พระเดินเหยียบดอกกลีบกุหลาบ ผิดไหม

 
รวงข้าว
วันที่  30 ม.ค. 2555
หมายเลข  20468
อ่าน  6,046

เห็นมีการจัดงานธุดงค์ มีการโปรยดอกกุหลาบ ให้พระเหยียบเป็นทางยาวมาก ถ้าใครอยู่ปทุมธานีจะรู้ ตามหลักแล้วผิดไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 31 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจ แม้แต่คำธุดงค์ก่อนครับ ก็จะเข้าใจประเด็นนี้อย่างกระจ่างว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร

สำหรับ ธุดงค์ เป็นข้อวัตรปฏิบัติของพระภิกษุบางรูปที่มีอัธยาศัยในการขัดเกลากิเลสมากขึ้น ดังนั้น คำว่า ธุดงค์ จึงมีความหมายที่ว่า เป็นธรรมที่เป็นเครื่องกำจัดกิเลส ซึ่งในธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส ก็มีธรรมที่เป็นบริวาร ของธุดงค์ที่เป็นการขัดเกลากิเลสด้วย คือ ความเป็นผู้มักน้อย สันโดษ ความอยู่เงียบสงัด ไม่คลุกคลี จะเห็นนะครับว่า ความหมายธุดงค์ตามที่กล่าว เป็นธรรมที่ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง และเป็นไปเพื่อความมักน้อย สันโดษ ไม่คลุกคลี และยินดีในความสงัดเงียบ

ดังนั้น การจัดธุดงค์ โดยมีการโปรยดอกไม้ให้พระเหยียบ จึงไม่ใช่เป็นไปเพื่อความมักน้อย สันโดษ และสงัด สงบเงียบเลย แต่กลับเป็นไปเพื่อลาภ สักการะ ไม่เป็นไปเพื่ความมักน้อย แต่เป็นไปในการคลุกคลีในหมู่ชน

แม้ว่าในสมัยพุทธกาลจะมีการโปรยดอกไม้ โดยที่พระเจ้าพิมพิสารทำการต้อนรับพระพุทธเจ้าและพระภิกษุอีก ๕๐๐ รูปที่จะเสด็จไปที่เมืองเวสาลีที่เกิดภัยพิบัติ พระเจ้าพิมพิสารและหมู่มหาชนก็ได้ทำการต้อนรับอันสมควรกับพระพุทธเจ้าและพระภิกษุนั้น แต่พระองค์และพระภิกษุนั้น ไม่ได้ทำการเดินธุดงค์เลย แต่ตั้งใจไปแสดงธรรมให้กับชาวเวสาลีให้พ้นจากภัยพิบัติครับ ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารก็ทรงเป็นผู้ปรารภเรื่องนี้เอง ที่จะบูชาพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ แต่ปัจจุบันเป็นการปรารภของวัดในการให้โปรยดอกไม้และพระเดินเหยียบไป ไม่ใช่คฤหัสถ์ ดังเช่น พระเจ้าพิมพิสาร

ดังนั้น จึงแสดงถึงความเป็นผู้ไม่มักน้อย สันโดษ แต่เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้มักมาก มุ่งลาภ และสักการะ จึงไม่ใช่ธุดงค์ อันเป็นธรรมเครื่องขัดเกลากิเลสและไม่ถูกต้องแน่นอนครับ หากว่าเป็นไปเพื่อความมักมาก แม้จะใช้การเลียนแบบในสมัยพุทธกาลก็ตาม และแม้การเดินเหยียบดอกไม้นั้น ด้วยจุดประสงค์ที่ผิดแล้ว ที่ไม่ใช่ธุดงค์ การเดินเหยียบดอกไม้ของพระภิกษุ ด้วยเจตนาให้ชาวบ้านเลื่อมใส เพื่อลาภ สักการะ โดยการแสดงอาการน่าเลื่อมใสในการเหยียบดอกไม้ ก็ต้องอาบัติ ผิดพระวินัยด้วย ครับ

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากพระธรรม คือ ผู้ที่ตรงที่รู้ว่าศึกษาเพื่อขัดเกลากิเลส หากเริ่มจากจุดประสงค์ที่ผิดแล้ว กาย วาจาและใจก็ผิดไปตามกิเลสที่ตั้งจิตไว้ผิดนั่นเองครับ ซึ่งเป็นของธรรมดาของโลกที่ไม่ว่าอดีต ปัจจุบันและอนาคต ก็ต้องเป็นไปตามอำนาจของกิเลสที่สัตว์โลกสะสมมา พุทธบริษัทที่ดี จึงต้องอบรมปัญญา เป็นผู้ที่ละเอียดในการศึกษาพระธรรม ก็จะมีความเข้าใจถูกว่าอะไรถูก อะไรผิด และประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูก ก็จะรักษาพระศาสนาให้ยาวนาน เพราะพระศาสนาก็อยู่ที่ใจของผู้นั้นเองที่เข้าใจครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เซจาน้อย
วันที่ 31 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
jaturong
วันที่ 31 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
รวงข้าว
วันที่ 31 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 1 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุคคลผู้ที่เป็นชาวพุทธ ควรอย่างยิ่งที่จะได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เมื่อได้ศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว จะเห็นถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงที่จะให้ไม่รู้ ให้ไม่เกิดปัญญานั้น ไม่มี

แต่ที่มีการกระทำอะไรที่ผิดปกติ คลาดเคลื่อนไปจากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เพราะว่าขาดการศึกษา ไม่มีความเข้าใจพระธรรมอย่างถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงทุกคำ เป็นคำจริง ที่ให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้เข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อละคลายขัดเกลากิเลส ที่จะสอนให้ติดข้อง ให้มีความต้องการ ให้กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ด้วยความไม่รู้ นั่นไม่ใช่คำสอนของพระองค์อย่างแน่นอน ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 1 ก.พ. 2555

ตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายก็พากันบูชาด้วยดอกไม้ เทวดาโปรยดอกไม้เต็มไปทั่วพื้นจนถึงเข่า เพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้า ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 1 ก.พ. 2555

ชีวิตของบรรพชิตไม่ใช่ "ชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ" นะคะ

แต่เป็นชีวิตที่ขัดเกลาจนถึงความไม่มีกิเลส

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ผิน
วันที่ 2 ก.พ. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Chalee
วันที่ 7 ก.พ. 2555

สาธุ รู้ขึ้นอีก

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
homenumber5
วันที่ 18 ก.พ. 2555

เรียนทุกท่าน

สำหรับผู้ที่นำกุหลายไปโปรยในงานนี้ ท่านได้ดูไหมว่ากุหลาบของท่านมีสัตว์อะไรแฝงไว้ เมื่อภิกษุเดินเหยียบ ไป ทั้งท่านที่โปรยและท่านที่เหยียบเอาสัตว์นั้นไป นี่จะเป็นอกุสลกรรมไหม และหากกุหลาบไม่มีสัตว์ใดๆ แฝงอยู่แล้วบนพื้นที่กลีบกุหลาบวางอยู่เล่า มีสัตว์ใดๆ แฝงไว้ให้ท่านๆ ทำลายบ้าง การคิดอย่างรอบคอบละเอียด ลึกซึ้งในการสร้างกุสล น่าจะ ช่วยเราลดอกุสลกรรมลงได้บ้าง แต่ การฟังธรรมพระพุทธองค์ ถ้าฟังอย่างตั้งใจไม่คิดอกุสลอื่นๆ ได้กุสลไม่ยากนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Nareopak
วันที่ 18 ก.พ. 2555

หากผู้ใดได้ฟังธรรมและน้อมนำพระธรรมมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอยู่เนืองๆ ก็คงจะเข้าใจได้โดยง่ายว่าการทำอย่างไรจึงควร หรือ มิควร กระทำ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
พรรณี
วันที่ 20 ก.พ. 2555

ได้ข่าวมาเหมือนกันค่ะ ดิฉันเชื่อแล้วว่าถ้าไม่ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ให้เข้าใจ ก็เหมือนการจับงูพิษที่ท่อนหาง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก

ขออนุโมทนาในกุศลจิตท่านที่ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
กุศลชวนะ
วันที่ 8 พ.ค. 2555

ขอแสดงความเห็นสักหน่อยนะ

ในสมัยพระผู้มีพระภาคเสด็จผ่านนั้นไม่มีคนประกาศล่วงหน้าเหมือนทุกวันนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ดอกบัวสีชมพู
วันที่ 11 พ.ค. 2555

แล้วถ้าหากว่า ไปร่วมโปรย โดยที่ไม่อยากขัดใจแม่ล่ะคะ จะเป็นการผิดไหม แล้วบางที ต้องไปร่วมงาน แต่ใจไม่อยากไป แต่ต้องจำใจเพราะไม่อยากให้แม่ไม่พอใจ หรือรู้สึกไม่ดีกับเรา ... ก็กลัวกรรม ... ที่คิดไม่ดี ... เหมือนเข้ากันกับแม่ไม่ค่อยได้ ... ใจไม่ไปทางโน้นค่ะ ... แต่ปฏิเสธไม่ได้ต้องยอมทำตามเกือบทุกครั้ง แล้วแม่ก็ดีใจ และปลื้มใจค่ะ ... แต่หนูเศร้าใจค่ะ เพราะบางทีก็รู้ว่าผิดหลักที่พระองค์ทรงตรัสไว้ ... หนูขอทำบุญแล้วหวังขอไม่ต้องเกิดมาบนโลกนี้แล้ว ... เบื่อมากๆ เลยค่ะ ... ไม่ได้หวังชาติหน้าเลย ... ขอชาตินี้ ชาติเดียว แบบนี้ ผิดไหมคะ ...

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
nong
วันที่ 11 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
paderm
วันที่ 11 พ.ค. 2555

เรียนความเ็ห็นที่ 14 ครับ

ถ้าไม่มีเจตนาที่จะทำในสิ่งที่ผิด ก็ไม่บาปอะไร ครับ เพียงทำตามที่บุคคลอื่นทำ แต่ไม่ได้มีเจตนาที่เห็นด้วย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ดอกบัวสีชมพู
วันที่ 16 พ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
nopwong
วันที่ 28 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
Chalee
วันที่ 28 พ.ค. 2556

เป็นบุญที่ได้เข้าใจธรรมมากขึ้นค่ะ

อนุโมทนาบุญทุกๆ ท่านที่เขียนอธิบายให้ดิฉันเข้าใจธรรมมากขึ้นค่ะฺ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ