การปฏิบัติในพระพุทธศาสนา
หนทางเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจธรรมมีทางเดียวคือ อริยมรรคมีองค์ ๘ เท่านั้น การเจริญสติปัฏฐานเป็นการเจริญอริยมรรคเบื้องต้น คือ เป็นโลกียมรรคและยังไม่ครบ ๘ องค์
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ 606
๑๐. สติปัฏฐานสูตร
ฯลฯ
[๑๓๒] พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์เพื่อก้าวล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัสเพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง. ทางนี้คือสติปัฏฐาน ๔ประการ.
ฯลฯ
ไปเชียงใหม่ได้หลายวิธีก็ถูก แต่อยากถามว่า รู้จักเชียงใหม่หรือยัง? อยู่ตรงไหน? ไป
เส้นทางไหน? เลี้ยวซ้ายแยกไหน? เลี้ยวขวาแยกไหน? ถ้าไม่ศึกษาแล้วหลับหูหลับตา ป้ายบอกทางก็ไม่อ่าน ถามคนข้างทาง เคยไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาแต่นั่งหลับตากำหนดนั่นเพ่งนี่ ถามคนนั้นว่าอย่างนี้ ถามคนนี้ว่าอย่างนั้น คงยุ่งน่าดูนะครับ ไปเอาคำเปรียบเทียบเช่นนี้ มาเปรียบกับความรู้ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่ง่ายไปหรือครับ? ขอท่านลองพิจารณาดูหน่อยเป็นไร สมัยนี้ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยไปหาหมอรักษาก็ต้องการให้หายจากความเจ็บอย่างรวดเร็ว หมอคนไหนรักษาหายช้า ไม่ทันใจก็ว่าไม่เก่ง ไปหาหมอที่รักษาหายไวๆ แล้วเป็นไง? เจอยาแรงๆ หายไวๆ ต่อไปก็ต้องยาฉีดหายไข้โดยด่วน หมดยาฉีด (หมายความว่าดื้อยา) แล้วทำไง? แรงสุดแล้ว ฉีดยาน่ะทำไงต่อ? การรู้จักรักษาสุขภาพด้วยตนเอง เพื่อตนเองฉันใด การจะรักษากาย วาจาใจ ศึกษาหนทางเพื่อความหลุดพ้นตามแนวทางของพระพุทธองค์ ก็เพื่อตนเองฉันนั้นรู้หนทางที่ถูกก็เพื่อตัวท่านเองแท้ๆ มัวมาตั้งแง่กันอยู่ทำไม?