พอทนได้อยู่หรือไม่
ใคร่อยากศึกษาพระสูตรหนึ่งครับ ที่พระพุทธองค์ได้ทรงไปเยี่ยมเยียนสาวก และได้ถามสารทุกข์ในการดำเนินชีวิตของท่านสาวกเหล่านั้นครับ ผมพอจะจำได้ว่าพระองค์ได้ทรงถาม มีใจความที่ว่า การดำเนินชีวิตในเพศบรรพชิตนี้ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ยังพอทนได้อยู่หรือไม่ แม้ท่านสาวกเหล่านั้นก็ได้ทรงเป็นพระอรหันต์แล้วครับ ผมไม่ทราบว่าอยู่ในส่วนไหนของพระไตรปิฎกครับ
รบกวนผู้มีความรู้แนะนำครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำกล่าวที่ว่า เธอพออดทนได้หรือพอยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ เป็นคำกล่าวที่เป็นการถามสารทุกข์ด้วยเมตตา ที่เป็นการปฏิสันถารนั่นเองครับ เหมือนเวลาเราเจอกัน ก็จะถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม ก็สามารถถามด้วยจิตที่มีเมตตา หวังดีเป็นมิตร เป็นการทำปฎิสันถารกัน ด้วยการถามอันสมควร ซึ่งคำนี้ ที่ว่า เธอพออดทนได้หรือ พอยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ จึงเป็นคำที่ใช้กันทั่วไป ในสมัยนั้น ที่เวลาเจอกันก็ถามสารทุกข์กัน แม้ชาวบ้านก็ใช้กัน รวมทั้งพระพุทธเจ้าก็ทรงใช้คำนี้ ถามถึงสารทุกข์กับพระสาวก และพระอาคันตุกะ ที่เดินทางมาก็จะถามด้วยคำนี้ อันเป็นการทำปฏิสันถารกับพระสาวก ครับ ซึ่ง ธรรมดาของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ประการหนึ่งใน ๓๐ ข้อ พระองค์จะต้องทำปฏิสันถาร คือ สอบถาม ถามสารทุกข์กับ พระภิกษุอาคันตุกะที่เดินทางมาเฝ้าพระองค์ทุกครั้ง ด้วยคำที่ว่า เธอพออดทนได้หรือ พอยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ...
[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 748
บัดนี้ เราจะประกาศธรรมดาทั่วไปของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ธรรมดาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มี ๓๐ ถ้วน คือ
๑. พระโพธิสัตว์ผู้มีภพสุดท้าย มีสัมปชัญญะรู้ตัว ลงสู่พระครรภ์ของพระชนนี
๒. พระโพธิสัตว์นั่งขัดสมาธิในพระครรภ์ของพระชนนีหันพระพักตร์หันพระพักตร์ออกไปภายนอก ...
๒๖. ทรงทำปฏิสันถารกับภิกษุอาคันตุกะ
ซึ่งข้อความในพระไตรปิฎก ก็มีที่แสดงไว้ที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอรหันต์มีพระมหากัสสปะ เป็นต้น และตรัสกับพระสาวกอื่นๆ ด้วย ดังตัวอย่างเช่น
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 222
๔. ปฐมคิลานสูตร
พระมหากัสสปหายอาพาธด้วยโพชฌงค์ ๗
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ก็สมัยนั้น ท่านพระมหากัสสปอาพาธ ไม่สบาย เป็นไข้หนัก อยู่ที่ปิปผลิคูหา.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากที่เร้นในเวลาเย็นเข้าไปหาท่านพระมหากัสสปถึงที่อยู่แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสถามท่านพระมหากัสสปว่า ดูก่อนกัสสป เธอพออดทนได้หรือ พอยังอัตภาพให้เป็นไปได้หรือ ทุกขเวทนาคลายลง ไม่กําเริบขึ้นแลหรือความทุเลาย่อมปรากฏ ความกําเริบขึ้นไม่ปรากฏแลหรือ
แสดงถึงการดำเนินชีวิตของพระอรหันต์ มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น ที่มีการดำเนินชีวิตเป็นปกติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม เพียงแต่มีปัญญาที่เข้าใจความจริงและก็ใช้ชีวิตด้วยจิตที่ดีงาม แม้การถามสารทุกข์ ก็เป็นการกระทำด้วยจิตที่ดี ท่านจึงไม่ละเว้นและประพฤติเป็นปกติในสิ่งที่ดี มีการปฏิสันถาร ถามสารทุกข์ ด้วย ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอรหันต์ เป็นผู้ดับกิเลสทั้งปวงอย่างหมดสิ้น ไม่มีเหลือ เป็นผู้ห่างไกลแสนไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย จิตของพระอรหันต์มีเพียง ๒ ชาติเท่านั้น คือ วิบากชาติ กับ กิริยาชาติ ชีวิตของพระอรหันต์ก็ดำเนินไปอย่างพระอรหันต์ซึ่งเป็นผู้ที่หมดกิเลสแล้ว จนกว่าจะดับขันธปรินิพพาน ความประพฤติทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวันนั้น ไม่เป็นไปกับด้วยกิเลสใดๆ เลย รวมถึงการสนทนาปราศัย การทักทายถามสารทุกข์ผู้อื่น ซึ่งก็เป็นชีวิตปกติด้วยครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ เช่น เวลาที่พระภิกษุต่างเมืองมา พระพุทธเจ้าก็จะปฏิสันถาร คือ การต้อนรับ การทักทาย การสอบถามเรื่องการแสวงหาอาหาร การบิณฑบาต เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องความเจ็บไข้ ฯลฯ และที่สำคัญ พระอรหันต์ท่านดับกิแลสหมดแล้ว ท่านไม่มีทุกข์ใจ แต่ท่านยังมีทุกข์ทางกายที่เป็นผลของอกุศลกรรม ค่ะ