รอคอยนั้นนะค่ะจะไม่มาถึงโดยเราอยู่เปล่าๆ เฉยๆ อย่างคนที่ประมาท

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pamali
วันที่ 23 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบอนุโมทนาในกุศลของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 6 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ