กิเลสมีมาก

 
pirmsombat
วันที่  2 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20095
อ่าน  1,179

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

กิเลสมีมาก และกว่ากิเลสแต่ละประเภทจะดับได้ ต้องเป็นปัญญาจริงๆ ถ้าปัญญาไม่เกิดไม่มีทาง คนนั้นอาจจะเข้าใจว่า กิเลสน้อยลงไปตั้งเยอะ ไม่มีทางเลยค่ะ อนุสัยกิเลสอยู่เต็ม ตราบใดที่ไม่รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ตามปกติในชีวิตประจำวัน จะดับกิเลสอะไรไม่ได้เลย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 2 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pirmsombat
วันที่ 3 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณผู้ร่วมเดินทาง

คุณเผดิม คุณคำปั่น และ ทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 3 ธ.ค. 2554

...ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย...

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 3 ธ.ค. 2554

เป็นข้อความที่เตือนให้ไม่ขาดการฟังและศึกษาพระธรรมได้ดีค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วิริยะ
วันที่ 4 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 4 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กิเลสมีมาก หากกิเลสเป็นสิ่งที่จับต้องได้ก็ไม่มีที่พอให้เก็บกิเลส ซึ่งกิเลสก็มีหลาย ระดับ ทั้งกิเลสที่เป็นกิเลสที่มีกำลังที่แสดงออกมาทางกาย วาจา กิเลสที่กลุ้มรุมจิตใจ ไม่ได้แสดงออกมาทางกายและวาจา และกิเลสที่นอนเนื่อง เป็นอนุสัยกิเลส อันเป็น พืชเชื้อให้กิเลสที่กลุ้มรุมจิตใจ และที่แสดงออกมาทางกาย และวาจามีได้ครับ ดังนั้น กิเลสเป็นอนุสัยจะละได้ ก็ด้วยปัญญา แต่ต้องเป็นปัญญาระดับสูงที่เป็น มรรคปัญญา ซึ่งก็ต้องไม่เข้าใจผิด สำคัญว่าการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมทำให้ กิเลสประการต่างๆ เบาลงไปมาก เพราะตราบใดที่ยังไม่ได้ละกิเลสที่เป็นอนุสัยกิเลส แล้ว เมื่อเหตุปัจจัยหร้อม กิเลสก็สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างมีกำลังครับ ดังนั้นปัญญา เพียงขั้นการฟังขั้นเข้าใจทำอะไรกิเลสไม่ได้ แต่เป็นเบื้องต้นพื้นฐาน ที่จะนำไปสู่การ ดับกิเลสได้ครับ ความเข้าใจพระธรรมจากการศึกษา ฟังพระธรรมไปทีละน้อย โดย เริ่มจาความเข้าใจถูกเป็นอุปการะมาก แม้จะยังดับกิเลสไม่ได้ แต่จะค่อยๆ ถึงวันนั้น วันที่ดับกิเลส เมื่อปัญญาคมกล้า โดยเริ่มสะสมความเข้าใจพระธรรมเบื้องต้นไปครับ หากแต่ว่า ไม่สำคัญผิดว่า กิเลสละไปมาก เพราะแม้คิดว่า มีกิเลสมาก กิเลสมีมาก กว่าที่คิดไว้เยอะ เพราะจะเห็นกิเลสได้ด้วยปัญญาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 4 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กิเลสเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต กิเลส มีหลายระดับขั้น มีทั้งขั้นหยาบ ขั้นกลางและขั้นละเอียด จะเห็นได้ว่า กิเลสที่ปรากฏให้รู้ได้ในชีวิตประจำวัน ก็เป็นกิเลสขั้นกลาง กับ ขั้นหยาบและ ที่รู้ว่ายังมีกิเลสขั้นละเอียดอยู่ ก็เพราะมีกิเลสขั้นกลาง คือ ขณะที่เกิดขึ้นกลุ้มรุมจิต และกิเลสขั้นหยาบ คือ ล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรมทางกาย ทางวาจานั่นเอง, เพราะยังมีกิเลสขั้นละเอียด จึงเป็นเหตุให้มีกิเลสขั้นกลาง และกิเลสขั้นหยาบ, กิเลสขั้นละเอียดจะหมดไปได้นั้นเมื่อมีการอบรมเจริญปัญญา รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมทั้งหลายที่ปรากฏตาม ความเป็นจริงของธรรมนั้นๆ เมื่อปัญญารู้แจ้งอริยสัจจธรรม กิเลสขั้นละเอียดก็จะ หมดสิ้นไปเป็นประเภทและหมดไปตามลำดับมรรคด้วย พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง หยั่งลงลึกถึงกิเลสที่ละเอียด คือ อนุสัยกิเลส ซึ่งไม่มีในคำสอนอื่น มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น พระอริยบุคลทุกขั้นดับอนุสัยกิเลสได้ตามลำดับ สูงสุด คือ พระอรหันต์ พระอรหันต์เท่านั้น ที่เป็นผู้ไม่มีอนุสัยกิเลสใดๆ ทั้งสิ้น กว่าจะดำเนินไปถึงการดับอนุสัยกิเลสได้นั้น ต้องเริ่มที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่ขาดการฟังพระธรรม และจะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nong
วันที่ 5 ธ.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 6 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ