โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 755
……………..
๒. อุปติสสสูตร
ว่าด้วยโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
[๖๘๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียก
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายได้รับคำ
ท่านพระสารีบุตรแล้ว.
[๖๘๙] ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ความปริวิตกแห่งใจได้บังเกิดขึ้นแก่เราผู้เร้นอยู่ในที่ลับอย่างนี้ว่า
โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสพึงบังเกิดขึ้นแก่เรา
เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแห่งสัตว์หรือสังขารใด สัตว์หรือสังขารบางอย่างนั้น
ยังมีอยู่ในโลกหรือ เราได้มีความดำริว่า โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
ไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่เรา เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแห่งสัตว์หรือสังขารใด
สัตว์หรือสังขารบางอย่างนั้น ไม่มีอยู่ในโลกเลย.
[๖๙๐] เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์
ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรดังนี้ว่า ดูก่อนท่านสารีบุตรผู้มีอายุ
โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่ท่าน
เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแลหรือ
พระสารีบุตรกล่าวว่าดูก่อนท่านผู้มีอายุ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
ไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่เรา เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแล
อนึ่งผมดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสัตว์ผู้มีศักดาใหญ่ มีฤทธิ์มาก
มีอานุภาพมาก อันตรธานไปแล้ว ถ้าพระองค์พึงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน
ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก
เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ก็ความจริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการมมังการ และมานานุสัยได้นานแล้ว
เพราะฉะนั้น โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสทั้งหลาย
จึงไม่บังเกิดขึ้นแก่ท่านพระสารีบุตร
เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแล ด้วยประการดังนี้.
จบอุปติสสสูตรที่ ๒
อรรถกถาอุปติสสสูตรที่ ๒
ในอุปติสสสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
คำว่า อตฺถิ นุ โข ตํ กิญฺจิ โลกสฺมึ นี้ ท่านกล่าวหมาย
เอาสัตว์หรือสังขารที่ยิ่งใหญ่. คำว่า สตฺถุปิ โข เต นี้ ท่านพระ-
อานนท์ถามเพื่อจะทราบว่า ความโศกเป็นต้นไม่พึงเกิดขึ้นแก่พระเถระนี้
แม้เพราะความแปรปรวนแห่งพระศาสดาหรือหนอแล เพราะพระอานนท์
เถระมีความพอใจและความรักในพระศาสดาเหลือประมาณ.
คำว่าทีฆรตฺตํ ท่านกล่าวหมายเอาเวลาที่ล่วงไปตั้งแต่วันที่ทรงแสดง
เวทนาปริคคหสูตรแก่ทีฆนขปริพาชก ที่ประตูถ้ำสุกรขาตา. ก็ในวันนั้น
พระเถระถอนกิเลสที่ไปตามวัฏฏะเหล่านี้ได้แล้วแล.
จบอรรถกถาอุปติสสสูตรที่ ๒
ผู้ที่บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ แม้มีทุกข์กาย เพราะเป็นผลของกรรม แต่
ท่านไม่มีทุกข์ใจ อีกต่อไป เพราะท่านดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอเพิ่ม ด้วยค่ะ...