ณ กาลครั้งหนึ่ง ท่านอาจารย์สุจินต์ ที่ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ๒๘ เมษายน ๒๕๕๕

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  4 พ.ค. 2555
หมายเลข  21073
อ่าน  2,212

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ไปสนทนาธรรมภาคภาษาอังกฤษ กับ กลุ่มชาวต่างชาติที่ศึกษาพระธรรม

กับท่านอาจารย์ ที่ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก

ด้านหลังสวนเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท ระหว่างเวลา ๑๔.๐๐ - ๑๖.๓๐ น.

บุคคลทั่วไป สามารถเข้าร่วมรับฟังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีกาแฟและของว่างบริการฟรี

สำหรับท่านที่สนใจที่จะเข้าร่วมฟังในครั้งต่อไป สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่

องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก โทรศัพท์ 02 6611284-7

"...At every moment there is Dhamma (realities) , so at this very moment thetruth of Dhamma can be verified. We do not have to look for Dhamma anywhere else because reality arises and falls away every instant through the eyes, ears, nose, tongue, body and mind. In order to be able to understand and to become familiar with Dhamma we should listen to the teachings and learn more about the things which are real and which appear now..."

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peeraphon
วันที่ 4 พ.ค. 2555

Dialog จากท่านอาจารย์สุจินต์ครับ บางตอนมีเสียงรบกวน และไม่ชัดครับ

And it’s now, that’s why we talk about dhamma, we don’t have to go away from what we’re saying and when there’s understanding, We’re here because cannot escape from Dhamma at all. Who can get away from Dhamma? Noone, because Dhamma now has to “listen”, it appears as it is, just straight very shortly and very rapidly and noone can find it anywhere at all because it is completely “gone”.

และในตอนนี้ เราถึงพูดเรื่องธรรมมะกัน. ก็หนีไม่พ้นในสิ่งที่เราพูดกันอยู่ และหนีไม่พ้นจากความเข้าใจ. เรามาอยู่ที่นี่ก็เพราะทุกอย่างคือธรรมมะ เราจะหนีจากธรรมมะได้คะ? ไม่มี เพราะขณะนี้ก็มีเสียงปรากฏ อย่างรวดเร็ว และดับไปไม่เหลือเลย

So, Dhamma is “now”, When we use the word dhamma, Dhamma is Dhamma and it is no belong to anyone at all………One reality cannot be mixed with the others…..Noone can change it, and that’s the meaning of the ABSOLUTE reality. When we talk about hardness now, can anyone change it (states) to be sweet or smell, noone can do anything at all. Because, before we can think about it, it’s gone unknowing all the time, unknowingly, that’ why it takes times to understand whatever appears…. from what we’re doing. That’s absolute reality.

เพราะฉะนั้น ธรรมมะ คือขณะนี้. ในเมื่อเราใช้คำว่า ธรรมมะ. ธรรมะไม่เป็นของใครทั้งนั้น ธรรมมะคือสิ่งที่มีจริงๆ ที่ไม่ปะปนกับสิ่งอื่นๆ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมมะได้ และนี่คือสิ่งที่มีจริงๆ อย่างแน่แท้. เมื่อเราพูดถึงความแข็ง จะมีใครที่จะสามารถเปลี่ยนความแข็งไปเป็น ความหวาน หรือเปลี่ยนความแข็งไปเป็นกลิ่นได้. แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถทำได้. เพราะก่อนที่เราจะคิดถึงสิ่งที่ปรากฏ สิ่งที่ปรากฏนั้นก็ดับไปแล้ว ด้วยความไม่รู้. เพราะฉะนั้น เราต้องใช้เวลาในการศึกษา และเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ และนี่คือสิ่งที่มีจริงๆ ....

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
daris
วันที่ 4 พ.ค. 2555

วันนั้นได้มีโอกาสร่วมสนทนา และได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์สุจินต์และท่านผู้ร่วมสนทนาที่มีความรู้ความเข้าใจธรรมหลายท่าน ช่วยอธิบายไขข้อข้องใจหลายประการ เป็นพระคุณอย่างที่สุด

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมทนากุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
aurasa
วันที่ 5 พ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต กับทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 5 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kinder
วันที่ 5 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เข้าใจ
วันที่ 5 พ.ค. 2555

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เซจาน้อย
วันที่ 5 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ท่านอาจารย์ไม่เบื่อเลยที่จะพูดซ้ำๆ บ่อยๆ "

"เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ฟังจนกว่าปัญญาจะเกิดขึ้น"

"ทำหน้าที่ระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฎขึ้นตามความเป็นจริงขณะนี้"

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย ภู่งามและทุกๆ ท่านครับ


 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พรรณี
วันที่ 7 พ.ค. 2555

สมัยที่ดิฉันทำงานอยู่แถวซอยอโศก ถนนสุขุมวิท เมื่อหลายสิบปีก่อน ผ่านตึกนี้ทุกเช้าพอเห็นภาพอีกครั้งก็จำได้ค่ะว่าเคยเห็นมาแล้ว สิ่งที่เห็นมันดับไปแล้วทุกขณะ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมคงไม่เข้าใจค่ะ กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
raynu.p
วันที่ 8 พ.ค. 2555

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Joe22
วันที่ 12 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่วันชัย ภู่งามและผู้อ่านทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 14 พ.ค. 2555
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wanipa
วันที่ 16 พ.ค. 2555

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และขออนุโมทนาบุญค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ