ความหมายแท้จริงของการละกิเลส [สัมพหุลภิกขุสูตร]

 
wittawat
วันที่  19 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20195
อ่าน  5,603

ความหมายแท้จริงของการละกิเลส

สัตว์ทั้งหลายอันมีราคะ เป็นต้นใด อันเสียบอยู่แล้วย่อมแล่นไปในทิศทั้งปวง”

ต้องรู้จักลูกศรก่อนจึงถอนได้ ซึ่งได้แก่ กิเลสทั้ง ๑๐ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตัปปะ เป็นเหมือนลูกศรที่ถอนได้ยาก ปัญญาเท่านั้นที่จะละกิเลส ถอนกิเลสได้ ไม่ใช่อย่างอื่น ซึ่งเกิดได้เพราะฟังพระธรรม รู้ความจริงขณะนี้ ซึ่งต้องสะสมปัญญาตามลำดับเท่านั้น เป็นทางเดียวที่จะสามารถละกิเลสได้

ความลึกซึ้งของปัญญาที่ละกิเลส คือความเป็นเรา

แม้ว่าสภาพธรรมจะปรากฏกับสติสัมปชัญญะ คือ ปัญญาที่ถึงเฉพาะในขณะที่สภาพธรรมปรากฏจริงๆ โดยไม่เป็นใคร ไม่มีเรา เป็นธรรมแต่ละอย่างที่ปรากฏให้รู้รอบ ได้ทีละอย่าง รู้สิ่งที่ปรากฏทางมโนทวาร ทั้งนามธรรม และรูปธรรม เป็นนามรูปปริจเฉทญาณ แต่ก็ยังไม่ใช่ปัจจยปริคคหญาณ สัมมสนญาณ หรืออุทยัพพยญาณ ปัญญาแค่นั้นไม่พอที่จะละคลาย ความเป็นตัวตน ละคลายการยึดติด ถือว่าแข็งเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งได้แก่ อนิจจานุปัสสนาญาณ (คือ ปัญญาที่พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง ซึ่งละความสำคัญว่าเที่ยง ซึ่งหมายถึงมหาวิปัสสนา จะสมบูรณ์พร้อมได้ เมื่อปหานปริญญา ซึ่งมีภังคานุปัสสนาญาณเป็นภูมิพื้น) เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าปัญญาที่ละความเห็นผิดว่าเที่ยงเป็นเรา ต้องเป็นปัญญาจริงๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นสมบูรณ์พร้อมได้ ปัญญาต้องอบรมเจริญขึ้นบ่อยๆ โดยละเอียดว่าเป็นธรรมจนกว่าจะรู้จริงๆ ว่า เป็นธรรมแต่ละอย่าง ทั้งหมดเพื่อให้รู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรม

เดี๋ยวนี้มีโลภะหรือไม่ ถ้ามีก็คือแล่นไปแล้วไม่ว่าจะเป็นทิศใด ก็เป็นทิศทั้งหมดที่เป็นไป ด้วยโลภะ และโลภะมาจากไหน ถ้าไม่มีอวิชชา ก็ไม่มีโลภะ และถ้ามีโลภะก็ไปทุกทิศ แม้เกิดก็เพราะมีโลภะ

ทิศโดยนัยของภูมิ

ถ้าติดข้องในกาม ตายแล้วไปเบื้องล่าง หากละกามได้แล้ว ตายไปก็ไปเบื้องบนคือพรหมโลก หากถอนศรได้ทั้งหมดแล้ว ก็ไม่แล่นไปสู่ทิศใดๆ สิ้นปฏิสนธิสิ้นโอฆะ คือ เครื่องกดสัตว์ให้จมในวัฏฏะ

อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากสัมพหุลภิกขุ สูตร..ข้อความเตือนสติเรื่องสัมพหุลภิกขุสูตร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การละกิเลส เป็นเรื่องของปัญญา หากไม่มีปัญญา ก็ไม่มีทางละกิเลส ด้วยความเพียร

ที่จะทำ แต่ไม่เข้าใจ ด้วยความต้องการ อยากที่จะละได้เลยครับ การละกิเลส ก็ต้องรู้

จักตัวกิเลส เปรียบเหมือน การรบ ก็ต้องรู้จักข้าศึกศัตรู จึงจะสามารถชนะการรบได้ครับ

แต่การู้จักกิเลส ต่างกับ การรู้จักข้าศึกศัตรู เพราะการรู้จักกิเลส คือ รู้จักตัวจริงของ

กิเลส นั่น คือ ลักษณะที่กำลังปรากฎของกิเลส ที่มีลักษณะให้รู้ โดยไม่ใช่พยายามไป

ละ แต่เข้าใจลักษณะของกิเลส ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะขณะที่รู้ตรงลักษณะของ

สภาพธรรมในขณะนั้น ขณะนั้น มีแต่ตัวธรรมที่ปรากฎ จึงละความยึดถือว่ามีสัตว์ บุคคล

ตัวตนในขณะนั้นครับ จึงเป็นการละกิเส รู้จักกิเลสด้วยปัญญาครับ

เมื่อยังมีกิเลส ก็ย่อมทำกุศล อกุศลประการต่างๆ ก็แล่นไปในทิศต่างๆ มีอบายภูมิ

สุคติภูมิ เป็นต้น แต่เมื่อดับกิเลสหมดสิ้น ก็ไม่มีการเกิดอีกในภพภูมิต่างๆ จึงชื่อว่า ไม่

แล่นไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่ ไม่แล่นไปสู่ทิศต่างๆ แล้วครับ ซึ่งจะถึงได้ ด้วยการฟังพระ

ธรรม ศึกษาพระธรรมครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
jaturong
วันที่ 19 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 19 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ลูกศร คือ กิเลส ย่อมปักอยู่ที่ใจของแต่ละบุคคลที่ยังมีกิเลสอยู่ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรแสดงว่า กิเลสเปรียบเสมือนลูกศร ก็เพราะเหตุว่าเป็นสภาพที่ปักอยู่ภายในนำออกได้ยาก ถอนออกได้ยาก นั่นเอง โดยที่บางคนไม่เคยรู้เลยว่าตนเองถูกปักด้วยลูกศรหลายต่อหลายดอกในแต่ละวัน ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานแล้วในสังสารวัฏฏ์และยังจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน ยากที่จะพ้นไปได้จริงๆ เพราะถูกลูกศรคือกิเลส เสียบแล้ว จึงทำให้สัตว์โลกย่อมวิ่งพล่านไปทุกทิศทุกทาง ด้วยกำลังของกิเลสตราบใดที่ยังไม่ได้ถอนลูกศรคือกิเลสออกได้ด้วยอริยมรรค ความทุกข์ความเดือดร้อน ภัยประการต่างๆ ก็จะตามมาไม่รู้จบ ต้องทนทุกข์อยู่ในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นไปเพื่อการถอนลูกศรคือกิเลสออกได้ นั่นก็คือ การอบรมเจริญปัญญา ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณwittawatและทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 19 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 20 ธ.ค. 2554
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 20 ธ.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ