ช่วยไขข้อข้องใจเรื่องความวิตกจริตค่ะ
สวัดดีค่ะ กรุณาแนะนำหน่อยนะคะ ไม่ทราบว่าดิฉันเป็นอะไร ทำไมเวลาเห็นสัตว์โดน ทรมาน หรือโดนทำร้าย โดนฆ่า จะมีความรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว มันรู้สึกว่าเศร้า เครียด และรับไม่ได้กับการกระทำของมนุษย์ที่รังแกสัตว์ ความรู้สึกนี้ มันฝังอยู่ข้างในตลอด บางครั้งถือมีดคิดจะฆ่าตัวตายเพราะ ไม่อยากรับรู้เลยนะคะ มันเครียดมาก เป็นเอามากจริงๆ ความรู้สึกนี้ทำให้กินเนื้อสัตว์มาไม่ได้เป็นปี แล้วนะคะ มันเป็นกรรมรึเปล่าคะ หรือเพราะอะไร วานช่วยตอบข้อสงสัยหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นธรรมดา ที่เมื่อมีกิเลสอยู่มาก เมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส ที่ไมดี ไม่น่าพอใจ ย่อมทำให้เกิด อกุศล มีความไม่สบายใจ ความขุ่นเคืองใจ เศร้า และเครียด ซึ่งความรู้สึกที่เกิดขึ้นตามที่กล่าวมา ก็คือ อกุศลจิต ที่เป็น โทสะ ความขุ่นเคืองใจนั่นเองครับ
ดังนั้น ไม่ใช่เพียงคุณ แต่ทุกๆ คนที่ยังเป็นปุถุชน คือ ผู้ที่หนาด้วยกิเลส เมื่อได้เห็น สิ่งที่ไม่ดี อารมณ์ที่ไม่ดีมากระทบ ทาง ตา ทางหู ได้เห็นการฆ่า ได้ยินเสียงสัตว์ร้อง เป็นต้น อันเป็นอารมณ์ที่ไม่ดี กิเลสที่สะสมมามาก ก็ทำให้เกิด โทสะ ความไม่สบายใจ ไม่ชอบ เศร้า เป็นต้น ได้ทันทีอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า ใครจะเกิดมาก หรือ จะ เกิดน้อยในอกุศลที่เกิดขึ้นครับ ผู้ที่เกิดมาก คือ มีความรู้สึกเศร้ามาก ไม่พอใจมาก ในสิ่งที่ได้เห็น ก็เพราะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นบ่อยๆ อกุศล คือ โทสะก็เกิดบ่อยๆ จนมีกำลัง ทำให้ โทสะที่เกิดขึ้น รุนแรง จนทำให้มีความรู้สึกไม่ชอบอย่างมากครับ ซึ่ง ผู้ถาม ถามว่าเป็นกรรมของเราใช่ไหม ก็ต้องแยกครับว่า ขณะที่เป็นผลของกรรม คือ ขณะที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส ได้เห็นสิ่งที่ไม่ดี ก็เป็นผลของกรรม อันเป็น เพราะว่า ได้กระทำกรรมที่ไม่ดีเอาไว้ในอดีตชาติ จึงทำให้เห็นสิ่งที่ไมดี มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ส่วนเมื่อเห็นแล้ว เกิดความไม่ชอบ ขุ่นเคืองใจ ทรมานใจ ขณะนั้น ไม่ใช่เป็นผลของกรรม แต่เป็นกิเลส เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้น ทำให้สะสมเป็นอุปนิสัยที่จะไม่พอใจ ไม่ชอบใจ เศร้าใจได้ง่ายขึ้น เมื่อเห็นเหตุการณ์เหล่านี้อีกครับ
หนทางที่ถูกต้อง คือ ไม่ใช่การหลีกหนี เพราะหนีไม่ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัยก็ต้องเห็น สิ่งเหล่านั้น เมื่อกรรมให้ผล ก็ต้องเห็น แต่ ค่อยๆ เข้าใจความจริงทีเกิดขึ้นว่า สัตว์มีกรรมเป็นของๆ ตนไหม คือ สัตว์ที่ถูกฆ่า ก็เพราะเคยทำกรรมไม่ดีในอดีตเอาไว้ เช่น เคยฆ่าผู้อื่น เป็นต้น มาชาติปัจจุบัน สัตว์มีมากมาย ทำไมตัวนี้ถึงโดนฆ่า ก็เพราะกรรม นั้นให้ผล กรรมไม่ดีให้ผล ให้ถูกฆ่า เพราะทำเหตุที่ไม่ดีเอาไว้ครับ และ ผู้ที่ฆ่า ควรเกียจชังเขาไหม หรือ ควรจะสงสารเขา เพราะเขากำลังทำบาป ทำเหตุที่ไม่ดี ที่ในอนาคต จะต้องถูกฆ่าอย่างนี้เช่นกันครับ ดังนั้น ผู้ที่ฆ่าอยู่ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์ ที่จะต้องถูกฆ่าอีก ดังนั้นหากมองสัตว์ที่กำลังถูกฆ่า ก็มองย้อนไปได้เลยว่า สัตว์นั้น ตัวกำลังที่ถูกฆ่า ก็เป็นคนฆ่าสัตว์ที่กำลังยืนฆ่าอยู่ในอดีตครับ ดังนั้น ควรเห็นใจสงสารคนฆ่า และเข้าใจสัตว์ที่ถูกฆ่าว่าจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น
หากได้ศึกษาพระธรรมโดยละเอียดก็จะเข้าใจความจริงหลายๆ ประการตามที่กล่าวมา รวมทั้ง เข้าใจความจริง ว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก ควรหรือที่จะทำลายชีวิตตนเอง เพียงเพราะความทุกข์ในจิตใจ ที่ยังไม่ได้ทำร้าย ที่ทำให้เกิดความทุกข์ทางกายเลยแม้แต่น้อย ชีวิตที่เหลือ เวลามีค่า คือ เมื่อได้พบพระธรรมแล้ว ควรศึกษาให้เข้าใจความจริง เพราะความไม่รู้นี้เอง เพราะกิเลส คือ อวิชชา ความไม่รู้ จึงทำให้เราต้องทุกข์อย่างนี้ ทุกข์ใจอย่างนี้เพียงเพราะได้เห็นสิ่ต่างๆ ควรแสวงหาหนทางดับทุกข์ด้วยการอบรม ปัญญา ในเวลาที่เหลือน้อยในการเกิดเป็นมนุษย์ครับ เพื่อที่จะได้ดับทุกข์ที่แท้จริงได้ ด้วยการศึกษาพระธรรมครับ เป็นกำลังใจให้ด้วยความเข้าใจพระธรรมนะครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอเอาใจช่วยท่านเจ้าของกระทู้นะคะ ขอให้เข้ามาศึกษาพระธรรมบนเว็บไซต์นี้ และฟังธรรมที่อาจารย์สุจินต์ท่านบรรยายตั้งแต่เบื้องต้น จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตมากเลยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน การที่สัตว์จะถูกฆ่าหรือถูกทรมาน ก็เพราะเหตุ คือ อกุศลกรรม ที่สัตว์นั้นได้ทำมาแล้วในอดีต ถึงคราวให้ผล ผลดังกล่าวจึงเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเหตุที่ได้กระทำแล้วผลก็จะเกิดขึ้นไม่ได้
ส่วนเราที่ได้พบเห็นแล้วเกิดความความไม่พอใจ เศร้าใจ ไม่สบายใจนั้น เป็นอกุศลของเราเองที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ แต่การที่คิดจะฆ่าตัวตายนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง ควรมีชีวิตอย่างคุ้มค่า ด้วยการมีชีวิตอยู่เพื่อเจริญกุศล และ สะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้สะสมสิ่งที่ดีให้กับชีวิต คือ สะสมกุศลประการต่างๆ ซึ่งจะสะสมเป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า กุศลธรรมเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ