ความคิดที่รังเกียจอกุศลธรรม [สัมพหุลภิกขุสูตร]
ความคิดที่รังเกียจอกุศลธรรม
ฟังเรื่องอกุศล ไม่ใช่เรื่องที่คิดรังเกียจ แต่เป็นความสามารถเข้าใจธรรม ว่าอกุศลก็เป็นธรรม ขณะที่อกุศลเกิด ลักษณะของอกุศลนั้นๆ ปรากฏให้เห็นโดยความเป็นอนัตตา ที่ใครบังคับ บัญชาไม่ได้ แต่เป็นปัญญาที่เห็นถูกว่าเป็นธรรม ขณะนั้นละความเป็นเรา เพราะเห็นถูกว่าเป็น ธรรม เป็นการสะสมของสังขารขันธ์ปรุงแต่ง ซึ่งขณะนี้ทำกิจนั้นๆ อยู่ ไม่มีเรา หรือใครทำ เพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจนั้นๆ
แม้แต่ความอยากรู้ว่าอกุศลเป็นธรรมอย่างไร ก็เป็นเพียงความสงสัยในสภาพธรรม ซึ่งก็เป็นธรรม ขณะที่ฟังเข้าใจเป็นกุศล ขณะที่คิดโน่นคิดนี่ทั้งหมดก็เป็นอกุศล ซึ่งห้ามคิดไม่ให้เกิดขึ้นก็ไม่ได้
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากสัมพหุลภิกขุ สูตร..ข้อความเตือนสติเรื่องสัมพหุลภิกขุสูตร
แต่ในพระสูตรหลายเรื่อง ท่านกล่าวอกุศลธรรม อันได้แก่กิเลสต่างๆ ว่าน่ารังเกียจ ดังนี้ เราควรพิจารณาอย่างไรจึงจะถูกต้องครับขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 1 ครับ
การรังเกียจ ในทางธรรมแล้ว การรังเกียจ มิใช่การรังเกียจด้วยอกุศลจิต คือ ความไม่ชอบ แต่ต้องเป็นการรังเกียจ ด้วยความเห็นโทษของกิเลส ด้วยปัญญา จึงชื่อว่า การรังเกียจอกุศลครับ ดังนั้นผู้มีปัญญา เมื่อรู้ความจริงของสภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ อกุศลเป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี มีโทษ นำมาซึ่งทุกข์ จึงรังเกียจอกุศลด้วยปัญญา คือ งดเว้นบาปอกุศลนั้นด้วยปัญญา ขณะนั้น ชื่อว่า รังเกียจอกุศลแล้ว ขณะที่ปัญญาเกิดนั่่นเองครับ ดังนั้น ขณะที่สติและปัญญาเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงในสภาพธรรมที่เป็นอกุศล ขณะนั้น อกุศลไม่เกิด ปัญญาเกิด กุศลธรรม ชื่อว่า รังเกียจอกุศลแล้วในขณะนั้นครับ เพราะปัญญาทำหน้าที่รังเกียจ คือ เห็นโทษของกิเลส และรู้จักตัวจริงของกิเลสครับ ซึ่งโดยนัยที่ไม่ให้รังเกียจอกุศล คือ ไม่ให้รังเกียจอกุศลด้วยอกุศลจิตครับ
ขออนุโมทนา