อจินไตย 4 เป็นเรื่องที่ต้องไม่ลืม

 
dets25226
วันที่  2 ม.ค. 2555
หมายเลข  20287
อ่าน  38,318

อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่ควรคิด หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของ

ปุถุชน มี ๔ อย่าง ได้แก่

วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

วิสัยแห่งอิทธิฤทธิ์ของฌาน

วิสัยของกฎแห่งกรรม ที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติ รวมถึงการให้ผล

และการรับวิบากกรรม

วิสัยการมีอยู่ของโลก

ในทางพระพุทธศาสนาไม่แนะนำให้คิดเรื่องอจินไตย เพราะวิสัยปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้โดยถูกต้องถ่องแท้ ทั้งเพราะความเข้าใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นของลึกซึ้ง เป็นเรื่องทางจิตหรือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบที่สิ้นสุดได้ ถ้าคิดมากจริงจังในการหาคำตอบเหล่านั้นจากการคิดเดาเอาด้วยตรรกะเองจึง อาจกลายเป็นคนบ้าได้ อจินไตยในเรื่องทางจิตจึงเป็นเรื่องที่รู้ได้ด้วยการบรรลุธรรมชั้นสูงเท่านั้น ฯ

อนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ อย่างนี้ ไม่ควรคิด ผู้ที่คิดก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า

อจินไตย ๔ คืออะไรบ้าง คือ

พุทธวิสัยแห่งพระพุทธทั้งหลาย เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ๑

ฌานวิสัยแห่งผู้ได้ฌาน เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ๑

วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ๑

โลกจินดา (ความคิดในเรื่องของโลก) เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล อจินไตย ๔ ไม่ควรคิด

พุทธวิสัย เป็นการคิดหาโดยไม่ทราบเหตุที่มา แท้จริงของการเป็นพระพุทธเจ้า หรืออานุภาพ พุทธคุณ มี สัพพัญญุตญาณ เป็นต้น

ฌานวิสัย เป็นการคิดหาโดยไม่ทราบเหตุที่มาแท้จริงของฌาน ในวิสัยของผู้อบรม ความสงบจิต จนถึง รูปฌาน อรูปฌาน อภิญญาจิต แสดงอิทธิฤทธิ์ได้ หรือมีจิตระดับสูงกว่าขั้นกาม ที่ไม่รู้กามารมณ์ คือ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ เป็นต้น

กรรมวิบาก คือ ความคิดเรื่องของวิบากของกรรม มีกรรมที่จะให้ผลในปัจจุบัน เป็นต้นเช่น การคิด เรื่องคนนั้นที่ได้รับผลกรรมนั้นเพราะทำอย่างนั้นด้วยวิสัยตน

โลกจินตา คือ ความคิดเรื่องโลก ได้แก่ ใครเป็นคนสร้างดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ แผ่นดินเป็นต้น เพราะ แม้คิดด้วยวิสัยตนก็ไม่ได้คำตอบ

ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงแสดง สิ่งที่ควรคิด พิจารณา คือ การศึกษาความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ว่าคืออะไร นั่นคือ เป็นธรรมไม่ใช่เรา พระพุทธองค์ทรงแสดงว่า หากจะคิด เรื่องที่ไม่สามารถจะรู้ได้ ก็ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มีแต่จะเพิ่มโทษ คือ ความลังเลสงสัย เพราะไม่สามารถรู้ได้ กิเลสก็เพิ่มขึ้น จึงไม่ควรคิด แต่ควรคิดเรื่องที่เป็นประโยชน์ คือ การศึกษา ฟังพระธรรม ในเรื่องของสภาพธรรม เพื่ออบรมปัญญา เพื่อรู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ การคิดในเรื่องนี้ ย่อมทำให้ปัญญาเจริญ และละความไม่รู้ ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะเป็นไปเพื่อเบื่อหน่าย คลายกำหนัดจากกิเลสครับ

ขออนุโมทนา

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 463

จินตสูตร

... เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจงอย่าคิดเรื่องโลกว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพเป็นอื่น สรีระก็เป็นอื่น สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีก สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่เป็นอีกก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีก ก็หามิได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ไม่ใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน.

[๑๗๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะคิด พึงคิดว่านี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายอ ... เพื่อนิพพาน

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
dets25226
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ฟังได้พิจารณาไตร่ตรอง เป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง ขอเพียงเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรม ซึ่งก็หมายถึงสิ่งที่มีจริงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นธรรม เพราะในการฟังการศึกษาพระธรรม นั้น เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีในขณะนี้จริงๆ ซึ่งตัวสภาพธรรมจริงๆ นั้น มีลักษณะเฉพาะของตนๆ มีจริงในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเลย และสามารถที่จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ สิ่งสำคัญ คือ การฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ นี้แหละคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ แทนที่จะไปคิดถึงเรื่องอื่น ก็คิดถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
intra
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 2 ม.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
นันทภพ
วันที่ 3 ม.ค. 2555

ถ้า ผมไม่ฟัง ไม่อ่าน ให้ เข้าใจ ผมไม่รู้หรอกครับ เรื่องราวที่คนไม่รู้ยังมีอีกมาก และ คน จำนวนมากที่ยังคง ไม่รู้ ขอขอบคุณท่านผู้นำเสนอหัวข้อมาให้เราได้ศึกษา ครับ

แต่คน ที่ไม่ลืมคงมีจำนวนน้อย นะ ครับ คน ที่ไม่สงสัยก็คงมีจำนวนน้อย นะ ครับ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง อย่างไร ก็ ดี ขอ อนุโมทนา ครับ.

ขอ สรรพสัตว์ ทั่วจักรวาล เป็นสุขๆ เถิด อย่ามีทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สวัสดี ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Namol
วันที่ 21 พ.ค. 2563

สาธุเจ้าค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 21 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
MyShop
วันที่ 12 ต.ค. 2563

สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Varapong
วันที่ 18 พ.ย. 2563

สาธุ ครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ