โลกันต์มหานรก กับ อเวจีมหานรก นรกขุมใหนรุนแรงกว่ากัน
ช่วยให้ความรู้ด้วยครับ
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ
(ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น)
ชื่อว่า นรก เป็นภัยที่น่าเกรงกลัวร้ายแรงอย่างยิ่ง
แต่นรกขุมไหนรุนแรงกว่ากันนั้น ไม่สำคัญ
เพราะสิ่งที่ร้ายแรง น่าเกรงกลัวจริงๆ คือ "อกุศล" ทั้งหลาย
หากจะถามว่า "อกุศล" ประเภทใดรุนแรงกว่ากัน
ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าว "อวิชชา" ว่ารุนแรง น่าเกรงกลัวอย่างยิ่ง เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุด
เพราะนำมาซึ่งภัยทั้งปวง ได้แก่
นำมาซึ่งอกุศลทั้งหลาย นำมาซึ่งการเกิดในอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น
และนำมาซึ่ง สังสารวัฏฏ์ ครับ
.ขณะอย่าได้ล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อเวจีมหานรก เป็นนรกขุมที่หนักที่สุด อันหมายถึง ความสืบเนื่องต่อเนื่องไม่ขาดสาย ของเปลวไฟ ที่จะเผาสัตว์นรกอยู่ตลอดเวลาจนกว่าอกุศลกรรมจะหมดสิ้น ส่วน โลกันตริกนรก ก็เป็นนรกขุมหนึ่งที่หนักเช่นกัน แต่ไม่เท่ากับอเวจีมหานรก อันเป็นนรกที่หนาวเหน็บเยือกเย็น สัตว์นรกจะเกาะอยู่ด้านบน ข้างล้าง มีน้ำกรด สัตว์นรกก็จะตกลงไปในน้ำกรดนั้นและละลายเหมือนผงแป้ง โลกันตริกนรกอยู่ในช่องระหว่างจักรวาล เปรียบเหมือน ล้อเกวียนสามล้อชนกัน ตรงกลางที่เป็นช่องว่าง คือ โลกันตริกนรก ซึ่งผู้ที่มีความเห็นผิด เป็นต้น ย่อมตกนรกนี้
ส่วนอเวจีมหานรก ก็เป็นผู้ที่ทำบาปกรรมหนัก จนถึงหนักที่สุด ดังที่พระเทวทัตทำสงฆ์ให้แตกกัน ต้องตกอเวจีมหานรก ตลอดกัปถูกเปลวไฟและหอกทรมานอยู่ตลอดเวลา ครับ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงภูมิขอสัตว์โลกตามความเป็นจริง เพราะเมื่อมีการกระทำกรรม ก็ต้องมีภพภูมิที่จะต้องได้รับผลของกรรมด้วย ผู้ที่ทำบาป อกุศลกรรม ก็มีภพภูมิที่เหมาะสมกับการทำบาป อกุศกรรม มี นรก เป็นต้น พระพุทธองค์ทรงแสดง นรก ให้สัตว์โลกเห็นถึงความทุกข์ทางกายที่เกิดขึ้นอย่างทรมาน เพื่อให้เกิดความสลดใจ และเห็นโทษในการทำบาป อกุศล และเห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลและอบรมปัญญาเพื่อพ้นจากทุกข์ มีการเกิดในนรก เป็นต้น ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นภูมิที่ได้เพราะกรรม ที่เป็นอกุศลกรรมเท่านั้น ไม่ใช่กุศลกรรม กล่าวได้ว่า เป็นภูมิที่ได้โดยง่าย เมื่อมีเหตุที่เป็นอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ ย่อมพาลงไปสู่ที่ต่ำ คือ อบายภูมิเท่านั้น
สำหรับนรก ก็เป็นหนึ่งในอบายภูมิ เป็นภูมิที่ปราศจากความเจริญ ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสเลยทีเดียว นรกขุมที่หนัก คือ อเวจีมหานรก เป็นนรกที่ไม่ว่างเว้นจากเปลวไฟ สัตว์นรกจะถูกเผาไหม้ด้วยไฟตลอดเวลา ยังไม่สิ้นสุดจนกว่าจะสิ้นกรรม
ส่วนโลกันตริกนรก ก็หนักเหมือนกันแต่ไม่เท่ากับอเวจีมหานรก เป็นนรกที่หนาวเย็น มืดสนิท ระยะเวลาในการเกิดและได้รับความทุกข์ทรมานในโลกันตริกนรก ก็ยาวนานมาก เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงในเรื่องของกรรม ผลของกรรม รวมไปถึงเรื่องของอบายภูมิ มี นรก เป็นต้น ก็เพื่อที่จะเตือนให้ทุกคนเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่ประมาทกำลังของกิเลส และไม่ประมาทในการเจริญปัญญา เพื่อที่จะได้รู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง พ้นจากการที่จะต้องเกิดในอบายภูมิ และจะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ในที่สุด ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...