ความเพียรซึ่งเกิดได้ยาก ๒ อย่าง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 293
สูตรที่ ๒
ว่าด้วยความเพียรซึ่งเกิดได้ยาก ๒ อย่าง
[๒๘๘] ๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในโลกมีความเพียรซึ่งเกิดได้ ยาก ๒ อย่าง ๒ อย่างเป็นไฉน คือความเพียรเพื่อทำให้เกิดจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชบริขาร ของคฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือน ๑ ความเพียรเพื่อสละคืนอุปธิทั้งปวง ของผู้ที่ออกบวชเป็นบรรพชิต ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในโลกมีความเพียรซึ่งเกิดได้ยาก ๒ อย่างนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาความเพียร ๒ อย่างนี้
ความเพียรเพื่อสละคืนอุปธิทั้งปวงเป็นเลิศ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเริ่มตั้งความเพียรเพื่อสละคืนอุปธิทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล
จบสูตรที่ ๒
สูตรที่ ๔
ว่าด้วยธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเดือดร้อน ๒ อย่าง
[๒๕๐] ๔. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความ เดือนร้อน ๒ อย่าง ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
บุคคลบางคนในโลกนี้ทำแต่กายสุจริต มิได้ทำกายทุจริต ทำแต่วจีสุจริต มิได้ทำวจีทุจริต ทำแต่นโนสุจริต มิได้ทำมโนทุจริต
เขาไม่เดือดร้อนว่าเรากระทำแต่กายทุจริต มิได้ทำกายสุจริต ทำแต่วจีทุจริต มิได้ทำวจีสุจริต ทำแต่มโนทุจริต มิได้ทำมโนสุจริต
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่ง ความเดือดร้อน ๒ อย่างนี้แล.
จบสูตรที่ ๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเพียร เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นวิริยเจตสิก ซึ่ง ความเพียร เกิดกับจิตที่ดี
ที่เป็นกุศลธรรมก็ได้ และเกิดกับจิตที่ไม่ดี ที่เป็นอกุศลธรรมก็ไ้ด้ครับ ความเพียรที่เกิด
ขึ้นได้ยาก คือ ความเพียรที่เกิดกับกุศล เพราะ กุศลธรรมเกิดได้ยาก เพราะอกุศลธรรมี
มาก เกิดได้บ่อย ดังนั้น การจะได้รับสิ่งที่ดี มี สิ่งของต่างๆ ก็เพราะผลของกุศลกรรม
ซึ่ง ความเพียรที่จะได้สิ่งเหล่านี้ ก็เพราะมีการกระทำความเพียรในกุศลธรรมนั่นเอง
ดังนั้น จึงเกิดได้ยาก เพราะความเพียรที่เป็นในกุศลธรรมเกิดได้ยากนั่นเองครับ
ความเพียรที่ยากที่สุด คือ ความเพียรที่เป็นในการสละ ละอุปธิ คือ การสละ ละกิเลส
ประการต่างๆ เพราะต้องเป็นความเพียรที่ประกอบด้วยปัญญา กิเลสสะสมมามาก ยากที่
จะละ เพราะเป็นเรื่องของปัญญา จึงเป็นสิ่งที่ยาก ความเพียรชอบ จึงต้องอาศัยเกิด
พร้อมปัญญา โดยเริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจครับ
ธรรมที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเดื้อนร้อน มี 2 ประการ
ซึ่ง สภาพธรรมที่นำมาซึ่ง ความทุกข์ เดือดร้อน คือ อกุศลกรรมที่ทำ ทางกาย
วาจาและใจ แต่ผู้ที่ไม่ไ่ด้ทำ ย่อมไม่เดือดร้อนใจ และไม่หวั่นไหว เพราะทำแต่ความดี
จึงไม่เดือดร้อน เพราะทำแต่ความดี ไม่ทำความชั่ว ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นได้ ก็ด้วยมี
ปัญญา รู้ว่าอะไรควรไม่ควรนั่นเองครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ