จิตมีกำลัง

 
พิมพิชญา
วันที่  26 ก.พ. 2555
หมายเลข  20630
อ่าน  3,324

ได้ยินคนที่สนใจธรรมะทั่วไปกล่าวว่า "ฝึกจิตให้มีกำลัง" เขาบอกว่าฝึกแล้วจะไม่กลัวง่ายและไม่อ่อนไหวต่อรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

อยากทราบคำว่า "จิตมีกำลัง" ในทางพระธรรมที่ถูกต้อง มีไหมคะ แล้วมีวิธีฝึกจริงๆ หรือเปล่า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตเมื่อเกิดขึ้น จะต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยเสมอ ซึ่ง จิตที่มีกำลัง ก็ต้องมีกำลังในทางที่ดี ที่เป็นจิตที่ประกอบด้วยเจตสิกที่ดี จนทำให้มีกำลังในการที่จะรู้ความจริง ของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่ง จิตที่ประกอบด้วยเจตสิกที่ไม่ดี มีอกุศลจิต ไม่มีกำลัง เพราะไม่ได้เห็นตามความเป็นจริง และจิตไม่สงบจากกิเลส จึงไม่กำลัง ในขณะนั้น จิตที่มีกำลัง จึงเป็นจิตที่ประกอบด้วยปัญญาระดับสูง ที่เห็นตามความเป็นจริงของสภาพธรรมว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา

จิตที่มีกำลัง จึงกล่าวได้ทั้ง ๒ นัย คือ จิตที่มีกำลังเพราะสงบจากกิเลส สงบจาก นิวรณ์ด้วยความตั้งมั่นในกุศลจนเป็นฌานจิต ชื่อว่า จิตมีกำลังในขณะนั้น เพราะ ประกอบด้วยปัญญาและตั้งมั่นในกุศล สงบจากอกุศล ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 26 ก.พ. 2555

อีกนัยหนึ่ง จิตที่มีกำลัง เพราะประกอบด้วยปัญญาที่เห็นว่าเป็นแต่เพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เรา แทงตลอดถึงความจริงของสภาพธรรมที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ดังนั้นจึงเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยเจตสิกที่ดี มีศรัทธา สติ ที่มีกำลัง เกิดบ่อยๆ แล้ว และที่สำคัญที่สุด จิตที่ประกอบด้วยปัญญา ที่เป็นปัญญาพละ เป็นปัญญาที่มีกำลัง ที่แทงตลอดตามความเป็นจริงของสภาพธรรม เป็นวิปัสสนาญาณที่เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา ก็ชื่อว่า เป็นจิตที่มีกำลัง เพราะประกอบด้วย ปัญญา สติ ศรัทธา ที่เป็นพละ ที่เป็นกำลัง ครับ และโลกุตตรกุศลก็ชื่อว่า เป็นจิตที่มีกำลังเช่นกัน ที่สำคัญ ไม่มีตัวตนที่จะฝึกให้จิตมีกำลัง แต่ธรรมทำหน้าที่ คือ ปัญญาทำหน้าที่ ปัญญา ค่อยๆ เจริญขึ้น จากการฟังพระธรรม ศึกษาพระรรม ทีละเล็กละน้อย จนเมื่อปัญญาแก่กล้า ย่อมทำให้จิตมีกำลัง เพราะปัญญาเกิดกับจิตที่ดี ครับ

การที่จิตมีกำลังได้ ก็เพราะ ปัญญาความเห็นถูกมีกำลัง คือ สะสมมามาก ก็จะเห็น ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา แต่ไม่ใช่จะกลัว หรือ ไม่กลัว เพราะบางคนไม่กลัวแต่มีปัญญาก็ได้ครับ แต่ต้องเห็นตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ชื่อว่า จิตมีกำลังเพราะปัญญา และวิธีฝึกจิตมีกำลัง ก็ไม่มีวิธีอื่นนอกจากเริ่มจากการศึกษา ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ครับ ปัญญาก็จะเจริญทีละน้อย จนปัญญามีกำลัง จิตก็มีกำลังตามปัญญาที่เพิ่มขึ้น มีกำลัง ไปด้วย ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 26 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สภาพธรรมที่เป็นกิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นสิ่งที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ไม่มีกำลัง ทำให้จิตอ่อนกำลัง ไม่สามารถเป็นกุศลได้เลยในขณะที่เป็นอกุศล เพราะสภาพธรรมเหล่านี้ เกิดร่วมกับจิต ปรุงแต่งให้เป็นอกุศลจิต เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล แต่ถึงแม้ว่าจะสะสมกิเลสมามากเพียงใดก็ตาม กิเลส ก็ไม่ได้เป็นใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่มีกำลัง (เพราะกำลังในที่นี้ ต้องเป็นกำลังของฝ่ายกุศลเท่านั้น) เพราะเหตุว่า สภาพธรรมที่จะดับกิเลสแม้มีมาก ต้องเป็นธรรมฝ่ายดี กล่าวคือ ปัญญา เป็นต้น เท่านั้น

ดังนั้น จากที่เป็นผู้อ่อนกำลังด้วยอกุศลธรรมที่ได้สะสมมาอย่างเนิ่นนาน ก็สามารถที่จะเพิ่มกำลังให้แก่จิตได้ด้วยการสะสมกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน (ในขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น ก็สงบจากอกุศลชั่วขณะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การอบรมเจริญปัญญาจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน

เพราะความเข้าใจถูกเห็นถูก นี้เอง จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ออกห่างจากกิเลสไปตามลำดับ จนกว่าจะสามารถออกได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ กิเลสทั้งหลายก็ถูกดับได้ตามลำดับมรรค กิเลสทั้งหลายไม่ได้เป็นใหญ่อะไร ไม่ได้มีกำลัง ไม่สามารถครอบงำทำอะไรกับสภาพธรรมฝ่ายดีเหล่านี้ได้ แต่ธรรมฝ่ายดี สามารถดับกิเลสได้

จึงสรุปได้ว่า แต่ละคนแต่ละท่านก็มีกิเลสมากด้วยกันทั้งนั้น เพราะสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ (ถ้าเป็นรูปธรรม ก็ไม่มีที่เก็บ) หนทางเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสและสามารถดับได้ในที่สุด คือ การอบรมเจริญปัญญา ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 27 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
พิมพิชญา
วันที่ 28 ก.พ. 2555

สาธุ ขอบพระคุณมากค่ะ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jaturong
วันที่ 28 ก.พ. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
akrapat
วันที่ 28 ก.พ. 2555

จิตที่มีกำลัง ประกอบด้วย โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ