ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๓๘
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๘]
* ยาก กว่าจะได้ยินได้ฟังพระธรรม และสิ่งที่มีจริง ไม่ง่ายที่จะรู้
* รู้สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ จึงจะชื่อว่าเป็นผู้รู้จริงๆ
* ถ้าไม่มีวิชชา ก็ไม่สามารถละอวิชชาได้
* คนส่วนใหญ่ ละเลยความเข้าใจ
* เกิดแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีกเลย นี้แหละคือความหมายของขันธ์
* โกรธแล้ว ใครมีความสุขบ้าง?
* พระธรรมทั้งหมดที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มาตรฐาน เพราะมาตรฐาน คือ ความจริง
* พระธรรมทั้งหมดที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แสดงถึงสิ่งที่มีจริง แล้วจะผิดได้อย่างไร
* พระธรรมแต่ละคำ เพื่อให้เข้าใจจริงๆ เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน
* ไม่มีใครดำเนินธรรม แต่ธรรมมีแล้ว เกิดแล้วเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
* ขณะสุดท้ายของชีวิตนี้ จะไม่ให้เป็นขณะสุดท้ายของชีวิต ก็ไม่ได้
* เรื่องที่จะรู้แจ้งในสภาพธรรมจริงๆ เป็นเรื่องเดียว คือ การอบรมเจริญปัญญา
* ถ้าไม่มีการฟังพระธรรมบ่อยๆ ความสงสัยก็ต้องมี การไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม ก็ต้องเพิ่มขึ้น และความเห็นผิด ก็อาจจะมีได้ ซึ่งจะขาด การฟังพระธรรมไม่ได้เลยจริงๆ
* กิเลสที่มีอยู่ ใครคิดว่า ละง่าย?
* การละกิเลส สละกิเลส เริ่มได้แม้ในขณะนี้ แม้ในขณะที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ก็ละ ก็สละซึ่งความไม่เข้าใจ
* ขณะที่เข้าใจ ไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ เกิดขึ้นเลย
* วันหนึ่งๆ ไม่ควรประมาทอกุศล
* จากที่ไม่มั่นคง ก็จะมีความมั่งคงยิ่งขึ้นได้ ด้วยการฟังพระธรรม
* ปัญญา ไม่หวั่นไหว เพราะขณะที่หวั่นไหวเป็นอกุศล
* ทุกขณะของชีวิตมีแต่ความเกิดขึ้นเป็นไปของจิตแต่ละขณะๆ จิตเห็น ไม่ใช่โกรธ
* ฟังพระธรรม ทำให้ค่อยๆ เข้าใจจริงๆ ว่า ไม่มีเรา ไม่มีเขา มีแต่ธรรมเท่านั้น
* โลภะ เป็นธรรม โทสะ ก็เป็นธรรม สิ่งที่มีจริงเป็นธรรมทั้งหมด
* อกุศลของเขา ก็ติดตามเขาไป อกุศลของเราก็ติดตามเราไปเช่นกัน
* ที่ติดข้องยินดีพอใจ ก็เพราะความไม่รู้ (อวิชชา)
* ปัญญาเกิดขณะใด ก็คุ้มครองให้ไม่เข้าใจผิด
* ถ้าไม่ศึกษาพระธรรม จะรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงได้อย่างไร?
* ปัญหาอยู่ที่อกุศล แต่ถ้าเป็นกุศลแล้วไม่สามารถทำให้เกิดปัญหาได้เลย
* การช่วยเหลือที่ดีที่สุด คือ การช่วยให้บุคคลอื่นได้เข้าใจพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ถึงการดับทุกข์ได้อย่างแท้จริงและเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดด้วย
* เกิดมาแล้ว กิน นอน ติดข้อง ทำอะไรหลายๆ อย่างมากมาย แล้วทำสิ่งที่เป็นประโยชน์บ้างหรือยัง?
* ประโยชน์ที่เกิดมา ณ แผ่นดินนี้ โลกนี้ ชาตินี้ อยู่ที่การมีโอกาสได้เข้าใจพระธรรม
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๓๗ ได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๗
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
"การช่วยเหลือที่ดีที่สุด คือ การช่วยให้บุคคลอื่นได้เข้าใจพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ถึงการดับทุกข์ได้อย่างแท้จริง และ เป็นประโยชน์อย่างสูงสุดด้วย"
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนา ครับ ขอร่วมแบ่งปันธรรม ให้สหายธรรมทั้งหลาย ครับ
- เมื่อกระทบสิ่งที่ไม่น่าพอใจแล้วหงุดหงิด ขณะนั้นทราบได้ว่าจะต้องเป็นอุปนิสัยที่ได้สะสมมา ทำให้มีความขุ่นใจมีความไม่พอใจอยู่บ่อยๆ เนืองๆ มากกว่าผู้ที่มีความอดทน เพราะเมื่อเป็นอกุศลของตนเอง ตนเองก็จะเป็นผู้ได้รับโทษจากอกุศลของตนเอง คนอื่นจะทำโทษให้แก่บุคคลนั้นไม่ได้เลย นอกจากกิเลสของตนเองเท่านั้น
- อธิษฐานบารมี คือ มีความตั้งใจมั่นที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ถึงแม้ว่าจะเป็นหนทางที่ยาวไกลมากนานมาก แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีความตั้งใจมั่น สักวันหนึ่งก็ย่อมจะถึงได้ การตั้งใจมั่นในชาตินี้ ควรเป็นความตั้งใจมั่นที่จะอบรมเจริญกุศลทุกประการ จนกว่าจะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ไม่เปลี่ยนความปรารถนาหรือไม่เปลี่ยนความตั้งใจไปเป็นอย่างอื่น
- พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้น ไม่พ้นจากปกติในชีวิตประจำวัน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โลภะบ้าง โทสะบ้าง กุศลบ้าง เมตตาบ้าง พระองค์ทรงแสดง สภาพธรรมไว้โดยละเอียด ถ้าเข้าใจว่าขณะนี้ปฏิบัติธรรมไม่ได้ ก็ไม่ตรงตามพระไตรปิฎก เพราะผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจธรรมนั้น รู้แจ้งอริยสัจธรรมในชีวิตประจำวันปกตินี่เอง ปัญญาสามารถรู้ความจริงได้ทุกอย่าง แต่เมื่อไม่ใช่ปัญญาก็ไม่สามารถรู้ความจริงในขณะนี้ได้ ทุกอย่างไม่เที่ยง แล้วเราก็จะอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน เพราะฉะนั้น ในขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ก็ทำประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือไม่เอาความทุกข์ไปให้ใคร แล้วไม่เอาความทุกข์มาให้ตัวเราด้วย
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง...
ขออนุโมทนาครับ
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง...
"กราบอนุโมทนาค่ะ"
* ปัญญาเกิดขณะใด ก็คุ้มครองให้ไม่เข้าใจผิด
* วันหนึ่งๆ ไม่ควรประมาทอกุศล
* ถ้าไม่ศึกษาพระธรรม จะรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงได้อย่างไร?
* ถ้าไม่มีวิชชา ก็ไม่สามารถละอวิชชาได้
* ปัญหาอยู่ที่อกุศล แต่ถ้าเป็นกุศลแล้วไม่สามารถทำให้เกิดปัญหาได้เลย
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"สนนทนาธรรมไม่ใช่เพื่อจับผิดผู้อื่น"
"เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ไม่ใช่บ่นเพ้อพระธรรม"
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และอนุโมทนาอาจารย์ คำปั่นและทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ละเลยกุศลเจตนาและกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขออนุโมทนา
สาธุ
"ปัญหาอยู่ที่อกุศล แต่ถ้าเป็นกุศลแล้วไม่สามารถทำให้เกิดปัญหาได้เลย"
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ