การโคลนนิ่งสัตว์

 
เซจาน้อย
วันที่  16 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20183
อ่าน  6,340

สัตว์ทุกตัวแม้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันหมด แต่ทุกตัวก็มีจิตที่ปฏิสนธิคนละดวง ตามแต่กรรมของสัตว์แต่ละตัว

ขอรบกวนท่านผู้มีปัญญาช่วยอธิบายให้ความกระจ่างแจ้งแก่ผู้สนใจในการศึกษาพระธรรม (นักศึกษา นักเรียน) เพื่อความเข้าใจยิ่งๆ ขึ้นครับ

ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตวิริยะของ อ.ผเดิม, อ.คำปั่น ด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การโคลนนิ่ง (cloning) คือ การคัดลอก (copy) พันธุ์หรือการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้อาศัยการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย แต่ใช้เซลล์ร่างกายในการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนของเดิมทุกประการ อย่างการทำโคลนนิ่งในสัตว์ เช่น ในโค ก็เอาเซลล์ของตัวผู้ที่แข็งแรง และดูดไข่จากรังไข่ของเพศเมียและนำเซลล์ที่ได้มาฉีดให้ใกล้กับไข่ และก็เลี้ยงด้วยสารเคมี จนมีการแบ่งตัว นำไข่ไปเลี้ยงในสารเคมีสำหรับเพาะตัวอ่อนในหลอดแก้ว ซึ่งเซลล์ก็มีการแบ่งตัวเกิดขึ้นของเซลล์ หลังเลี้ยงเซลล์ตัวอ่อนได้ ๗ วันก็นำไปปลูกถ่าย ฝากไว้ในมดลูกของโคตัวเมียเพื่อให้เจริญเติบโตต่อไปนั่นเองครับ นี่คือการทำโคลนนิ่ง

ซึ่งจากคำถามที่ผู้ถาม แสดงถึงว่า สัตว์ที่ทำโคลนนิ่ง มีหน้าตาเหมือนกัน แต่มีปฏิสนธิคนละดวง ซึ่งในความเป็นจริงของสภาพธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดมากๆ ครับ โดยเฉพาะการเกิดที่เป็นปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิตคือผลของกรรมที่ทำหน้าที่เกิด ซึ่งปฏิสนธิจิต คือการเกิดจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีกรรม คือเจตนาในการทำกุศลหรืออกุศล เมื่อกรรมคือเจตนาที่เป็นไปในกุศลหรืออกุศลให้ผล ก็ทำให้เกิดปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ซึ่งการเกิดขึ้นของปฏิสนธิจิต ก็นำมาซึ่งนามและรูป คือจิต เจตสิกและรูป นำมาซึ่งรูปร่างกายต่างๆ ด้วยครับ

ในความละเอียดของปฏิสนธิจิต ที่นำมาซึ่งนามและรูปนั้น แม้ปฏิสนธิจิตประเภทเดียวกันของแต่ละคน แต่รูปร่างกายแตกต่างกันก็ได้ ยกตัวอย่าง เช่น ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ด้วยปฏิสนธิจิตด้วยมหากุศลวิบากประเภทเดียวกันทั้งสองท่าน แต่รูปร่างหน้าตาก็แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหตุที่ทำให้รูปแตกต่างกันไป เพราะเหตุคือกุศลกรรมที่ทำนั้นมีความละเอียดประณีต ในขณะที่เป็นกุศลกรรมที่เป็นเจตนาแตกต่าง ประณีตแตกต่างกัน ทำให้การประมวลมาซึ่งปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ทำให้รูปร่างแตกต่างกันไม่มากก็น้อยครับ เช่น บางคนทำกุศลที่ประณีต แต่บางคนไม่ประณีต ผลของกุศลทำให้ปฏิสนธิจิตเหมือนกัน ประเภทเดียวกัน แต่ความประณีตของผลของกุศลนั้นแตกต่างกัน ก็ทำให้รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปตามความแตกต่างของเจตนาในขณะที่ทำกุศลประณีตแตกต่างกันไป

ที่กระผมกล่าวในเรื่องนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ที่แตกต่างกันไปในรูปร่างหน้าตา เพราะความแตกต่างของเจตนาในการกระทำกรรมที่ประณีตและไม่ประณีตแตกต่างกัน จึงทำให้รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปไม่มากก็น้อยครับ

แต่สำหรับกรณีการโคลนนิ่ง ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ว่าจะโคลนนิ่งอย่างไร ให้มีรูปร่างเหมือนกัน (มองภายนอกไม่ละเอียดอาจเหมือนกัน) สัตว์ที่ต่างโคลนนิ่งก็ต่างมาด้วยกรรมของแต่ละคนแต่ละสัตว์ ซึ่งไม่จำเป็นครับว่าจะต้องปฏิสนธิคนละประเภท อาจจะเป็นปฏิสนธิประเภทเดียวกันก็ได้ ในสัตว์ ๒ ตัวที่ทำโคลนนิ่ง เช่น สัตว์ดิรัจฉาน มีแกะ เป็นต้น สัตว์ ๒ ตัว ต้องเป็นปฏิสนธิจิตประเภทเดียวกัน แม้จะเป็นคนละดวงแต่ก็เป็นประเภทเดียวกัน คืออเหตุกสันตีรณอกุศลวิบาก แต่แม้จะมีปฏิสนธิจิตประเภทเดียวกัน แม้จะคนละดวง แต่ประเภทเดียวกัน ถ้าเรามองภายนอก ก็อาจดูเหมือนกัน ในรูปร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีทางเลยที่สัตว์ตัวใดก็ตามในโลก ๒ ตัวที่จะมีรูปร่างหน้าตาโดยส่วนละเอียดเหมือนกันทั้งหมดครับ เพราะกรรมสร้างสรรค์ให้แตกต่างกันไป เพราะอะไรครับ เพราะผลของกรรมที่เป็นอเหตุกสันตีรณอกุศลวิบากที่ทำให้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน มีแกะ เป็นต้น เกิดจากการกระทำอกุศลกรรมที่ทำไว้ ซึ่งอกุศลกรรมที่สัตว์นั้นทำไว้ในอดีตของแต่ละสัตว์ ที่ทำให้เกิดเป็นแกะ ๒ ตัวด้วยโคลนนิ่ง มีความละเอียด ประณีต ไม่ประณีต ไม่เท่ากันเลย เพราะเจตนาที่ทำกรรมของสัตว์ทั้ง ๒ ไม่เท่ากันครับ

ดังนั้น หากมองโดยละเอียดจริงๆ แล้ว แกะทั้งสองตัวย่อมมีรูปร่างไม่เหมือนกันทั้งหมดในส่วนละเอียด แต่เมื่อมองโดยส่วนหยาบ ย่อมดูเหมือนกันทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้น สัตว์จึงต่างๆ กัน แม้แต่รูป ไม่ว่าจะด้วยโคลนนิ่งหรืออย่างไรก็ต่างกัน เพราะกรรมที่ทำมา มีความละเอียดประณีตแตกต่างกันไป ไม่มากก็น้อยครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทใด เกิดในภพใดก็ตาม ย่อมเกิดจากกรรมทั้งสิ้น ธรรมเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ถ้ากล่าวถึงการเกิดของสัตวโลกแล้ว ย่อมหมายถึงการเกิดขึ้นของนามธรรมและรูปธรรม เช่น การเกิดเป็นมนุษย์ในภพนี้ชาตินี้ เป็นผลของกรรม จิตขณะแรกในภพนี้ชาตินี้ คือปฏิสนธิจิต เมื่อปฏิสนธิจิตเกิด ย่อมมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง และในขณะนั้นก็มีรูปเกิดพร้อมแล้วในขณะนั้น เพียง ๓ กลุ่ม เท่านั้น คือ กลุ่มของหทยวัตถุ กลุ่มของกายปสาทะ และกลุ่มของภาวรูป ปฏิสนธิจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยเป็นนามธรรม ส่วนรูป ๓ กลุ่มนั้นเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือกรรมเป็นปัจจัย แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครทำให้ใครเกิดได้ และจะเห็นได้ว่า ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ ตายแล้วต้องเกิดอย่างแน่นอน เมื่อสิ้นสุดจากความเป็นบุคคลนี้ในชาตินี้ คือจุติจิตเกิดขึ้นแล้วดับไป ปฏิสนธิจิตย่อมเกิดสืบต่อโดยไม่มีจิตอื่นเกิดคั่นเลย นี้คือความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยครับ

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

แท้ที่จริงแล้ว ความคล้ายกันมากของรูป เกิดจากการโคลนนิ่งหรือกรรม กันแน่ ครับ?

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

เรียน ความเห็นที่ 3 ครับ

สภาพธรรมทั้หลาย อาศัยหลายๆ ปัจจัยจึงเกิดขึ้นครับ รูปที่เกิดจากรรม มี หทัยวัตถุ ปสาทรูป ๕ และภาวรูป เป็นต้น ซึ่งเพราะอาศัยกรรม จึงทำให้รูปเหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งรูปเหล่านี้ไม่สามารถรู้ได้ด้วยตา คือเห็นเพียงภายนอกแต่รู้ได้ทางใจ ดังนั้น สิ่งที่ดูที่เห็นมีลักษณะเหมือนกัน คือสิ่งที่ปรากฏทางตาให้รู้ และรูปอื่นๆ ที่เกิดภายหลังที่ไม่ใช่มีกรรมเป็นปัจจัย ก็ทำให้เจริญเป็นรูปร่างร่างกาย ดังนั้น ลักษณะที่สัตว์คล้ายๆ กันที่เราเห็น จึงไม่ใช่เพราะรูปที่เกิดจากกรรมเป็นหลัก เพราะสิ่งที่เห็น คือไม่ใช่รูปที่เกิดจากกรรม เพราะรูปเหล่านั้นรู้ได้ทางใจ แต่ส่วนประกอบของตา ที่ไม่ใช่จักขุปสาท ก็เป็นรูปที่เกิดจากปัจจัยอื่นๆ เจริญเติบโต ดังนั้น เพราะอาศัยการตัดต่อทางพันธุกรรม มีการทำโคลนนิ่ง ก็ทำให้อาศัยอุตุที่ลักษณะคล้ายๆ กัน เป็นปัจจัยให้เกิดความคล้ายกันของรูปเหล่านั้นได้ครับ ที่ปรากฏให้รู้ได้ทางตาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วิริยะ
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

เรียนถาม

ช่วงใดของการโคลนนิ่ง ที่เรียกว่า ปฏิสนธิจิตเกิด แม้แต่ในมนุษย์ ก็เช่นกันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

เรียน ความเห็นที่ 5 ครับ

สำหรับการโคลนนิ่ง จะเห็นได้ครับว่ามีการเลี้ยงเซลล์ตัวอ่อนในสารเคมี ซึ่งเซลล์เริ่มแบ่งตัวเกิดขึ้นก็อยู่ในสารเคมีที่เลี้ยงไว้ ดังนั้น การเกิดขึ้นของสัตว์ที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ก็อาจเริ่มจากการเกิดขึ้นของเซลล์ที่เริ่มแบ่งตัวจากการฉีดเซลล์เนื้อเยื่อที่เลี้ยงไว้เข้าไปที่ไข่จนมีการแบ่งตัวในสารเคมี จึงเป็นสัตว์ที่ไม่ได้กำเนิดในครรภ์ แต่เป็นการเกิดในเหงื่อไคลได้ครับ เพราะเกิดในน้ำยาที่เป็นสารเคมีที่เลี้ยงไว้ครับ ดังนั้น ขณะที่เซลล์เริ่มแบ่งตัวในน้ำยาที่เลี้ยงไว้ เมื่อมีการฉีดเซลล์เนื้อเยื่อเข้าไปในไข่ ก็เป็นช่วงเวลาที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น เป็นการบังเกิดขึ้นของสัตว์ครับ

ส่วนสำหรับมนุษย์ที่เกิดในครรภ์ ขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น มีรูปที่เกิดจากกรรมเกิดร่วมด้วย เช่น หทยรูป ภาวรูป กายปสาทรูป ซึ่งปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ก็มีรูปเกิดแล้ว แต่เล็กมากๆ ที่เรียกว่ากลละครับ ดังนั้น ขณะที่ปฏิสนธิจิตในการเกิดเป็นมนุษย์ในครรภ์มารดามีรูปร่างกายที่เล็กมากๆ และขณะต่อๆ ไปก็มีการแบ่งเซลล์หรือการเจริญเติบโตของรูปอื่นๆ เช่น พอพ้นสองอาทิตย์ก็เป็นอัมพุทะแต่ก็ยังเล็กมาก ดังนั้น ปฏิสนธิของมนุษย์ จึงอาศัยอุตุคือครรภ์มารดา เป็นที่อยู่ เพื่อความเจริญของรูป ส่วนโคลนนิ่ง อาศัยอุตุ คือสารเคมีเจริญเติบโตครับ แต่ขณะที่ปฏิสนธิจิต ทั้งสองอย่างก็มีขนาดที่เล็กมากๆ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วิริยะ
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 17 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์ผเดิมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 18 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pat_jesty
วันที่ 18 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ณัฐวุฒิ
วันที่ 19 ธ.ค. 2554

ขอถามนะครับ

แล้วอย่างมนุษย์เรา ก็เป็นไปได้ใช่มั้ยครับ ที่ปฏิสนธิจะต้องเกิดตอนที่อสุจิ เจาะเข้าไปในไข่ หรือว่า แม้ว่าเจาะเข้าไปหลายวันแล้ว ค่อยมีจิตมาปฏิสนธินะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
paderm
วันที่ 20 ธ.ค. 2554

เรียน ความเห็นที่ 12 ครับ

ข้อความในอรรถกถา อธิบายครับว่า

เมื่อเข้าไปในมดลูกเมื่อไหร่ ก็เป็นอันว่า ถือปฏิสนธิเมื่อนั้นครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การที่จะฝังตัวที่มดลูก ก็คือ เมื่อไข่เริ่มได้รับการผสมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ