อรูปพรหมเป็นพรหมที่ไม่มีรูปมีพระผู้ใหญ่อธิบายแย้ง

 
natre
วันที่  7 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20110
อ่าน  2,096

ท่านอธิบายว่าอรูปพรหมที่แปลว่าเป็นพรหมที่มีแต่นามไม่มีรูปท่านบอกว่า "ที่จริง แล้วอรูปพรหมก็ยังมีรูปอยู่ โดยท่ายยก วิญญาณเป็นปัจจัยนาม รูป"จากปฏิจจสมุปปาท ธรรมมาอ้าง ซึ่งมันมาขัดกับที่ผมเข้าใจว่าอรูปพรหมเป็นพรหมที่มีแต่นามธรรมเกิด-ดับ ตามเหตุปัจจัยโดยไม่มีรูปธรรม (วัตถุ ทวาร) เป็นปัจจัยเกิดเลย กราบเรียนท่านผู้รู้กรุณา อธิบายสัจจะธรรมในแง่มุมนี้ด้วย ครับ

กราบขอบคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อรูปพรหม คือ บุคคลที่อบรมสมถภาวนา จนถึงได้ฌานที่ 5 ขึ้นไป และเมื่อฌานไม่ เสื่อมก็ไปเกิดในอรูปพหรมภูมิ เป็นอรูปพรหมบุคคล ซึ่งไม่มีรูปเลย มีแต่นามเท่านั้นครับ คือ มีแต่ จิตและเจตสิกเท่านั้นที่เกิดขึ้นครับ ซึ่งสำหรับ ปฏิจจสมุปบาท ความเป็นเหตุ ปัจจัยซึ่งกันและกันของสภาพธรรม ในองค์ที่ว่า วิญญาณ เป็นปัจจัยแก่นาม รูป

วิญญาณ คือ ปฏิสนธิจิต คือ จิตขณะแรกที่ทำหน้าที่ปฏิสนธิ คือ เกิดนั่นเอง สำหรับ ในภพูมิที่มีขันธ์ 5 เมื่อปฏิสนธิจิต เกิด ก็นำมาซึ่ง นาม และ รูป คือ นำมาซึ่ง เจตสิกที่ เกิดขึ้นร่วมด้วย และรูปที่เกิดจากกรรม มี หทัยรูป เป็นต้น เช่น เกิดเป็นมนุษย์ ขณะที่ ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ก็มีนามอื่นๆ เกิดร่วมด้วย เช่น เจตสิกประเภทต่างๆ และมีรูปเกิดขึ้น ที่เป็นรูปที่เกิดจากกรรม จึงกล่าวได้ว่า วิญญาณ (ปฏิสนธิจิต) เป็นปัจจัยให้เกิดนาม รูป คือ เจตสิก (นาม) และรูปที่เกิดจากกรรม เป็นต้น

แต่สำหรับภพภูมิอื่นๆ เช่น ภพภูมิที่มี ขันธ์ 4 ไม่ใช่ขันธ์ 5 คือ ไม่มีรูป มีแต่นาม คือ ที่เป็นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ แต่ไม่มีรูปขันธ์ เรียกว่าภพภูมิที่ มีขันธ์ 4 ขันธ์ นั่นก็คือ อรูปพรหมภูมินั่นเองครับ คือ มีแต่นามธรรมที่เป็น จิต เจตสิก แต่ ไม่มีรูป

ซึ่งตราบใดที่ยังมีการเกิด ก็ย่อมไม่พ้นจากความเป็นไปของ ปฏิจจสมุปบาท ความเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกันของสภาพธรรม แม้ อรูปพรหม จะไม่มีรูป แต่ก็ไม่พ้น ในองค์ของปฏิจจสมุปบาทที่ว่า วิญญาณ เป็นปัจจัยแก่นาม รูป

เพราะ มีวิญญาณ คือ ปฏิสนธิจิตที่เป็นอรูปาวจรวิบาก 4 ดวง ดวงใดดวงหนึ่ง ทำกิจปฏสนธิ คือ เกิดนั่นเอง แต่ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป แต่เป็นปัจจัยให้เกิดนาม คือ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยครับ ดังนั้น แม้จะไม่ได้มีการเกิดขึ้นของรูปแต่ก็ไม่พ้นจาก วิญญาณเป็นปัจจัยแก่นาม รูป

ดังนั้นทุก วิญญาณจหรือทุกปฏิสนธิจิตทุกดวง จะต้องเกิดนามและรูปเสมอ อันนี้ไม่ถูกต้องครับ เพราะปฏิสนธิจิตบางดวง เป็นปัจจัยแก่การเกิดของนามเท่านั้น และปฏิสนธิจิต บางดวง เป็นปัจจัยให้เกิดแต่รูปเท่านั้น แต่ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดนาม เช่น อสัญญสัตตาพรหม

ดังนั้น ไม่ว่าปฏิสนธิจิตดวงใดก็ตาม เป็นปัจจัยให้เกิดนามเท่านั้น หรือ เป็นปัจจัยให้เกิด รูปเท่านั้น ชื่อว่า ไม่พ้นจากองค์ปฏิจจสมุปบาท คือ วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิด นาม รูป แต่เราต้องเข้าใจว่าวิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิดนาม รูป มีหลายนัย ทั้งที่เกิดนาม อย่างเดียว ก็ชื่อว่า วิญญาณเป็นปัจจััยให้เกิด และ วิญญาณ (ปฏิสนธิจิต) เป็นปัจจัยให้ เกิดรูป อย่างเดียว ก็ไม่พ้นจากปฏิจจสมุปบาท คือ องค์นี้ครับ ดังนั้นจะกล่าวโดยสรุป ว่า เพราะ วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป จึงสรุปว่า อรูปพรหมภูมิจะต้องมีทั้งรูปและ นาม ไม่ถูกต้องครับ เพราะพระธรรมมีความละเอียดและหลากนัย ตามที่กล่าวมาครับ

อรูปพรหมจึงมีแต่นามเท่านั้น ไม่มีรูป แต่ก็ไม่พ้นจากความเป็นปัจจัย คือ วิญญาณ เป็นปัจจัยแก่นาม รูปครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วิริยะ
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
jaturong
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเกิดเป็นอรูปพรหมบุคคล เป็นผลของการอบรมเจริญความสงบของจิตจนถึงขั้นอรูปฌาน เมื่อฌานไม่เสื่อมก็ทำให้ไปเกิดในภูมิที่ไม่มีรูปเลย มีแต่นามธรรมเท่านั้น ได้ ในภูมิที่ไม่มีรูป มีแต่นามธรรมนั้น จิตและเจตสิก อาศัยกันและกันเกิดขึ้น ซึ่งจะแตกต่างไปจากในภูมิที่มีขันธ์ ๕ คือ มีจิต (วิญญาณขันธ์) เจตสิก (เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์) และ รูป (รูปขันธ์) จิตและเจตสิกจะต้องเกิดที่วัตถุรูป ตามสมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เมื่อจิตอาศัยวัตถุรูปใด เป็นที่เกิด เจตสิกก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต นั้น ด้วย เช่น จักขุวิญญาณ เกิดที่จักขุวัตถุ เจตสิก ๗ ประเภทที่เกิดร่วมกับจักขุวิญญาณ ก็เกิดที่จักขุวัตถุด้วย เป็นต้น แต่ถ้าเป็นในอรูปพรหมภูมิแล้ว ตั้งแต่จิตขณะแรก คือ ปฏิสนธิจิต เป็นต้นมา ก็อาศัยเจตสิกเกิดขึ้น เจตสิกก็อาศัยจิต เกิดขึ้น

การเกิดเป็นอรูปพรหม มีอายุที่ยืนยาวนานมาก ถ้าไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ แล้ว ก็ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในอรูปพรหมภูมิได้เลย เป็นผู้แม้พระพุทธเจ้าหลายร้อยพระองค์ พันพระองค์ไม่สามารถโปรดได้ ถึงแม้จะเกิดในอรูปพรหมภูมิ ก็ยังเป็นไปในสังสารวัฏฏ์ ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ ยังมีสภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอย่างไม่ขาดสายเลย ซึ่งก็คือ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ

อรูปพรหมภูมิ

อรูปพรหมภูมิ

เรื่องดาบสที่เป็นอาจารย์ที่ละสังขารไปก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pat_jesty
วันที่ 7 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 6 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ