การปฏิบัติและเข้าใจธรรมอย่างง่ายๆ

 
dets25226
วันที่  18 พ.ค. 2555
หมายเลข  21129
อ่าน  1,323

"แม้ได้ชื่อว่าเป็น "องค์มรรค" ทางหลุดพ้น บุคคลก็อาจปฏิบัติหรือบำเพ็ญได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ขอเพียงเข้าใจเทคนิคเล็กน้อย"

ข้อนี้ ผมสงสัยอยู่ เรียนถามข้อเท็จจริง และความเข้าใจถูกต้อง

ด้วยความเคารพอย่างสูง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างมาก แม้แต่หนทางการดับกิเลส ที่เป็นอริยมรรคอันเป็น มรรคสัจจะ ข้อที่ ๔ ก็ละเอียดลึกซึ้ง แม้พระพุทธเจ้า ก็ต้องบำเพ็ญบารมีมา ๔ อสงไขย แสนกัป กว่าที่จะได้พบหนทาง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ และปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรม ก็ใช้ระยะเวลายาวนาน ต้องอบรมบุญบารมีมามากมายนับชาติไม่ถ้วน แม้พระอริยสาวก กว่าที่จะบรรลุธรรม ก็ต้องอบรมบุญบารมีมานับชาติไม่ถ้วน กว่าจะบรรลุธรรมได้ ดังนั้น อริยมรรคมีองค์ ๘ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เป็นธรรม ที่ละเอียดลึกซึ้ง บัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ คือ ผู้ที่อบรมปัญญามาอย่างยาวนานนับชาติไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะรู้ได้ ครับ

ดังนั้น ที่กล่าวว่า ผู้ที่จะปฏิบัติ องค์มรรค คือ หนทางดับกิเลส สามารถปฏิบัติด้วยวิธีง่ายๆ ขอเพียงรู้เทคนิค ในความเป็นจริงแล้ว เทคนิคไม่มี ทางลัดไม่มี เพราะ หนทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่การเจริญอริยมรรค คือ การรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเท่านั้น และต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระอริยสาวก ก็ไม่ได้มีวิธีทางลัด เทคนิคที่ทำให้ปฏิบัติได้เร็ว เพราะ สัตว์โลก สะสมกิเลสมามาก จะทำให้เจริญอริยมรรคที่เป็นธรรมที่ทวนกระแสกิเลสง่ายๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ครับ

ท่านเหล่านั้นก็ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม โดยไม่มีวิธีลัด เทคนิคอะไรเลย ที่จะทำให้ง่าย ในการเจริญอบรมปัญญาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ค. 2555

และ ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงอีกครับว่า สัจจะเบื้องปลาย คือ อริยมรรค และ พระนิพพาน เห็นได้ยาก เพราะ ลึกซึ้ง ลึกซึ้งด้วยหนทางการอบรม และ การจะถึงการประจักษ์แจ้งครับ ดังนั้น จึงไม่ใช่ง่ายเลย หรือ มีเทคนิคที่จะทำให้ปฏิบัติได้ง่ายและเร็ว ครับ และ พระองค์ยังแสดงว่า ใครที่จะอบรม อริยมรรค ที่คิดว่าง่าย เปรียบเหมือน เอามือที่เรายืนอยู่บนพื้นดินไปจับ พรหมที่อยู่สูงสุด ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ครับ ดังข้อความ ในพระไตรปิฎกที่ว่า

[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 360

ในสัจจะเหล่านั้น สัจจะ ๒ เบื้องต้น ชื่อว่า ลึกซึ้ง เพราะเห็นได้ยาก สัจจะ ๒ เบื้องหลังชื่อว่า เห็นได้ยาก เพราะลึกซึ้ง. ความจริง ทุกขสัจปรากฏตั้งแต่เกิดมา ถึงกับกล่าวกันว่าทุกข์หนอ ในเวลาที่ถูกตอและหนามตำเป็นต้น. แม้สมุทัยสัจก็ปรากฏตั้งแต่เกิดมา ด้วยอำนาจอยากเคี้ยว อยากกินเป็นต้น. แต่แม้ทั้งสองสัจจะนั้นก็ชื่อว่าลึกซึ้ง โดยลักษณะและการแทงตลอด. สัจจะ ๒ นั้นชื่อว่าลึกซึ้ง เพราะเห็นได้ยาก ด้วยประการฉะนี้. ส่วนความพยายามเพื่อเห็นสัจจะ ๒ นอกนี้ ก็เป็นเหมือนเหยียดมือจับภวัคคพรหม เหยียดเท้าไปต้องอเวจีนรก และเป็นเหมือนเอาปลายขนทราย กับปลายขนทรายที่แยกออก ๗ ส่วนให้จดติดกัน. สัจจะ ๒ เบื้องปลายเหล่านั้น (นิโรธสัจจะ คือ พระนิพพาน และ มัคคสัจจะ หรือ อริยมรรค) ชื่อว่าเห็นได้ยาก เพราะลึกซึ้งด้วยประการฉะนี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า นี้ ความรู้ในทุกข์ดังนี้เป็นต้น ทรงหมายถึงความเกิดญาณอันเป็นส่วนเบื้องต้น ในสัจจะ ๔ ที่ชื่อว่าลึกซึ้งเพราะเห็นได้ยาก และ ที่ชื่อว่าเห็นได้ยากเพราะลึกซึ้งด้วยอำนาจการกำหนด เป็นต้น ด้วยประการฉะนี้. ส่วนในขณะแทงตลอด ญาณ (ปฏิเวธญาณ) นั้นก็มีหนึ่งเท่านั้น


เพราะฉะนั้น สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้ เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างมาก ดังเมื่อที่พระองค์แรกตรัสรู้ เกิดความน้อมพระทัยที่จะไม่แสดงธรรม เพราะ พระองค์ทรงดำริว่า ธรรมที่เราตรัสรู้นั้น ลึกซึ้ง ยากที่สัตว์โลกที่เต็มไปด้วยกิเลสจะเข้าใจได้ จนพระพรหมต้องลงมาอาราธนาธรรมให้แสดงพระธรรม นี่แสดงถึงความลึกซึ้งของพระธรรม โดยเฉพาะหนทางการบรรลุธรรมที่เป็นอริยมรรคมีองค์ ๘ ครับ จึงไม่สามารถที่จะไปปฏิบัติด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยวิธีลัด หรือ เทคนิคอะไรเลย นอกจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญาอย่างยาวนานนับชาติไม่ถ้วน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 19 พ.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์ผเดิมมากครับ

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมครับ ข้อความที่กล่าวว่า

ในสัจจะเหล่านั้น

สัจจะ ๒ เบื้องต้น ชื่อว่า ลึกซึ้ง เพราะเห็นได้ยาก

สัจจะ ๒ เบื้องหลัง ชื่อว่า เห็นได้ยาก เพราะลึกซึ้ง.

อยู่ในพระสูตรใดครับ ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

ใน มหาสติปัฏฐานสูตร เล่มที่ ๑๔ ครับ

ตามลิงก์ข้างล่างนี้เลย ครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 360

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 19 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ง่าย เป็นสิ่งที่ยากละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่เหลือวิสัยที่จะเข้าใจได้ เพราะสิ่งที่จะเข้าใจตามความเป็นจริง ก็คือสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ปัญญาสามารถรู้ได้ตามความเป็นจริง บุคคลผู้ที่ได้รู้ตามความเป็นจริงมีแล้ว ซึ่งก็คือ พระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีต นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่สามารถศึกษาให้เข้าใจได้ ซึ่งจะต้องไม่ลืมว่า จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ซึ่งถ้าไม่มีการฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงเลย ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ หนทางที่จะเป็นไปเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม จะขาดปัญญาความเข้าใจถูก เห็นถูกไม่ได้เลย เป็นหนทางละ โดยตลอด ข้อวัตรปฏิบัติที่เป็นทางลัด หรือ วิธีลัด วิธีง่ายๆ ไม่มีในพระพุทธศาสนา เพราะถ้าเป็นทางลัด ทางง่าย นั่น เป็นทางที่ผิด ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 19 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"นี่เป็นทางสายเอกเท่านั้น"

มรรคมีองค์ ๘

ทางลัดก็คือ อวิชชา

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม, อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kinder
วันที่ 20 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 22 พ.ค. 2555

จุดประสงค์ของการฟังธรรมเพื่อความเข้าใจธรรมะ เพื่อละความไม่รู้ ถ้ามีความมั่นคง และ เข้าใจธรรมะจริงๆ จะไม่แสวงหาทางลัด เพราะไม่มี ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
dhanan
วันที่ 23 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ