เป็นชู้ไม่รู้ตัวมันบาปไหม?
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่บอก รู้ไม่รู้ ไม่สำคัญครับ สำคัญที่ หากหญิงนั้นมีเจ้าของแล้ว ไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ผิดศีลข้อสาม เป็นบาปครับ แต่หากหญิงนั้นไม่มีเจ้าของ ไม่สามี ไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ไม่ว่าชายนั้นจะมีเจ้าของ หรือไม่มีเจ้าของ ไม่ผิดศีลข้อสามครับ แต่เมื่อรู้แล้วว่าบุคคลนั้นมีเจ้าของ ก็ไม่ควรมีความสัมพันธ์อย่างนั้นอีกครับ แม้จะไม่ผิดศีลก็ตามครับ เพียงแต่จะเห็นโทษของกิเลสหรือไม่ เมื่อรู้แล้วครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ศีลข้อที่ ๓ คือ การงดเว้นจากการประพฤติในกามนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมากต้องอาศัยการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเท่านั้นถึงจะเข้าใจได้ เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ฝ่ายชายจะผิดศีลข้อนี้ ก็ต่อเมื่อ อยู่ร่วมกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเอง ส่วนฝ่ายหญิงจะผิดศีลข้อนี้ ก็ต่อเมื่อตนเองมีคู่หมั้นหรือมีสามีแล้ว ไปอยู่ร่วมกับชายอื่นที่ไม่ใช่สามีของตน แต่ถ้าตนเองยังไม่มีคู่หมั้น ยังไม่มีสามี แล้วไปอยู่ร่วมกับชายอื่น (ชายคนนั้น จะมีภรรยาแล้วหรือยังไม่มีภรรยาก็ตาม จะมีภรรยาแล้วแต่ไม่บอกเรา ก็ตาม จะมีภรรยาแล้ว แต่เราไม่รู้ ก็ตาม) ฝ่ายชายเท่านั้นที่ผิดศีล ส่วนฝ่ายหญิง ไม่ผิดศีล เพราะตนเองยังไม่มีสามี ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว ศีลข้อ ๓ นี้ ฝ่ายชายมีโอกาสผิดได้ง่ายกว่าฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงก็มีโอกาสล่วงได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ประมาทกิเลสไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้น การกระทำอะไรก็ตาม ถ้าได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ก็จะไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อนใจในภายหลัง ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ผู้ชายถ้าไปก้าวล่วงหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตนผิดศีลข้อ ๓ คำว่า "สามี" เป็นภาษาบาลี แปลว่า เจ้าของหรือเป็นใหญ่ คำว่า "ภริยา" เป็นภาษาบาลี "ภรรยา" เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่าผู้อันสามีพึงเลี้ยงดู ดังนั้น ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายแล้ว ... ผู้ชายเป็นเจ้าของผู้หญิง แต่ผู้หญิงไม่ใช่เจ้าของผู้ชายครับ
ขออนุโมทนาครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาครับ เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ