ความเข้าใจและเรื่องราวของธรรม [วัฑฒิสูตร]

 
wittawat
วันที่  25 ม.ค. 2555
หมายเลข  20437
อ่าน  1,206

ความเข้าใจและเรื่องราวของธรรม

การพูดถึงเรื่องราวของธรรมมาก ไม่สำคัญเท่ากับ ขณะที่ธรรมกำลังปรากฏให้เห็นให้ได้ยิน แล้วมีความเข้าใจสิ่งนั้นชัดเจนขึ้น

อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากวัฑฒิ สูตร..ข้อความเตือนสติเรื่องวัฑฒิสูตร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pat_jesty
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นให้ข้อคิดเตือนใจที่ดีเป็นอย่างยิ่งขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณวิทวัต และทีมงาน ด้วยนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพูดในเรื่องราวของธรรม แต่ไม่เข้าใจพระธรรมที่ปรากฎในขณะนี้ ก็เรียกว่า เป็นผู้บ่นเพ้อในธรรม เพราะ บ่นเพ้อในสิ่งที่ไม่รู้จริง เพราะ ความจริงคือ สภาพธรรม ในขณะนี้ หากไม่มีสภาพธรรมในขณะนี้ ที่เป็น จิต เจตสิกและรูป ก็จะไม่มีเรื่องราว ไม่มีสัตว์ บุคคล สิ่งต่างๆ เลย ดังนั้น อาศัย ชื่อ เพื่อเข้าใจตัวจริง คือ ศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้าที่เป็นชื่อเรื่องราวที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ ด้วยจุดประสงค์เพื่อเข้าใจตัวจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้เป็นสำคัญครับ เมื่อพูดธรรม ไม่ว่าเรื่องใด ก็ไม่พ้นจากความจริงที่ปรากฎในขณะนี้นั่นเองครับ ศึกษาเพื่อเข้าใจตัวจริงขณะนี้ สำคัญที่สุดครับ ขออนุโมทนา

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่........บ่นเพ้อธรรม [มหาวิภังค์]

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่มที่ ๔๗ หน้าที่ ๒๗๐

บุคคลไม่ทำให้แจ้งซึ่งธรรมแม้ ๒ อย่าง ด้วยปัญญาของตนแล้วและไม่ใคร่ครวญเนื้อความแม้สักว่า คำว่า อนิจจัง คำว่า ทุกขัง และคำว่าอนัตตา ในสำนักของบุคคลผู้เป็นพหูสูตทั้งหลาย ไม่รู้อยู่เพราะความที่ตนไม่รู้ได้ด้วยตนเอง และชื่อว่ายังข้ามความสงสัยไม่ได้ เพราะตนยังไม่ได้พิจารณาใคร่ครวญ แล้วอาจเพื่อจะทำบุคคลอื่นให้เพ่งเล็ง คือ ให้เพ่งพินิจได้อย่างไรดังนี้. ในข้อนี้ผู้ศึกษาพึงระลึกถึงสุตตบท มีอาทิอย่างนี้ว่า ดูก่อนจุนทะผู้นั้นแล ชื่อว่า บ่นเพ้ออยู่ด้วยตนเอง ดังนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 25 ม.ค. 2555
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ปุ้ม
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขณะนี้ในเฟสบุคส์ มีการพูดถึงเรื่องราวกันมากมายเลยครับ ทั้งจริงทั้งย่อใจความมา ทำให้การตีความหมายผิดไปมากเพราะได้ใจความที่ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งที่ธรรมทั้งหลายมีไว้เพียงเพื่อให้เห็นและเรียกถูก เข้าใจว่าลักษณะและอาการเป็นไปอย่างไร มีมาด้วยเหตุอย่างไร หาใช่ความเห็นว่าเราหรือเพื่อเราด้วยได้ไม่เลย เมื่อความเห็นแท้จริงปรากฏ ความเห็นอื่นๆ ก็กลายเป็นเพียงแค่ความถูกต้องในแต่ละเหตุการณ์ เป็นความว่างโดยส่วนเดียว

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ผิน
วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ