วิตก ๒ ประการ ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

 
pirmsombat
วันที่  13 เม.ย. 2555
หมายเลข  20958
อ่าน  1,640

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 268

มีอธิบายว่า วิตก ๒ ประการ ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ก้าวล่วงขอบเขตกันและกันเอง และโดยชอบใน วิสัยของตนๆ ย่อมเป็นไปเนืองๆ ถามว่า ก็อะไรเป็นวิสัยของวิตกเหล่านั้น หรืออะไรเป็นขอบเขต และวิตกเหล่านั้นไม่ก้าวล่วงขอบเขต แล้วเป็นไป เนืองๆ อย่างไร.

ตอบว่า วิตก ๒ อย่างเหล่านี้ คือ เขมวิตก ๑ ปวิเวกวิตก ๑ ชื่อว่าวิตก. ในวิตก ๒ อย่างนั้น เขมวิตกประกอบด้วยกรุณาอย่าง วิเศษของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วยังได้ประกอบด้วยเมตตาและมุทิตาอีก เพราะ ฉะนั้น เขมวิตกนั้นพึงทราบว่า เป็นส่วนเบื้องต้น และประกอบด้วยสมาบัติ คือมหากรุณา และสมาบัติมีเมตตาเป็นต้น. ส่วนปวิเวกวิตกเป็นส่วนเบื้องต้น และประกอบด้วยผลสมาบัติ ยังได้รับทิพวิหารธรรมเป็นต้นอีก. วิตกเป็น วิสัยของวิตก ๒ อย่างแม้นั้น ด้วยประการฉะนี้ เพราะฉะนั้น ความเป็น ไปแม้เป็นไปอยู่มากในสันดานหนึ่ง ด้วยการแทรกซึมเข้าไปในขอบเขต ย่อมไม่มี เพราะเป็นไปในวิสัยร่วมกันตลอดเวลา.

ในวิตก ๒ อย่างนั้น เขมวิตกพึงให้แจ่มแจ้ง ด้วยการหยั่งลงสู่พระกรุณาของ พระผู้มีพระภาคเจ้า ปวิเวกวิตกพึงให้แจ่มแจ้งด้วยสมาบัติทั้งหลาย. ต่อไปนี้เป็นความแจ่มแจ้งในเขมวิตกนั้น ควรกล่าวถึงเขมวิตก ด้วยอำนาจ ปฐมฌาน แม้ในสมาบัติในส่วนเบื้องต้น แห่งมหากรุณาสมาบัติ ด้วยการเห็น อาการมีความที่โลกสันนิวาสเป็นของร้อนเป็นต้น ด้วยไฟ มีไฟ คือราคะเป็นต้น โดยนัยมีอาทิว่า โลกนี้ถูกเผาให้ร้ อน มีแต่ทุกข์ ดังนี้.

สมดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า พระมหากรุณาในสัตว์ทั้งหลายหยั่งลง แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพุทธะ ผู้ทรงเห็น โดยอาการเป็นอันมากว่า โลกสันนิวาสร้อน โลกสับสนวุ่นวาย เดินทางผิด ถูกชรานำเข้าไปไม่ยั่งยืน ไม่มีที่ต้านทาน. ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็น เจ้าของ ละทุกสิ่งทุกอย่างไป พร่อง ไม่อิ่ม เป็นทาสของตัณหา โลกสันนิวาส ไม่มีที่ต้านทาน ไม่มีที่ซ่อน ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่อาศัย ฟุ้งซ่าน ไม่สงบ มี ลูกศร ถูกลูกศรเป็นอันมากทิ่มแทง ปิดกั้นด้วยความมืดคืออวิชชา ถูกล้อม ด้วยกรง คือกิเลส ตกอยู่ในอวิชชา มืดตื้อ ถูกร้อยรัด ยุ่งดุจด้ายของช่างหูก ร้อยรัดเป็นกลุ่มก้อน เป็นดุจหญ้ามุงกระต่ายและหญ้าปล้อง ไม่พ้นอบาย ทุคติวินิบาต สงสาร.

ทรงเห็นว่า โลกถูกเสียบแทงโดยโทษอันมีพิษคืออวิชชา เป็นโทษ เพราะกิเลส รุงรังยุ่งเหยิงด้วยราคะ โทสะ โมหะ ถูกสวมมัดด้วยตัณหา ถูกตาข่ายคือตัณหาครอบ ถูกกระแสคือตัณหาพัดไป ประกอบด้วยเครื่องผูก คือตัณหา หมกมุ่นด้วยอนุสัยคือตัณหา ร้อนด้วยความร้อนคือตัณหา ถูกความ เร่าร้อนคือตัณหาเผาผลาญ สวมมัดด้วยทิฏฐิ ถูกตาข่าย คือ ทิฏฐิครอบถูกกระแส คือ ทิฏฐิพัดไป ประกอบด้วยเครื่องผูก คือ ทิฏฐิ หมกมุ่นด้วยอนุสัย คือ ทิฏฐิ ร้อนด้วยความร้อน คือ ทิฏฐิ ถูกความเร่าร้อน คือ ทิฏฐิเผาผลาญ เข้าถึงชาติ ติดตามด้วยชรา ถูกพยาธิครอบงำ ถูกมรณะกำจัด ตกถึงทุกข์ ห่อหุ้มด้วยตัณหา ล้อมด้วยกำแพง คือ ชรา แวดวงด้วยบ่วง คือ มัจจุ มีเครื่องผูกพัน มาก ผูกด้วยเครื่องผูก คือ

ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลสและทุจริต เดินไปในที่คับแคบมาก หมกมุ่นด้วยเครื่องพัวพันมาก ตกลงไปในเหวใหญ่ เดินไปในที่กันดารมาก เดินไปสู่สงสารใหญ่ หมุนกลับ ลงไปในหลุมใหญ่ ตกลงไปในบ่อลึก โลกสันนิวาสถูกกำจัด ร้อนด้วยไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ชุ่มไปด้วย ชาติ ฯลฯ อุปายาส ย่อมลำบาก ไม่มี ที่ต้านทานเป็นนิตย์ ถูกลงอาชญา โจรชุกชุม ผูกพันอยู่ในวัฏฏะ ปรากฏใน ตะแลงแกง ไร้ที่พึ่ง น่าสงสารอย่างยิ่ง ถูกทุกข์ทิ่มแทง ถูกเบียดเบียนตลอด กาลนาน กำหนัดอยู่เป็นนิตย์ กระหายอยู่เป็นนิตย์ บอด มองไม่เห็น ตาเสีย ไม่เป็นผู้นำ แล่นไปนอกลู่ เดินไปผิดทาง ตกลงไปในห้วงใหญ่ หมกมุ่น ด้วยทิฏฐิ ๒ ปฏิบัติผิดด้วยทุจริต ๓ ประกอบด้วยโยคะ ๘ ร้อยรัดด้วยเครื่อง ร้อยรัด ๔ ยึดมั่นด้วยอุปาทาน ๔ เข้าถึงคติ ๕ กำหนัดด้วยกามคุณ ๕ ถูก นิวรณ์ ๕ ทับ ทะเลาะกันด้วยเหตุวิวาท ๖ กำหนัดด้วยหมู่ตัณหา ๖ หมกมุ่น ด้วยทิฏฐิ ๖ เสาะส่ายไปด้วยอนุสัย ๗ ประกอบด้วยสังโยชน์ ๗ เย่อหยิ่งด้วย มานะ ๗ หมุนไปตามโลกธรรม ๘ นำไปด้วยมิจฉัตตะ ๘ ประทุษร้ายด้วย บุรุษโทษ ๘ ผูกอาฆาตด้วยอาฆาตวัตถุ ๙ เย่อหยิ่งด้วยมานะ ๙ กำหนัดด้วย ธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล ๙ เศร้าหมองด้วยกิเลสวัตถุ ๑๐ ผูกอาฆาตด้วยอาฆาต วัตถุ ๑๐ ประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประกอบด้วยสังโยชน์ ๑๐ นำไป ด้วยมิจฉัตตะ ๑๐ ประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิมีวัตถุ ๑๐ ประกอบด้วย อันตคาหิกทิฏฐิมีวัตถุ ๑๐ หน่วงเหนี่ยวด้วยธรรมทำให้เนิ่นช้า คือ ตัณหา ๑๐๘ ห มกมุ่น ด้วยทิฏฐิ ๖๒


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
kinder
วันที่ 14 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nong
วันที่ 14 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 14 เม.ย. 2555

สำหรับปุถุชนมีวิตก 3 อย่าง คือ

1. กามวิตก การเที่ยวไปในอารมณ์ที่ติดข้องต่างๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

2. พยาบาทวิตก การปองร้าย การคิดร้าย

3. วิหิงสาวิตก การตรึก หรือ คิดที่จะเบียดเบียนคนอื่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 14 เม.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอและทุกๆ ท่านครับ


 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pirmsombat
วันที่ 14 เม.ย. 2555

ขอบคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเซจาน้อย และ ทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 25 ส.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ภาคภูมิอรุณศรี
วันที่ 19 ก.ย. 2567

อนุโมทนากุศลทุกประการครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ