ทำบุญมาน้อย

 
dadabest
วันที่  2 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20089
อ่าน  1,986

ชาติที่แล้วฉันคงทำบาปไว้เยอะ แถมชาตินี้ยังทำบุญน้อยอีก ถึงได้เจอแต่คนแย่ๆ ๆ ๆ ๆ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แต่ละคนเคยเกิดมาแล้วอย่างยาวนานในสังสารวัฏฏ์ สะสมมาทั้งกุศลกรรม และ อกุศลกรรม ความประพฤติเป็นไปในชีวิตประจำวันก็เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมเลย มีแต่ธรรมเท่านั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ไม่มีตัวตน และการได้รับผลของกรรม ก็หลากหลายแตกต่างกันไป ตามเหตุ คือ กรรม ที่ได้กระทำแล้ว การที่ประสบกับสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจเป็นผลของอกุศลกรรม ใครๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อได้รับสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาแล้ว จะต้องเกิดอกุศลทุกคน ก็ตามการสะสมอีกเหมือนกัน สำหรับผู้ที่มีความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม เข้าใจในความเป็นจริงของสภาพธรรมท่านจะมีความหวั่นไหวน้อยลงตามกำลังของความเข้าใจแล้ว มีความตั้งใจมั่น มีความจริงใจที่จะสะสมกุศล ต่อไป เราเกิดมาในโลกนี้ อยู่ร่วมกันกับบุคคลต่างๆ มากมาย แต่ละคนก็มีอัธยาศัยที่แตกต่างกัน ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เมื่อเห็นผู้อื่นกระทำในสิ่งที่ดี ก็ควรอนุโมทนา ในทางตรงกันข้าม แต่ถ้าใครที่ทำไม่ดี ไม่ควรที่จะไปโกรธเขา เกลียดเขา เพราะขณะที่โกรธ ที่เกลียดเขา เราเองเท่านั้นที่เดือดร้อนด้วยอกุศลธรรม ควรรักษาใจตัวเองด้วยจิตที่เป็นกุศล มีอะไรที่พอจะเกื้อกูลเขาได้ก็เกื้อกูล เป็นมิตรได้กับทุกคนแม้แต่คนที่ (คิดว่า) เป็นคนแย่ๆ สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้นั้น ก็คือ กุศลธรรม ไม่ใช่อย่างอื่น ถ้าคิดว่าชาติที่แล้วตนเองเป็นคนกระทำบาปไว้เยอะ (แท้ที่จริง ไม่ใช่เฉพาะในชาติที่แล้วเท่านั้น มีชาติก่อนหน้านั้นอีกมากมายนับไม่ถ้วน) และในชาตินี้ก็ทำบุญน้อยอีก ก็ควรที่จะเป็นผู้เห็นโทษของอกุศล และเห็นคุณของกุศล พร้อมทั้งเป็นผู้มีความจริงใจตั้งใจที่จะสะสมแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิตประจำวัน ด้วยการเป็นผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ (บุญ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น คนอื่น ก็เป็นเรื่องของคนอื่น หน้าที่ของเรา คือ สะสมความดี และ อบรมเจริญปัญญา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nong
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

คนอื่น ก็เป็นเรื่องของคนอื่น หน้าที่ของเรา คือ สะสมความดี และ อบรมเจริญปัญญา

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์ บุคคลไม่มี มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปที่ปรากฎทางตา หู จมุก ลิ้น กายและใจ คนแย่ๆ จึงมีเพียงแต่ความคิดของตนเองที่เกิดขึ้น พระธรรมที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดง จึงใหเสพคุ้นในกุศลรรม ในกุศลจิตของตนเองและผู้อื่น ส่วนอกุศลธรรม ของตนเองและผู้อื่นไม่ควรเสพคุ้น สิ่งที่ไม่ดีของผู้อื่น ควรเข้าใจครับว่า ตราบใดที่ยัง เป็นปุถุชนเหมือนกัน ก็ย่อมมีอกุศลเป็นธรรมดา ควรจจะเมตตาและเห็นใจคนที่ไม่ดี เพราะน่าสงสารที่บุคคลนั้นกระทำสิ่งที่ไม่ดีทางกาย วาจา และการพบสิ่งใด พระธรรม แสดงไว้ว่า ไม่สามาารถเลือกได้ เพราะทำเหตุที่ไม่ดีเอาไว้ ดังนั้น แทนที่จะตัดพ้อ ควรจะกระทำกุศลและอบรมปัญญา เพื่อเป็นเหตุใหม่ให้เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงพบคนไม่มี หนักกว่าเรา มี พระเทวทัต เป็นต้น จะกล่าวว่า พระองค์ทำบุญน้อยเลยพบคนไม่ดีก็ไม่ได้ครับ แต่พระองค์ต่างจากเราคือ พระพุทธเจ้า มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา อยู่ด้วยความเข้าใจในสิ่งที่เห็น ได้ยิน อันสมมติว่าเป็นคนไม่ดี และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะไม่พบคนไม่ดี แม้พระพุทธเจ้า แต่พระองค์เข้าใจ มี ปัญญา จึงสามารถอยู่ร่วมและประพฤติเหมาะสม สมควรกับคนที่ไม่ดี ด้วยความเมตตา อนุเคราะห์ แต่ไม่เสพคุ้นนั่นเองครับ ดังนั้น ประโยชน์ คือ สะสมปัญญา เพื่อความ เจริญขึ้นในความเห็นถูก การดำเนินชีวิตกับบุุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนดี ไม่ดี หรือ อย่างไรก็จะเป็นไปตามความเหมาะสมและด้วยกุศลธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
นันทภพ
วันที่ 2 ธ.ค. 2554
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 20089 โดย dadabest

ชาติที่แล้วฉันคงทำบาปไว้เยอะ แถมชาตินี้ยังทำบุญน้อยอิก

ถึงได้เจอแต่คนแย่ๆ ๆ ๆ ๆ

ขอ อนุโมทนา ครับ,

ขอ อนุญาต แสดง ความคิดเห็น ครับ, นี้ เป็น ความคิด เมื่อ ความคิด เกิด ก็ รู้, รู้ ความ

คิด แล้ว หากว่า รู้ สภาวะ จิตใจ เจ้าของ เห็น ดีใจ เสียใจ และ เห็น ความเกิดขึ้น แปร

ไป ดับไป หายไป ของ ดีใจ เสียใจ ที่ ใจ เจ้าของ, มัน ก็ จบ, ไม่มีอะไร, ทุกเรื่อง ใน

โลก เกิดขึ้น แปรไป ดับไป หายไป และ ไม่สามารถบังคับบัญชาได้, ไม่ใช่เราของเรา,

มัน เป็น เช่นนั้นเอง,หากว่า รู้ แล้ว ก็ ให้ เพียร ละบาป บำเพ็ญบุญ และ ทำจิตใจ ให้

สะอาดหมดจด,ทำหน้าที่ ให้ ถูกต้อง ตาม อริยมรรค มี องค์ ๘ ย่อม มี "นิพพาน" เป็น ที่

สุด ครับ, ศึกษา ดู นะ ครับ.

ขอ สรรพสัตว์ ทั่วจักรวาล เป็นสุขๆ เถิด อย่ามี ทุกข์กายทุกข์ใจเลย,

สวัสดี ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนหนาไปด้วยกิเลส กายวาจาใจมีโอกาสที่จะเป็นไปในทางอกุศลได้มาก.สามารถกระทบต่อตนเองและผู้อื่น เป็นธรรมดา ท่านอ.สุจินต์เคยกล่าวว่าควรรู้กุศลคนอื่นเพื่ออนุโมทนา รู้อกุศลตัวเองเพื่อขัดเกลา ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
หลานตาจอน
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ที่แล้วก็แล้วไป แก้ไขไม่ได้ แต่่เริ่มสะสมเหตุที่ดีใหม่ได้ อย่างน้อยชาตินี้เราได้เกิด มาเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศล มีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ก็นับว่า เป็นผู้ที่มีบุญมากแล้วค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
รวงข้าวท้องแก่
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jaturong
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เซจาน้อย
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ควรเพ่งโทษคนอื่นควรเพ่งโทษ (อกุศล) ของตนเอง

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pat_jesty
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 6 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ