เด็กในครรภ์มารดา

 
วิริยะ
วันที่  23 ก.พ. 2555
หมายเลข  20616
อ่าน  1,753

เรียนถาม

ขอเรียนถามว่า เมื่อจุติจิตดับแล้ว ปฏิสนธิจิตจิตเกิดต่อทันที สมมติว่า เกิดเป็นมนุษย์ ในครรภ์มารดา หลังจากปฏิสนธิแล้ว ขณะนั้นยังไม่รู้อารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น จิตที่เกิด ต่อจากปฏิสนธิจิต คือ ภวังคจิต และกรรมก็ทำให้เกิดอวัยวะต่างๆ ดิฉันเรียงลำดับ ถูกต้องหรือไม่คะ เด็กในครรภ์มารดา รู้อารมณ์อะไร และการที่เด็กในครรภ์ค่อยๆ เติบโตขึ้น มีการดิ้น และในสมัยนี้ ก็มีเครื่องมือคล้ายๆ กับว่าจะให้มารดาพูดคุยกับลูก หรือ ให้ลูกในครรภ์ฟังเพลง หรือคนโบราณบอกว่า ไม่ให้มารดารับประทานอาหารรสเผ็ด เพราะลูกจะได้รับรสเผ็ดไปด้วย ที่กล่าวมาทั้งหมดคือ เด็กยังไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอก มารับรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่ยังอยู่ในครรภ์ ก็รู้อารมณ์ได้ หรือ อย่างไรคะ

ขอความกรุณาอธิบายด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น มีอารมณ์แล้ว เป็นอารมณ์ของชาติก่อน แต่ยังไม่รู้อารมณ์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย เพราะไม่ได้อาศัยทวาร ขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ขณะอุปาทขณะ มีรูปที่เกิดจากกรรมเกิดขึ้นแล้ว ๓ รูป คือ หทยรูป ภาวรูปและกายปสาทรูป แต่ รูปที่เป็น ตา หู จมูก ลิ้น ยังไม่เกิดขึ้น แต่ขณะต่อๆ ไปก็เกิดขึ้น ครับ เมื่อปฏิสนธิจิตดับไป ภวังคจิต เกิดขึ้น รู้อารมณ์ชาติก่อน ภวังคจิตดับไป โลภมูลจิตเกิดขึ้นเสมอ แต่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ยังไม่เจริญเติบโตพอ ยังเล็กมาก แต่เมื่อ ตา หู จมูก ลิ้น กาย เจริญเติบโตในครรภ์ มากแล้ว เด็กก็สามารถรับรู้อารมณ์ ผ่านทางทวารทั้ง ๕ ได้ครับ มีการได้ยินเสียงเพลง มี การเห็นได้ ถ้าเผื่อลืมตา มีการได้กลิ่น ลิ้มรส และรู้กระทบสัมผัสได้ การทานเผ็ดรสจัด ก็มีผลต่อเด็กได้เช่นกัน ครับ เพราะมีการรับรู้อารมณ์ทั้ง ๕ ทวาร ที่เป็นปัญจทวารแล้ว ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 24 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นการเกิดในครรภ์ และต้องเข้าใจก่อนว่า จิตขณะแรกของภพนี้ชาตินี้ เริ่มที่ปฏิสนธิจิต และในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดนั้น ก็มีรูป ๓ กลุ่มเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิต คือ กลุ่มของกายปสาทรูป กลุ่มของภาวรูป กลุ่มของหทยรูป ซึ่งเป็นรูปธรรมที่มีจริง ไม่สามารถมองเห็นได้ และ ขณะนั้น ยังไม่มีแขน ยังไม่มีขา ยังไม่มีอวัยวะส่วนต่างๆ ซึ่งจะค่อยๆ มีขึ้นเจริญเติบโตขึ้นในกาลต่อๆ มา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มีจิตเกิดดับสืบต่อกันอย่างไม่ขาดสาย เมื่อจุติจิตของชาติที่แล้วเกิดแล้วดับไป เป็นเหตุให้ปฏิสนธิจิต เกิดสืบต่อในภพใหม่ชาติใหม่ทันที โดยไม่มีจิตอื่นคั่นเลย ไม่เคยปราศจากจิตเลยแม้แต่ขณะเดียว และจิตทุกขณะที่เกิดขึ้นก็รู้อารมณ์ ตามสมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ ความจริงเป็นอย่างนี้ ซึ่งจะต้องค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เห็นถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ไม่มีใครบังคับบัญชาให้จิต เจตสิก และ รูปเกิดขึ้นได้ แต่ จิต เจตสิก และรูปก็เกิดขึ้นแล้วเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเป็นสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 24 ก.พ. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 24 ก.พ. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 25 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ