พระแจกอาหาร

 
p2511ksc.th.com
วันที่  2 เม.ย. 2555
หมายเลข  20899
อ่าน  7,027

อาหารที่พระบิณฑบาต บางครั้งท่านแจกแก่ญาติโยมก่อนถึงวัดโดยที่ยังไม่ได้ผ่านการสวดมนต์พิธีการต่างๆ จะทำได้หรือไม่ ผู้รับจะผิดหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 เม.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การที่พระให้อาหาร ก่อนที่ตัวเองจะถึงวัด มีขอทาน ยาจก เป็นต้น อันนี้ไม่สมควร เป็นอาบัติได้ เพราะเป็นการทำให้ศรัทธาของผู้ถวายบิณฑบาตตกไป คือ หมดความเลื่อมใสได้ เช่น ตั้งใจถวายพระท่าน แต่พระก็ไปให้คนอื่นก่อนที่ตัวเองจะฉัน ก็เลยทำให้ ผู้ที่ถวายหมดความเลื่อมใสได้ การที่พระจะสละได้ ให้คนอื่นได้ ก็คือ เมื่อกลับถึงวัดทำการฉันเรียบร้อยแล้ว จึงแบ่งส่วนที่เหลือให้ผู้อื่นได้ครับ อย่างนี้ไม่อาบัติ แต่ถ้าไปแบ่งก่อนที่ยังไม่ไ่ด้ฉัน ทำกิจให้เรียบร้อย ต้องอาบัติครับ แต่เว้นไว้แต่กรณีที่พระท่านแบ่งให้ โยม มารดา บิดาก่อน แม้ตัวเองยังไม่ได้ฉัน ไปแบ่งก่อน ไม่เป็นอาบัติ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ ครับ ส่วนผู้ที่รับของจากพระภิกษุ ไม่ว่าจะแบ่งก่อน แบ่งทีหลัง ไม่ผิดอะไร ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 เม.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่จะรู้ว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้องนั้น ต้องอาศัยการศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องจริงๆ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว พระภิกษุ ท่านจะไม่เป็นผู้สะสมอาหาร เมื่อตนเองฉันเสร็จแล้ว อาหารที่เหลือจากการฉันแล้ว ก็ไม่สามารถเก็บไว้บริโภคในวันอื่นๆ ได้ ต้องสละซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น และไม่ทำให้ตนเองเป็นอาบัติในข้อนี้ด้วย ถ้าพระภิกษุได้รับอาหารบิณฑบาตแล้ว ยังไม่ได้ฉัน แล้วนำไปให้แก่ผู้อื่น ยกเว้น มารดา บิดา เป็นอาบัติแก่พระภิกษุ เพราะเป็นการทำให้ผู้ถวายเกิดความเสียใจ ไม่เลื่อมใส เป็นการยังศรัทธาของผู้ถวายให้ตกไป

สิ่งสำคัญ คือ การศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ ซึ่งจะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดีเป็นอย่างยิ่ง จะทำให้ได้กระทำเฉพาะในสิ่งที่ถูกต้อง และงดเว้นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้มีความประมาท
วันที่ 3 เม.ย. 2555

เคยพบเหตุการณ์ที่พระนำอาหารที่มีผู้มาใส่บาตรให้แก่แม่ค้าซึ่งเป็นผู้คุ้นเคยกัน เพราะอยู่ในเส้นทางที่บิณฑบาตประจำ ในเวลานั้นรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน แต่ก็นึกว่าตัวเองไปเพ่งโทษท่านเกินไป หรือจิตเราไม่อนุโมทนากับการให้ทานของท่าน หรือไม่พลอยยินดีกับผู้ที่ได้รับแจกอาหาร เพิ่งทราบจากการสนทนานี้เองว่า มีพระบัญญัติห้ามเรื่องนี้ไว้ เมื่อก่อนไม่รู้ว่ามีบัญญัติ ก็นึกว่าเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการให้ทาน พยายามหาทางให้จิตอนุโมทนาในการกระทำนั้น (ซึ่งผิดเพราะทำไม่ได้) พอมาตอนนี้รู้ว่ามีพระบัญญัติห้ามไว้ จิตก็กลับไปนึกติเตียนท่านอีกว่า พระท่านไม่ควรทำ

กุศลเกิดยากกว่าอกุศลจริงๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 3 เม.ย. 2555

ยุคสมัยนี้บวชเป็นพระภิกษุแล้วประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยได้ยาก เพราะขาดการศึกษาพระธรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Noparat
วันที่ 3 เม.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jaturong
วันที่ 4 เม.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
dhanan
วันที่ 4 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
aurasa
วันที่ 13 เม.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ

สำหรับความกระจ่างในเรื่องพระวินัย

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ