ประวัติพระอภิธรรมก่อนพุทธกาล
ประวัติพระอภิธรรมก่อนพุทธกาล คืออยากทราบว่า ก่อนพุทธกาลนั้น มีพระอภิธรรมหรือเปล่าครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจก่อนครับว่า พระอภิธรรมคืออะไร พระอภิธรรม คือธรรมที่ละเอียดยิ่ง คือเป็นสภาพธรรมที่มีลักษณะตามความเป็นจริงที่เป็นสัจจะ ละเอียดยิ่งโดยตัวของสภาพธรรมนั้นเอง พระอภิธรรมจึงเป็นสภาพธรรมที่มีจริงที่เป็นนามธรมและรูปธรรม หรือจิต เจตสิก รูปและนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ละเอียดยิ่งเพราะไม่มีสภาพธรรมอื่นๆ ยิ่งไปกว่า เพราะเป็นสัจจะความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ครับ จึงละเอียดยิ่ง เป็นอภิธรรมครับ
พระอภิธรรมจึงเป็นสภาพธรรมที่มีจริง พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงที่เป็นอริยสัจจะ ที่เป็นอภิธรรม ที่เป็นจิต เจตสิก รูปและนิพพานว่ามีจริงและเป็นธรรม ไม่ใช่เรา พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพธรรม และพระองค์ไม่ได้ทำให้สภาพธรรมเกิดขึ้นด้วยพระองค์เอง แต่พระองค์ตรัสรู้ความจริงที่มีอยู่แล้ว เป็นปกติในขณะนี้ ที่เป็นจิต เจตสิกและรูปครับ และเมื่อพระองค์รู้ความจริง พระองค์ก็ทรงแสดง เปิดเผย แก่เหล่าสัตว์ผู้มีอัธยาศัยสะสมปัญญามาที่จะรู้ความจริงที่เป็นจิต เจตสิก รูป และพระนิพพาน (อภิธรรม) ตามที่พระองค์ตรัสรู้ด้วยการแสดงธรรม เมื่อผู้นั้นได้ฟังก็สามารถรู้ตามพระองค์และตรัสรู้สัจจะที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน
เพราะฉะนั้น พระอภิธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในชีวิตประจำวัน เป็นอภิธรรมในชีวิตประจำวันที่เป็นจิต เจตสิกและรูป เช่น เห็น มีจริง เป็นอภิธรรม คือเป็นจิตเห็น ได้ยิน มีจริง เป็นอภิธรรม เป็นจิตได้ยิน เสียง มีจริง เป็นอภิธรรม คือรูป เป็นต้น ส่วนคำว่าพุทธกาล หมายถึง กาลสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ดังนั้น คำว่า ก่อนพุทธกาล คือกาลเวลาก่อนที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก
คำถาม คือ กาลเวลาที่พระพุทธเจ้า ยังไม่อุบัติขึ้นในโลก มีพระอภิธรรมไหม
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วครับ พระอภิธรรม คือสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นจิต เจตสิก รูป และพระนิพพาน ซึ่งจิต เจตสิกและรูป ก็เป็นอภิธรรมและเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่มีในชีวิตประจำวัน และก็มีอยู่ในทุกกาลสมัย แม้ก่อนพุทธกาล ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติ ก็มีการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก และรูป ในชีวิตประจำวัน มีการเห็น ก็เป็นจิต และเป็นอภิธรรม มีการได้ยิน ได้กลิ่น โกรธ โลภะ ความไม่รู้ ที่เป็นเจตสิก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอภิธรรมและเกิดในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าในยุคสมัยไหนครับ สภาพธรรมที่เป็นอภิธรรมก็ยังมีอยู่ เกิดขึ้นและดับไปที่เป็นจิต เจตสิก และรูป แต่แม้มีพระอภิธรรมคือตัวสภาพธรรมที่มีจริงอยู่ แต่ในก่อนพุทธกาลก็ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะรู้ความจริงว่า มีธรรม มีอภิธรรมอยู่ในขณะนี้ที่เป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา ดังนั้น จึงสามารถตอบได้ ๒ นัย ดังนี้ครับ
จากคำถาม ที่ว่า สมัยก่อนพุทธกาลมีพระอภิธรรมไหม
คำตอบที่ ๑ คือ มีอภิธรรม คือมีตัวสภาพธรรมที่มีจริงอยู่แล้ว ที่เกิดขึ้นและดับไปทุกกาลสมัย คือ จิต เจตสิกและรูป เช่น การเห็น การได้ยิน เป็นต้น แม้ก่อนพุทธกาลก็มีตัวอภิธรรม คือสภาพธรรมที่มีจริงครับ
คำตอบที่ ๒ ก่อนพุทธกาล ก่อนการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ไม่มีผู้แสดงพระอภิธรรมให้ผู้อื่นได้รู้ได้เข้าใจ เพราะไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น จึงไม่มีคัมภีร์พระอภิธรรมให้ได้ศึกษากันเพื่อให้เข้าใจความจริงครับ เพราะผู้ที่จะตรัสรู้ความจริงที่เป็นอภิธรรมและสามารถแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจได้คือพระพุทธเจ้าเท่านั้น ซึ่งช่วงที่ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น มีแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้ที่ตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เองแต่ไม่สามารถสั่งสอนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ดังนั้น ผู้ที่ตรัสรู้อภิธรรมด้วยตนเอง มีครับ แต่ไม่สามารถกล่าวแสดงอภิธรรมให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สมัยก่อนพุทธกาลจึงไม่มีคัมภีร์หรือคำสอนที่เป็นพระอภิธรรมครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริง เป็นธรรม เป็นปรมัตถธรรม และเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่งด้วยความเป็นธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ทุกกาลสมัย ธรรมก็เป็นธรรมและเป็นอภิธรรมด้วย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ให้เป็นอย่างอื่นไปได้ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น สำคัญที่ว่ายุคนั้นสมัยนั้น เป็นยุคที่มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้วทรงแสดงพระธรรมให้เพื่อสัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริง หรือเป็นยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา
ถ้าเป็นยุคที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก (พุทธกาล) พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ตรัสรู้ธรรมตามความเป็นจริงแล้วทรงอนุเคราะห์เกื้อกูลสัตว์โลกให้ได้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริงให้ได้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง ทรงแสดงธรรมที่มีจริงที่ละเอียดยิ่ง ให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริงด้วยการทรงแสดงพระธรรม ประกาศความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจถูกเห็นถูก จากที่เต็มไปด้วยความไม่รู้ก็จะค่อยๆ มีความรู้ที่เจริญขึ้นไปตามลำดับจนกระทั่งสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับ การอบรมเจริญปัญญามีเฉพาะในพระธรรมวินัยนี้เท่านั้น และกล่าวได้ว่า ขณะนี้ก็อยู่ในช่วงของพุทธกาล เพราะยังเป็นกาลสมัยที่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงอยู่ อันสืบเนื่องมาจากการทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรมของพระองค์ แต่ถ้าเป็นยุคก่อนพุทธกาลคือยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา ธรรมก็มี อภิธรรมก็มี แต่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นตรัสรู้ตามความเป็นจริง
เมื่อไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้น พุทธบริษัทก็ไม่สามารถเข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นอภิธรรมได้เพราะไม่มีผู้แสดงให้เข้าใจ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ผู้ที่สะสมอบรมบารมีมาเพื่อจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีได้ในยุคที่ว่างจากพระพุทธศาสนา สามารถตรัสรู้อภิธรรมตามความเป็นจริงได้ แต่ก็ไม่มีการแสดงธรรมให้ผู้อื่นได้รู้ตาม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด อภิธรรม ก็มี ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากธรรมที่มีจริงในขณะนี้เลย มีจริงทั้งในสมัยพุทธกาลและก่อนพุทธกาล แต่ที่มีการแสดงอภิธรรม แสดงธรรมให้ผู้อื่นได้เข้าใจตามความเป็นจริง มีเฉพาะในช่วงพุทธกาลเท่านั้น แม้แต่ในยุคนี้สมัยนี้ อยู่ในช่วงพุทธกาล พระธรรมยังดำรงอยู่ ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ฟังได้ศึกษาสะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไปครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ก่อนพุทธกาลมีพระอภิธรรมอยู่แล้ว คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน แต่ตอนนั้น ยังไม่มีใครตรัสรู้ ไม่มีใครแสดง ค่ะ